แหล่งนิยายแปล แหล่งนิยาย นิยายแปล นิยายแต่ง มังงะ การ์ตูน อนิเมะ นายท่าน เว็บไซต์นายท่าน กระทู้สไลม์ สไลม์ยอดรัก

ผู้เขียน หัวข้อ: รวบรวมเกร็ดเล็กๆน้อยๆ : 10 อันดับ จักรวรรดิที่มีอาณาเขตใหญ่ที่สุดในโลก (#15)  (อ่าน 1235 ครั้ง)

ออฟไลน์ Taw

  • หัวหน้าฝูงหมีใหญ่
  • *****
  • กระทู้: 1,352
  • ถูกใจแล้ว: 584 ครั้ง
  • ความนิยม: +47/-605
กระทู้นี้จะเป็นการรวบรวมคอนเทนต์ต่างๆเกี่ยวกับประวัติศาสตร์ที่ผมสนใจจากแหล่างต่างๆครับ หัวข้อกระทู้จะมีการเปลี่ยนตามโพสต์ล่าสุด 
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: พฤษภาคม 15, 2021, 04:38:00 PM โดย Taw »
 

ออฟไลน์ Taw

  • หัวหน้าฝูงหมีใหญ่
  • *****
  • กระทู้: 1,352
  • ถูกใจแล้ว: 584 ครั้ง
  • ความนิยม: +47/-605
Re: กระทู้รวบรวมประวัติศาสตร์ฮาร์ดคอร์
« ตอบกลับ #1 เมื่อ: พฤษภาคม 10, 2021, 09:33:07 AM »
ประเดิมด้วยเกร็ด ปวศ แรก

ยุคโชวะยุคแห่งการล้างสมองครั้งใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์ญี่ปุ่น



เนื้อความโดยย่อ
ยุคสมัยโชวะกินเวลายาวนาน 64 ปี สิ้นสุดที่การเสด็จสวรรคตของจักรพรรดิฮิโรฮิโต ญี่ปุ่นเปลี่ยนยุคมาสู่ยุคสมัยเฮเซ (ค.ศ. 1989-2019) อันเป็นยุคของจักรพรรดิอะกิฮิโต ซึ่งถูกมองว่าเป็นจักรพรรดิสมัยใหม่ ก่อนพระองค์สละราชสมบัติเมื่อเดือนพ.ค. 2019 และก้าวเข้าสู่รัชสมัยเรวะ ในเวลาต่อมา

ในช่วงเวลานี้ชาติญี่ปุ่นเริ่มมีความเป็นรัฐเผด็จการทหารมากขึ้น จากการที่ตำแหน่งนายกรัฐมนตรีจากประชาชนถูกทหารโค่นล้ม และกองทัพญี่ปุ่นนอกประเทศแถบเอเชียเช่น จีน ก็ยังคงวางกองกำลังเพื่อแทรกแซงกิจการบ้านเมืองของชาติอื่นอย่างต่อเนื่อง และช่วงนั้นเองประเทศจีนก็อยู่ระหว่างการผลัดเปลี่ยนแผ่นดินด้วยการสู้รบระหว่างคอมมิวนิสต์และประชาธิปไตยของเจียงไคเช็คและเหมาเจ๋อตุง ทำให้เป็นช่องโหว่สำคัญในการถูกญี่ปุ่นรุกคืบชิงดินแดนบางส่วนของจีนอย่างเหี้ยมโหด โดยเฉพาะเมืองนานกิง ที่เป็นอุบัติการณ์อันอำมหิตที่สุดหน้าหนึ่งของประวัติศาสตร์โลกนั่นเอง…

เมื่อเข้าสู่ปี 1926 องค์ชายฮิโรฮิโตสืบราชสมบัติจักรพรรดิและเปลี่ยนเป็นรัชสมัยยุคโชวะ
เริ่มต้นในยุคโชวะ รัฐธรรมนูญญี่ปุ่นมีรูปแบบการผสมผสานกันระหว่างราชาธิปไตยภายใต้รัฐธรรมนูญกับสมบูรณาญาสิทธิราชย์ดังนั้นรัฐธรรมนูญจึงให้อำนาจสูงสุดแก่องค์จักรพรรดิญี่ปุ่นและคณะรัฐบาลทหาร ส่งผลให้ญี่ปุ่นในช่วงนั้นมีความเป็นอนุรักษ์นิยมสูงพวกนักการเมืองคลั่งชาติขวาจัดเกิดขึ้นเป็นจำนวนมาก พวกมันร่วมมือกับกลุ่มอำนาจนิยมทหารชาตินิยมหัวรุนแรงปฏิวัติยึดอำนาจและได้นำพาประเทศญี่ปุ่นไปสู่ลัทธิทหารนิยม ซึ่งวิวัฒนาการของลัทธิชาตินิยมคลั่งชาติของพวกอนุรักษ์นิยมที่ได้นำไปสู่ลัทธิทหารซึ่งสืบทอดต่อเนื่องมาจากยุคเมจิ 

ลัทธิทหารนิยมขยายอำนาจจนครอบงำการเมืองญี่ปุ่นในช่วงยุคต้นโชวะ ทำให้จักรพรรดิโชวะมีฐานะเป็นสมมุติเทพและเป็นจอมทัพสูงสุดของญี่ปุ่น ความต้องการอันแรงกล้าของพวกขวาจัดในญี่ปุ่นในขณะนั้น คือการสร้างจักรวรรดิญี่ปุ่นที่ยิ่งใหญ่คับเอเชีย   

