[quote/]
แรกๆผมก็มึนเหมือนกันกับชื่อสามก๊กที่เราคุ้นปาก(ฮกเกี๋ยน) กับ ชื่อจีนกลาง
แต่พอเล่น Total war : Three Kingdoms บ่อยๆ ยิ่งโหมด multiplayer กับต่างชาติ ผมก็เริ่มชินกับชื่อจีนกลาง เลยไม่มึนแล้วเวลาต่างคนต่างเรียกชื่อตามสำเนียงต่างๆ
ในลำดับ 3 ลำดับ การหาเรื่องตียึดเมืองชาวบ้าน ผมให้ความสำคัญที่สุดคือการหาความชอบธรรมให้กับตัวเอง
ถ้าไม่หาความชอบธรรมแล้วยกทัพไปตีคนอื่นดื้อๆ มันจะโดนรุมตีนทันทีครับ
อย่างก่อนเจงกิสข่านบุกตีเปอร์เซีย อาจจะมองว่าเจงกิสข่านใช้แผนส่งทูตไปกวนตีนกษัตริย์เปอร์เซียจนบันดาลโทสะสั่งประหารทูต
และก็ใช้ข้ออ้างว่าตูเนี่ย ส่งทูตไปเจรจาไมตรีแล้ว แต่ดูพวกเปอร์เซียมันทำสิ ตัดหัวทูตและส่งกลับมา
ในเมื่อมันฆ่าคนของเรา เราจะปล่อยให้คนที่เป็นฆาตกรและลบหลู่ตูลอยนวลไม่ได้ ยกทัพไปกระทืบพวกเปอร์เซีย
เปอร์เซียก็เลยเอวังด้วยประการฉะนี้
อย่างกระบี่เย้ยยุทธจักร จ้อแน้เซียง ทำการแบบลับๆ และใช้ความชอบธรรมจากธงผู้นำกระบี่ห้าขุนเขาเล่นงานสำนักต่างๆได้สบาย
แต่หลังๆ เริ่มหาข้ออ้างชอบธรรมไม่ได้ ธงผู้นำก็เริ่มไม่มีใครฟัง พอกระทำการชั่วร้าย เลยถูกสำนักอื่นเริ่มรุม จนแพ้ภัยตัวเองในที่สุด
ประกอบกับคาดไม่ถึงที่งักปุกคุ้งใช้ความชอบธรรมจากสมญาณามตัวเองว่า กระบี่สุภาพบุรุษ หรือ กระบี่วิญญูชน คาบไปกินดื้อๆ
ทั้งที่ขุมกำลังฝั่งหัวซาน กับ ซงซานนี่ เรียกได้ว่า คนละชั้นกันเลย ซงซานมีคนมากกว่า มีฝีมือมากกว่า (ฝั่งหัวซานมีแค่ งักปุกคุ้ง งักฮูหยิน ลิ้มเพ้งจือ งักเล้งซัง 4 คน คนอื่นอ่อน)
ซงซานมียอดฝีมือเป็นสิบยี่สิบคน มีลูกศิษย์มากกว่าเป็นร้อย(แถมฝีมือศิษย์ระดับต่ำซงซานก็เก่งกว่ามาก)
ส่วนโลกแฟนตาซี ผมว่าราชา เจ้าเมืองทุกคนนี่เก่งนะ อย่าง Warhammer Karl Franz หรือ Louen Leoncoeur นี่ก็โหดมาก นอกจากการปกครองแล้ว การต่อสู้ประชิดก็ไม่ใช้เล่นๆ
ไม่งั้นโดนก่อกบฏยึดอำนาจได้สบายๆไปแล้ว ใครจะไม่เอาได้เป็นเจ้าเมืองแถมได้ใช้ภาษีจากประชาชน ชิวๆ ได้ใช้ชีวิต slowlife อย่างที่ตัวเองต้องการ
ที่ตัวเอกญี่ปุ่นต่างโลกสมัยใหม่ ผมมองว่าสังคมญี่ปุ่นเดิมมันวุ่นวายอยู่แล้วจึงมาหาความสงบบ้าง แต่เรื่องเทพทรูตบตัวร้ายเหมือนครีบ อันนี้ผมไม่ค่อยชอบ