นักการเมืองฝ่ายกลางและฝ่ายซ้ายถูกไล่ล่าเข่นฆ่าเป็นจำนวนมากในยุคนี้ ดังนั้นในยุคเริ่มต้นปีโชวะจึงเต็มไปด้วยความรุนแรงจากปัญหาการใช้อำนาจอันไม่เป็นธรรมของพวกขวาจัด  แต่ฝ่ายขวาจัดเองก็ยังแตกออกเป็น 2 ขั้วอำนาจ ขั้วหนึ่งคือ คือพวกรักชาติเพื่อมุ่งให้ชาติเจริญ  อีกพวกหนึ่งมุ่งขยายจักรวรรดิเพื่อผลประโยชน์ของตัวเอง

ช่วงเวลานั้นประชาชนโดยทั่วไปซึ่งโดนล้างสมองอย่างหนักเพื่อความฝันในการเป็นมหาอำนาจของเอเชีย  ช่วงเวลานั้นญี่ปุ่นต้องการบุคคลากรที่เต็มใจถวายชีวิตเพื่องานการรบจำนวนมากๆ  เพราะเป็นช่วงเวลาที่ญี่ปุ่นเริ่มทำสงครามเพื่อทดสอบแสนยานุภาพของกองทัพและกอปรกับญี่ปุ่นสามารถพัฒนากองทัพที่มีแสนยานุภาพเกริกไกรทดเทียมกับชาติในยุโรปได้แล้ว  ญี่ปุ่นในยุคโชวะได้แปรสภาพเป็นจักรวรรดิญี่ปุ่นเต็มตัวแล้ว  นับเป็นอีกหนึ่งชาติที่มีส่วนสำคัญต่อสงคราม รวมไปถึงมีส่วนต่อการสังหารชีวิตผู้คนมากมาย

แนวคิดแบบทหารนิยมนี้แทรกซึมเข้าไปในทุกภาคส่วนของสังคมญี่ปุ่น มีการสอนให้เยาวชนญี่ปุ่นรักชาติ เสียสละ-พลีชีพเพื่อชาติ และต่อต้านประชาธิปไตย ระบบการศึกษาที่มีประสิทธิภาพของญี่ปุ่นเป็นสื่อที่สร้างความรักชาติและการทำเพื่อชาติได้เป็นอย่างดี  เป็นการศึกษาที่เน้นความจงรักภักดีต่อสถาบัน มากกว่าการหาความรู้แบบสากล ในโรงเรียนทั่วไป วิชาที่เรียนตามโรงเรียนก็ถูกเปลี่ยนไปมาเน้นเรื่องชาตินิยมแทน เช่น มีการให้เขียนเรียงความเกี่ยวกับความพร้อมในการสละชีพเพื่อองค์พระจักรพรรดิ 

ช่วงเวลานั้น ชาวญี่ปุ่นมีความเชื่อว่าสามารถตายเพื่อสมเด็จพระจักรพรรดิโดยไม่มีข้อแม้และไม่เสียดายชีวิต การตายที่มีเกียรตินี้จะทำให้วิญญาณของชาวญี่ปุ่นกลับมาเกิดใหม่ในดินแดนอาทิตย์อุทัยในครอบครัวที่มีความสุข "สมเด็จพระจักรพรรดิองค์เก่า (ฮิโรฮิโตะ) ทำตัวเป็นพระเจ้า ชาวญี่ปุ่นถูกสอนว่าจักรพรรดิเป็นเทพพระเจ้า  มีการส่งทหารมาประจำตามโรงเรียนตั้งแต่ระดับมัธยมขึ้นไปเพื่อมาฝึกการรบให้แก่นักเรียน  และเกณฑ์เยาวชนไปฝึกทหาร มีการล้างสมองหมู่อย่างหนักจนเด็กบางคนจากคนที่เคยเป็นคนไม่ชอบความรุนแรงก็กลายสภาพเป็นพวกจักรวรรดินิยมหัวรุนแรงอย่างเต็มตัว รวมถึงญี่ปุ่นได้นำลัทธิล้างสมองนี้ไปเปลี่ยนแปลงคนบนเกาะไต้หวันทุกเผ่าพันธ์ให้กลายสภาพเป็นคนญี่ปุ่นไปด้วยโดยใช้เวลา50ปีนับตั้งแต่ยุคต้นปีโชวะ จากนั้นกองทัพญี่ปุ่นก็ส่งคนเหล่านั้นไปรุกรานทั่วคาบสมุทธเกาหลีและเอเชียตะวันออกเฉียงใต้

เหมือนคนได้ใจเมื่อได้รับชัยชนะอย่างต่อเนื่องในที่สุดกองทัพญี่ปุ่นก็เหิมเกริมเข้าโจมตีฐานทัพเรือสหรัฐที่อ่าว เพิร์ลฮาร์เบอร์  นำพาญี่ปุ่นเข้าสู่สงครามโลกครั้งที่สองอย่างเต็มตัว แต่แล้วผลจากการการรบกับอเมริกา ญี่ปุ่นต้องออกจากความฝันเพื่อพบกับความเป็นจริง กองเรือญี่ปุ่นพินาศสิ้นในศึกที่มิดเวย์  ส่งผลให้ช่วงเวลาต่อมากองทัพญี่ปุ่นพ่ายแพ้ต่อกองทัพอเมริกาในทุกแนวรบ