เนื้อเรื่องมันจะไม่สนุก น่าติดตาม ถ้าตัวร้ายมันไม่เก่งจริงๆ หรือจะกล่าวอีกนัยหนึ่งว่า ยิ่งตัวร้ายเก่งแค่ไหน มันจะยิ่งเป็นตัวชูเรื่องให้น่าติดตามอ่าน
เหมือน Batman ที่ไม่มี Joker มันก็ไม่สนุกหรอกครับ ยิ่งตัวเอกเก่ง ตัวร้ายยิ่งต้องเก่งหรือเก่งกว่า
ก็นั่นล่ะครับ
กิมย้งบรรยายการเมืองได้ค่อนข้างดีว่า
พวกเก๋าๆในยุทธภพก็ใช่ว่าจะถูกจ้อแน้เซี้ยงหลอก
และแสดงว่า วัดเส้าหลินหรือบู๊ตึ้ง เห็นอย่างนั้น เทพมากในเรื่องสายข่าวของแผ่นดินเป็นสำนักที่คิดจะวางระเบิดอีกต่างหากแน่นอนจริงๆ
ในแนว warhammer เพราะผู้นำมีของโกงด้วยน่ะครับ ทางเทคนิคทหารเอกของเอ็มไพร์นั้นเก่งกว่า แต่คาร์ล ฟรานซ์มีของโกงกว่าก็ว่ากันไปเพราะออกแนวนักการเมืองด้วย
แต่ผู้ปกครองนั้นมีข้อดีคือประทับร่างซิกม่าร์ได้นั่นล่ะครับ
แสดงให้เห็นจริงว่าการปกครองได้รับการรับรองจากเทพเจ้าผู้ก่อตั้งอาณาจักนจริงๆ
ผมเคยลองถาม GM ;่า ตกลงสงครามศาสนาเกิดขึ้นหมายความว่าอย่างไร? ซืกม่าเข้าข้างนักบวชทั้งสองฝ่าย?
GM คนหนึ่งตอบว่าใช่ ซิกม่าจะให้พรทั้งสองฝใ่ายถ้ามีความเชื่อ อีก GM ก็บอกว่าหากทั้งสองฝ่ายมีพรเหมือนกันแปลว่าต้องมีบางอย่างผิดปรกติแล้ว
ที่ถามก็เพราะทางเทคนิค อัศวินบริททอนเนียนั้นมีการป้องกันจากเลดี้ แล้วพวกนี้ก็ติดนิสัยประลองกันเองอยู่บ่อยๆ
มันเป็นเรื่องของการเอาอำไนาจอะไรมาอ้างในการปกครองด้วยเหมือนกันน่ะครับ
ว่าหากเทพเจ้ารับรองก็ไม่มีใครว่าอะไร
ปัญฯหาแผนตาซีอีกอย่างที่น่าสนใจคือ เทพเจ้านับถือศาสนาต่างกันนี่ล่ะ
เรื่องเกทก็เคยมีมุกศาสนาเทพเจ้าองค์เดียวไปเผาหอสมุดประมาณอเล็กซานเดรียของโลกนั้นเข้า
ความจริงแล้วงโลกที่มีเทพเจ้าเดินไปเดินมาก็ไม่ควรจะมีใครสามารถนับถือเทพเจ้าองค์เดียวได้นะ
ยิ่งถ้ามีพลังจริงๆ พระเจ้าส่งสาวกลงมาพูดแทนตนเองได้ด้วยนี่ก็
..
พูดถึงเรื่องความแตกต่างอย่างเห็นได้ชัดในสิ่งที่ทำให้ขุนนางดูสูงส่งกว่า
ในบริททอนเนีย อัศวินก็ตัวสูงใหญ่ หน้าตาหล่อเหลา ผู้หยิงงดงามอ่อนช้อย..ในระดับขุนนางส่วนชาวบ้านผสมพันธุ์กันเองหลายชั่วคน สติปัญญาทึบ หน้าตาหน้าเกลียด มือและเท้าบิดเก ตาเหล่ฯลฯ
มันคือสิ่งที่แสดงให้เห็นว่าขขุนนางต่างกับชาวบ้านทั่วไป
คำว่าความเท่าเทียมกันไม่มีอยู่ในความคิดของทุกคนเลย
ซึ่งเทพเจ้าก้สนับสนุนแนวคิดเช่นนั้นอีกต่างหาก