ในที่สุดกองกองทัพอเมริกาก็บุกเข้าประชิดจักรวรรดิญี่ปุ่น เข้าปิดล้อมหมู่เกาะริวกิวเพื่อใช้เป็นฐานการรุกเข้าทำลายจักรวรรดิญี่ปุ่น กองกำลังอเมริกากว่าห้าแสนนาย เรือรบและเครื่องบินรบเต็มอัตรา บุกเข้าเข่นฆ่าประชาชนและทหารของสมเด็จองค์พระจักร พรรดิอย่างเมามัน  กองกำลังจักรวรรดิญี่ปุ่นเสื่อมถอยลงอย่างรวดเร็ว

ในวาระสุดท้ายนี้กลุ่มขวาจัดยังไม่ยอมรับความพ่ายแพ้พวกมันใช้ทหารญี่ปุ่นเป็นโล่มนุษย์ กองทัพเรือเริ่มมีการใช้กลยุทธจ้าวพายุยอมตายถวายตัวเป็นลูกขององค์พระจักรพรรดินักบินกองทัพเรือญี่ปุ่นสังเวยชีวิตไปในภารกิจพลีชีพนี้ ถึง 2,525 นายและนักบิน ของกองทัพบกญี่ปุ่นเสียชีวิต 1,387 นาย นักบินพลีชีพคะมิกะเซะส่วนใหญ่จะมีอายุอยู่ในช่วง 20 ปี ส่วนมากเป็นนักศึกษาทางด้านวิทยาศาสตร์ในมหาวิทยาลัย แรงจูงใจที่ทำให้นักศึกษาเหล่านี้เข้าร่วมเป็นนักบินพลีชีพของกองทัพมาจากความคลั่งชาติ และความปรารถนาที่จะนำเกียรติยศมาสู่วงศ์ตระกูลของตนเอง ด้วยการสละชีพเป็นชาติพลี และเพื่อพิสูจน์คุณค่าของความเป็นลูกผู้ชาย ซึ่งกลายเป็นความนิยมรักชาติของวัยรุ่นญี่ปุ่นในขณะนั้น

วันที่ 18 มิถุนายน ปี 1945 เมื่อทหารอเมริกานับแสนขึ้นเกาะโอกินาว่าสำเร็จพลเอกอุชิจิม่า แม่ทัพกองทัพปกป้องโอกินาว่า สั่งสลายหน่วยทหาร และยุบปฏิบัติการ แต่กำชับให้สู้แลกชีวิตกับทหารอเมริกา เพื่อถวายชีวิตเป็นราชพลี ทหารญี่ปุ่นจำนวนมากที่คลั่งชาติได้ดื่มเหล้าย้อมใจและถือดาบถือปืนวิ่งเข้าใส่ปืนกลของทหารอเมริกาจบชีวิตจนหมดสิ้น แต่ทหารญี่ปุ่นบางส่วนก็หนีตายเข้าไปหลบซ่อนตัว ในที่พัก สุสาน และถ้ำหินปูนร่วมกับชาวบ้านที่หลบหนีการรบ  ทหารอเมริกาจำนวนมากที่ไล่ติดตามมาจำเป็นต้องสังหารชาวญี่ปุ่นทุกคนในที่ซ่อน เนื่องจากไม่สามารถแบ่งแยกแยะได้ว่าใครคือทหารญี่ปุ่นและใครคือประชาชนโอกินาว่า

ทหารผ่านศึกชาวญี่ปุ่น “โนบุโอะ นิชิซากิ”  ซึ่งผ่านช่วงเวลานั้นมากล่าวว่า “
ในช่วงเวลาแรกของสงครามเราถูกส่งไปตายเพื่อสมเด็จพระจักรพรรดิ และจักรวรรดิญี่ปุ่น
 และทุกคนก็ฮึกเหิมและทำเหมือนเป็นเชื่อในสิ่งนั้น”
 แต่ในช่วงเวลาที่พวกเรากำลังจะตาย พวกทหารอายุน้อยๆ ก็กรีดร้องเรียกหาแม่
 ส่วนเหล่าทหารแก่ๆก็ร้องเรียกชื่อลูกหลาน“
“ไม่ได้ยินใครเรียกหาสมเด็จพระจักรพรรดิและจักรวรรดิญี่ปุ่นเลยสักคนเดียว”(โนบุโอะ นิชิซากิ ต้องออกจากบ้านไปร่วมกับกองทัพเรือตั้งแต่ปีค.ศ.1942 ในวัยเพียง 15 ปีเขาเป็นทหารเรือที่ร่วมรบในสงครามทางเรือเขาตระเวนทำสงครามในแปซิพิคตั้งแต่ในมิดเวย์และถูกต้อนมาทำสงครามฆ่าตัวตายในโอกินาว่า) 

ในการรบที่โอกินาว่า เมื่ออำนาจการทหารทั้งหมดสูญสิ้นลงอย่างเด็ดขาด ประชาชนก็ไม่มีอะไรเหลือเลยแม้แต่ชีวิต การรบครั้งนั้นทหารญี่ปุ่นเกือบทั้งหมดกว่า 76,000 คน และพลเรือน150,000คนถูกฆ่าตาย โนบุโอะ นิชิซากิ กล่าวต่อไปว่า แม่ของเขาสั่งว่า “ลูกต้องรอดตายกลับมานะ” และเขาก็ยึดมั่นในคำขอของแม่อย่างเคร่งครัด อดทนต่อความอดอยากและโรคร้ายและโชดดีจากการหลบซ่อนตัว จนรอดกลับมาหามารดาได้ในที่สุด

        และแล้วช่วงเวลาต่อมา ประธานาธิบดีทรูแมนตัดสินใจใช้ระเบิดนิวเคลียร์ลงโทษต่อความโหดเหี้ยมจักรวรรดิญี่ปุ่นในสงครามโอกินาว่า  และเมื่อสงครามได้สิ้นสุดลงในปี 1945 ด้วยการยอมจำนนอย่างไม่มีเงื่อนไขของญี่ปุ่น แน่นอนว่าเหล่าบุคคลระดับสูงของญี่ปุ่นที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการนำพาให้ญี่ปุ่นเข้าสู่สงครามนั้น จะต้องถูกพิพากษาลงโทษในฐานะที่เป็น "อาชญากรสงคราม" ซึ่งหนึ่งในบุคคลที่จะต้องถูกพิพากษาในฐานะของอาชญากรสงคราม ก็หนีไม่พ้นสมเด็จพระจักรพรรดิโชวะ (Showa) หรือสมเด็จพระจักรพรรดิฮิโรฮิโตะ (Hirohito) ผู้เป็นประมุขสูงสุดแห่งจักรวรรดิญี่ปุ่นนั่นเอง

แต่ปรากฏว่าสมเด็จพระจักรพรรดิฮิโรฮิโตะ พระองค์ก็ได้รอดพ้นจากสถานะของการเป็นอาชญากรสงครามเพราะอเมริกาไม่ต้องการให้เกิดการฆ่าล้างแค้นและการใช้ระเบิดพลีชีพโดยชาวญี่ปุ่นดังนั้นหากเกิดการล้มล้างระบอบจักรพรรดิขึ้นมา ชาวญี่ปุ่นจะต้องลุกฮือขึ้นต่อสู้ และความวุ่นวายก็จะไม่มีวันจบสิ้น และมีชาวญี่ปุ่นบางกลุ่มให้ข้อมูลว่าในช่วงสงครามสมเด็จพระจักรพรรดิฮิโรฮิโตะ อาจจะทรงเป็น "เหยื่อ" ของเหล่านายพลและรัฐบาลนิยมเผด็จการทหารในช่วงเวลานั้นมากกว่า และพระองค์ก็ไม่ได้มีอำนาจในสั่งการใด ๆ ในสงคราม และพระองค์ก็ได้เป็นประมุขสูงสุดของญี่ปุ่นต่อไป จนกระทั่งสวรรคตในปี 1989

cr.1
https://www.silpa-mag.com/history/article_2158
cr.2
https://www.bbc.com/thai/international-48097622


ความเต็ม https://m.facebook.com/groups/283213715860116/permalink/898833430964805/
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: พฤษภาคม 10, 2021, 03:17:54 PM โดย Taw »
 
เหล่าหมีที่ถูกใจสิ่งนี้: Black7nos

ออฟไลน์ Black7nos

  • แม่ทัพหมีอาวุโส
  • ****
  • กระทู้: 4,207
  • ถูกใจแล้ว: 3281 ครั้ง
  • ความนิยม: +208/-279
Re: กระทู้รวบรวมประวัติศาสตร์ฮาร์ดคอร์
« ตอบกลับ #2 เมื่อ: พฤษภาคม 10, 2021, 11:55:46 AM »
การเมืองภายในญี่ปุ่นตอนนั้นก็โหนเจ้ากันเป็นว่าเล่น โดยเฉพาะแม่ทัพญี่ปุ่น ทุกคนต่างอ้างตัวว่าเป็นผู้ที่จงรักภักดีต่อจักรพรรดิยิ่งกว่าคนอื่น


และยังใช้ Propaganda สร้างค่านิยมให้คนไปตายแทนตนเอง ทำเรื่องสยดสยองอย่าง Kamikaze


บางคนอาจจะมองยกย่องชาตินิยมจัดของญี่ปุ่น แต่ผมมองว่ามันคือโศกนาฏกรรม ผมมองว่าไม่มีใครสมควรถูกล้างสมองให้ไปตายแทนใคร


การที่คนจะสู้ตายหรือไม่สู้ตาย มันควรจะเป็นตัวของเขาเองที่กำหนดและเลือกทางของตัวเอง เพราะตัวเองเท่านั้นที่รู้แก่ใจดีว่าสู้ไปทำไมและสู้เพื่อใคร
ผู้กล้าอาณาจักรกุหลาบ https://goshujin.tk/index.php/topic,15078.0.html
ึคุณพ่อผมถูกเอาเงินจ้างฟาดหัว ผมเลยต้องมาเป็นนักมวยไทยที่ต่างแดน https://goshujin.tk/index.php?topic=32172.msg796105#msg796105
 
เหล่าหมีที่ถูกใจสิ่งนี้: daijobu, Taw

ออฟไลน์ KAGUYA

  • ผู้สนับสนุนเซนนิคุงY2
  • จอมพลหมีผู้เกรียงไกร
  • ****
  • กระทู้: 20,223
  • ถูกใจแล้ว: 6465 ครั้ง
  • ความนิยม: +540/-544
Re: กระทู้รวบรวมประวัติศาสตร์ฮาร์ดคอร์
« ตอบกลับ #3 เมื่อ: พฤษภาคม 10, 2021, 02:26:33 PM »
ยุคโชวะนี่ ผมมองว่าเป็นภาคต่อของยุคเฮอันช่วงปลายนะที่จักรพรรดิ์กลายเป็นแค่หุ่นเชิดของพวกแม่ทัพขุนนาง แต่มันเลวร้ายกว่าตรงประชาชนโดนยัดเยียดความเชื่อล้างสมองจนคล้อยตามรัฐบาลทหารไปทุกอย่างเหมือนพวกคลั่งศาสนานี่แหละ
 
เหล่าหมีที่ถูกใจสิ่งนี้: daijobu, Black7nos, Taw และมีอีก 0 หมีที่ถูกใจสิ่งนี้

ออฟไลน์ Taw

  • หัวหน้าฝูงหมีใหญ่
  • *****
  • กระทู้: 1,352
  • ถูกใจแล้ว: 584 ครั้ง
  • ความนิยม: +47/-605
Re: กระทู้รวบรวมประวัติศาสตร์ฮาร์ดคอร์
« ตอบกลับ #4 เมื่อ: พฤษภาคม 10, 2021, 03:53:01 PM »
ยุคโชวะนี่ ผมมองว่าเป็นภาคต่อของยุคเฮอันช่วงปลายนะที่จักรพรรดิ์กลายเป็นแค่หุ่นเชิดของพวกแม่ทัพขุนนาง แต่มันเลวร้ายกว่าตรงประชาชนโดนยัดเยียดความเชื่อล้างสมองจนคล้อยตามรัฐบาลทหารไปทุกอย่างเหมือนพวกคลั่งศาสนานี่แหละ

การเมืองภายในญี่ปุ่นตอนนั้นก็โหนเจ้ากันเป็นว่าเล่น โดยเฉพาะแม่ทัพญี่ปุ่น ทุกคนต่างอ้างตัวว่าเป็นผู้ที่จงรักภักดีต่อจักรพรรดิยิ่งกว่าคนอื่น


และยังใช้ Propaganda สร้างค่านิยมให้คนไปตายแทนตนเอง ทำเรื่องสยดสยองอย่าง Kamikaze


บางคนอาจจะมองยกย่องชาตินิยมจัดของญี่ปุ่น แต่ผมมองว่ามันคือโศกนาฏกรรม ผมมองว่าไม่มีใครสมควรถูกล้างสมองให้ไปตายแทนใคร


การที่คนจะสู้ตายหรือไม่สู้ตาย มันควรจะเป็นตัวของเขาเองที่กำหนดและเลือกทางของตัวเอง เพราะตัวเองเท่านั้นที่รู้แก่ใจดีว่าสู้ไปทำไมและสู้เพื่อใคร 

เพื่อนผมเล่าให้ฟัง ว่าถ้าญี่ปุ่นไม่แพ้สงครามจนคนตาสว่างเรื่องจักรพรรดิ์ ญี่ปุ่นก็ไม่ต่างกับไทย คือมีเจ้าให้โหน คุมด้วยรัฐบาลทหาร เพราะช่วงแพ้สงคราม ลูกเมียทหารที่ตายในสงครามก็เริ่มไม่ชอบจักรพรรดิ์ตั้งแต่ช่วงนั้นกัน สถานะผู้แพ้สงครามเลยต้องเจียมตัวอยู่ใต้รัฐธรรมนูญ
 

ออฟไลน์ Taw

  • หัวหน้าฝูงหมีใหญ่
  • *****
  • กระทู้: 1,352
  • ถูกใจแล้ว: 584 ครั้ง
  • ความนิยม: +47/-605
Re: กระทู้รวบรวมเกร็ดเล็กๆน้อยๆ
« ตอบกลับ #5 เมื่อ: พฤษภาคม 10, 2021, 04:15:59 PM »
‘กรณ์ จาติกวณิช’ ชี้ระบบราชการไทยใช้งบประมาณสูงติดอันดับต้น ๆ ของโลก แนะปฏิรูประบบราชการด่วน ด้วยการลดขนาด ใช้เทคโนโลยีดิจิทัล เพิ่มประสิทธิภาพการทำงาน หากต้องการนำพาประเทศรอดพ้นวิกฤต



เนื้อหาโดยย่อ

นายกรณ์ จาติกวณิช หัวหน้าพรรคกล้า และอดีตรมว.คลัง เปิดเผยว่า การขับเคลื่อนประเทศไทยให้รอดพ้นจากวิกฤตจำเป็นต้องเร่งหาทางแก้ปัญหาทางด้านเศรษฐกิจที่มีอยู่หลายเรื่อง

“ปัจจุบันประเทศไทยมีการจัดเก็บภาษีได้เพียง 16% ของจีดีพี ส่วนค่าใช้จ่ายของราชการในแต่ละปีนั้นคิดเป็นสัดส่วนประมาณ 50% ของภาษีที่จัดเก็บได้ในแต่ละปี ขณะที่ในกลุ่มประเทศที่อยู่ภายใต้องค์การเพื่อความร่วมมือทางเศรษฐกิจและการพัฒนา หรือ โออีซีดี เก็บภาษีได้ประมาณ 35% ทำให้เห็นว่าประเทศไทยมีสัดส่วนงบประจำสูงเกินครึ่ง สวนทางกับประสิทธิภาพ เพราะเมื่องบเยอะขึ้นทุกปี สะท้อนได้ว่าหน่วยงานราชการก็ต้องมีขนาดใหญ่ขึ้น หากไม่เร่งแก้ไปจะทำให้การปฏิรูประบบราชการทำได้ยาก”


เนื้อหาเต็ม

https://thestatestimes.com/post/2021040518?fbclid=IwAR1jkeF7WIGRHjRPawzFMaYZjmXSRV5KYMRl1KXHmBoGR1cDaPccdzOEGzo

https://www.facebook.com/thestatestimes/photos/a.127028975806238/277192134123254
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: พฤษภาคม 10, 2021, 04:17:45 PM โดย Taw »
 

ออฟไลน์ Black7nos

  • แม่ทัพหมีอาวุโส
  • ****
  • กระทู้: 4,207
  • ถูกใจแล้ว: 3281 ครั้ง
  • ความนิยม: +208/-279
Re: รวบรวมเกร็ดเล็กๆน้อยๆ : ค่าใช้จ่ายราชการ
« ตอบกลับ #6 เมื่อ: พฤษภาคม 10, 2021, 04:29:10 PM »
‘กรณ์ จาติกวณิช’ ชี้ระบบราชการไทยใช้งบประมาณสูงติดอันดับต้น ๆ ของโลก แนะปฏิรูประบบราชการด่วน ด้วยการลดขนาด ใช้เทคโนโลยีดิจิทัล เพิ่มประสิทธิภาพการทำงาน หากต้องการนำพาประเทศรอดพ้นวิกฤต

[img/]

เนื้อหาโดยย่อ

นายกรณ์ จาติกวณิช หัวหน้าพรรคกล้า และอดีตรมว.คลัง เปิดเผยว่า การขับเคลื่อนประเทศไทยให้รอดพ้นจากวิกฤตจำเป็นต้องเร่งหาทางแก้ปัญหาทางด้านเศรษฐกิจที่มีอยู่หลายเรื่อง

“ปัจจุบันประเทศไทยมีการจัดเก็บภาษีได้เพียง 16% ของจีดีพี ส่วนค่าใช้จ่ายของราชการในแต่ละปีนั้นคิดเป็นสัดส่วนประมาณ 50% ของภาษีที่จัดเก็บได้ในแต่ละปี ขณะที่ในกลุ่มประเทศที่อยู่ภายใต้องค์การเพื่อความร่วมมือทางเศรษฐกิจและการพัฒนา หรือ โออีซีดี เก็บภาษีได้ประมาณ 35% ทำให้เห็นว่าประเทศไทยมีสัดส่วนงบประจำสูงเกินครึ่ง สวนทางกับประสิทธิภาพ เพราะเมื่องบเยอะขึ้นทุกปี สะท้อนได้ว่าหน่วยงานราชการก็ต้องมีขนาดใหญ่ขึ้น หากไม่เร่งแก้ไปจะทำให้การปฏิรูประบบราชการทำได้ยาก”


เนื้อหาเต็ม

https://thestatestimes.com/post/2021040518?fbclid=IwAR1jkeF7WIGRHjRPawzFMaYZjmXSRV5KYMRl1KXHmBoGR1cDaPccdzOEGzo

https://www.facebook.com/thestatestimes/photos/a.127028975806238/277192134123254


ผมไม่ได้มีปัญหาเรื่องเก็บภาษีแพงนะ จะเก็บผม 50% ก็ได้ ผมไม่ได้ว่าอะไร เพียงแต่ผมต้องได้กลับมาเกิน 50% ที่ผมจ่ายก็แล้วกัน
ผู้กล้าอาณาจักรกุหลาบ https://goshujin.tk/index.php/topic,15078.0.html
ึคุณพ่อผมถูกเอาเงินจ้างฟาดหัว ผมเลยต้องมาเป็นนักมวยไทยที่ต่างแดน https://goshujin.tk/index.php?topic=32172.msg796105#msg796105
 
เหล่าหมีที่ถูกใจสิ่งนี้: Taw

ออฟไลน์ Taw

  • หัวหน้าฝูงหมีใหญ่
  • *****
  • กระทู้: 1,352
  • ถูกใจแล้ว: 584 ครั้ง
  • ความนิยม: +47/-605
5 โรคสุดแปลกของเหล่าสตรี ที่คนสมัยนี้เห็นแล้วต้อง 'งง'



ความย่อ

ยุคที่ความรู้ทางการแพทย์ยังไม่ก้าวหน้ามากมายนัก เวลาเกิดโรคภัยไข้เจ็บบางอย่างขึ้นมา ผู้คนมักจะตีความอาการกันไปเอง ตามค่านิยมหรือความเชื่อในช่วงนั้น ๆ

โรคใบหน้าจักรยาน
การปั่นจักรยานไปไหนมาไหนด้วยใบหน้าท้าลมน่ะดูน่าเกลียด แถมยังน่าอึดอัด ไม่ชวนมองเอาซะเลย ด้วยเหตุนี้อากัปกิริยาขณะปั่นของหญิงสาว จึงกลายเป็นชื่อโรคไปโดยปริยาย มิหนำซ้ำยังมีแพทย์ชายบางคนออกมาพูดอีกว่า การปั่นจักรยานจะนำไปสู่อาการปวดหัว อ่อนเพลีย และใจสั่น

ครรภ์พเนจร
แม้แต่ในสมัยกรีกโบราณเอง ก็ยังมีโรคสุดแปลกประหลาดที่เกี่ยวโยงกับความลึกลับ! โดยกล่าวถึงหญิงตั้งครรภ์ว่าต้องระวังเรื่องครรภ์ที่เดินทางออกจากร่างกายของหญิงสาวได้ ซึ่งคำบอกเล่าเหล่านี้อาจส่งผลต่ออารมณ์และสุขภาพของเธอ ฟังดูแล้วน่าแปลกมากเลยใช่ไหมล่ะ เพราะแม้แต่ Hippocrates บิดาแห่งการแพทย์แผนปัจจุบันก็แสดงความกังวลเกี่ยวกับเรื่องนี้

ฮิสทีเรีย (Hysteria) : กลายเป็นคนป่วยเพราะอยากช่วยตัวเอง
เป็นโรคที่เกิดในหญิงตั้งครรภ์ โดยพวกเธอจะมีอาการวิตกกังวล นอนไม่หลับ หงุดหงิด
อาจเป็นเพราะในสมัยก่อน การสำเร็จความใคร่ด้วยตนเอง ยังถูกมองว่าเป็นเรื่องแปลก ยิ่งเกิดกับเพศหญิงที่ในยุคนั้นถือเป็นเพศที่ไร้ซึ่งอำนาจโต้เถียงแล้ว ยิ่งทำให้มันดูแปลกประหลาดจนถูกวินิจฉัยว่าเป็นโรคอย่างหนึ่ง ซึ่งหญิงสาวที่ป่วยเป็นโรคนี้จะถูกมองว่าเป็นอันตรายต่อการตั้งครรภ์เนื่องจากภาวะเจริญพันธุ์ต่ำ ทำให้ไวเบรเตอร์ได้กลายมาเป็นอุปกรณ์ทางการแพทย์ที่ใช้รักษาอาการเหล่านี้ ในช่วงปลายศตวรรษที่ 19 นั่นเอง

โรคป่วยทิพย์
พบมากในยุควิคตอเรียจนถึง ค.ศ.1920 เนื่องจากผู้หญิงสมัยนั้นมักถูกมองว่าอ่อนแอ แถมยังมีค่านิยมเรื่องการเป็นลม ที่ถูกมองว่าน่ารัก (จะเป็นจริงหรือแกล้งก็ได้นะ) ซึ่งจริงๆ แล้วอาจเป็นเป็นแค่อาการทั่วไปของมนุษย์ ไม่ใช่โรคร้ายแรงอะไรเลย

โดนหาว่าบ้าเพราะงี่เง่า
ในปี 1872 ผู้หญิงส่วนใหญ่ที่โมโห ฉุนเฉียว อารมณ์แปรปรวน จะถูกวินิจฉัยว่าเป็นโรคจิตหรือเป็นบ้า สามารถนำตัวไปขังอยู่ในโรงพยาบาลได้ทันที

ความเต็ม
https://www.facebook.com/JustLongDoo/photos/a.113648144122463/134632588690685/
 
เหล่าหมีที่ถูกใจสิ่งนี้: IsekaiNetwork

ออฟไลน์ Taw

  • หัวหน้าฝูงหมีใหญ่
  • *****
  • กระทู้: 1,352
  • ถูกใจแล้ว: 584 ครั้ง
  • ความนิยม: +47/-605
เรียกได้สั้นๆเลย "อวัยวะเพศ"

คุ้มไม่คุ้ม? ขสมก.อัดงบ 7.95 ล้าน
จ้างเอกชน PR ภาพลักษณ์องค์การ
จัดเต็มสื่อทีวี-วิทยุ-ออนไลน์-สื่อนอกบ้าน




รายละเอียดการผลิตสื่อประชาสัมพันธ์ในโครงการ

#สื่อโทรทัศน์
- ผลิตสกู๊ปโทรทัศน์ ความยาวไม่น้อยกว่า 1 นาที ไม่น้อยกว่า 6 ตอน ออกอากาศทางสถานีโทรทัศน์ไม่น้อยกว่า 18 ครั้ง
- สัมภาษณ์ผู้บริหาร ขสมก. ความยาวไม่น้อยกว่า 5 นาที ออกอากาศทางสถานีโทรทัศน์ไม่น้อยกว่า 1 ครั้ง

#สื่อวิทยุ
- ผลิตสกู๊ปวิทยุ ความยาวไม่น้อยกว่า 1 นาที ไม่น้อยกว่า 3 ตอน ออกอากาศทางสถานีวิทยุ FM อย่างน้อย 3 สถานี ไม่น้อยกว่า 30 ครั้ง
- สัมภาษณ์ผู้บริหาร ขสมก. ไม่น้อยกว่า 2 ครั้ง ออกอากาศทางสถานีวิทยุ FM อย่างน้อย 2 สถานี

#สื่อออนไลน์
- บริหาร facebook fanpage ขสมก. โดยการโปรโมทเพจเพิ่มยอดไลค์ จัดทำ cover photo ไม่น้อยกว่าเดือนละ 1 ชิ้น และทำ content ไม่น้อยกว่าเดือนละ 3 ชิ้น
- ผลิตและเผยแพร่ข่าวประชาสัมพันธ์ ขสมก. ให้เว็บไซต์ที่ได้รับความนิยม จำนวน 3 เว็บ ไม่น้อยกว่า 3 ครั้ง
- จัดทำ Viral Clip ไม่น้อยกว่า 3 เรื่อง ความยาวไม่น้อยกว่า 2 นาที ผ่านเว็บที่มียอดผู้ชมไม่ต่ำกว่า 3 แสนครั้ง เช่น YouTube
- จัดทำข่าว Banner บนเว็บที่มียอดผู้ชมไม่ต่ำกว่า 1 ล้านครั้ง ไม่น้อยกว่า 1 ชิ้น

#สื่อโฆษณานอกบ้าน
- ออกแบบป้ายโฆษณาสำหรับจอดิจิตอล ขนาดจอไม่น้อยกว่า 4.5 ตารางเมตร ครอบคลุมถนนและย่านสำคัญๆ ไม่น้อยกว่า 50 จอ และเผยแพร่เป็นเวลาไม่น้อยกว่า 150 วัน

ขณะนี้อยู่ระหว่างการดำเนินการ ซึ่งได้มีการจัดทำ content ในแฟนเพจ ขสมก. และทำคลิปประชาสัมพันธ์ต่างๆ เพื่อเผยแพร่ทั้งใน YouTube และจอดิจิตอลไปบ้างแล้ว

https://www.facebook.com/326789607435947/posts/4010148452433359/
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: พฤษภาคม 12, 2021, 05:46:12 PM โดย Taw »
 
เหล่าหมีที่ถูกใจสิ่งนี้: IsekaiNetwork

ออฟไลน์ blakaros

  • จอมทัพหมีชั้นสูง
  • ***
  • กระทู้: 16,187
  • ถูกใจแล้ว: 5529 ครั้ง
  • ความนิยม: +250/-181
เรียกได้สั้นๆเลย "อวัยวะเพศ"

คุ้มไม่คุ้ม? ขสมก.อัดงบ 7.95 ล้าน
จ้างเอกชน PR ภาพลักษณ์องค์การ
จัดเต็มสื่อทีวี-วิทยุ-ออนไลน์-สื่อนอกบ้าน


[img/]

รายละเอียดการผลิตสื่อประชาสัมพันธ์ในโครงการ

#สื่อโทรทัศน์
- ผลิตสกู๊ปโทรทัศน์ ความยาวไม่น้อยกว่า 1 นาที ไม่น้อยกว่า 6 ตอน ออกอากาศทางสถานีโทรทัศน์ไม่น้อยกว่า 18 ครั้ง
- สัมภาษณ์ผู้บริหาร ขสมก. ความยาวไม่น้อยกว่า 5 นาที ออกอากาศทางสถานีโทรทัศน์ไม่น้อยกว่า 1 ครั้ง

#สื่อวิทยุ
- ผลิตสกู๊ปวิทยุ ความยาวไม่น้อยกว่า 1 นาที ไม่น้อยกว่า 3 ตอน ออกอากาศทางสถานีวิทยุ FM อย่างน้อย 3 สถานี ไม่น้อยกว่า 30 ครั้ง
- สัมภาษณ์ผู้บริหาร ขสมก. ไม่น้อยกว่า 2 ครั้ง ออกอากาศทางสถานีวิทยุ FM อย่างน้อย 2 สถานี

#สื่อออนไลน์
- บริหาร facebook fanpage ขสมก. โดยการโปรโมทเพจเพิ่มยอดไลค์ จัดทำ cover photo ไม่น้อยกว่าเดือนละ 1 ชิ้น และทำ content ไม่น้อยกว่าเดือนละ 3 ชิ้น
- ผลิตและเผยแพร่ข่าวประชาสัมพันธ์ ขสมก. ให้เว็บไซต์ที่ได้รับความนิยม จำนวน 3 เว็บ ไม่น้อยกว่า 3 ครั้ง
- จัดทำ Viral Clip ไม่น้อยกว่า 3 เรื่อง ความยาวไม่น้อยกว่า 2 นาที ผ่านเว็บที่มียอดผู้ชมไม่ต่ำกว่า 3 แสนครั้ง เช่น YouTube
- จัดทำข่าว Banner บนเว็บที่มียอดผู้ชมไม่ต่ำกว่า 1 ล้านครั้ง ไม่น้อยกว่า 1 ชิ้น

#สื่อโฆษณานอกบ้าน
- ออกแบบป้ายโฆษณาสำหรับจอดิจิตอล ขนาดจอไม่น้อยกว่า 4.5 ตารางเมตร ครอบคลุมถนนและย่านสำคัญๆ ไม่น้อยกว่า 50 จอ และเผยแพร่เป็นเวลาไม่น้อยกว่า 150 วัน

ขณะนี้อยู่ระหว่างการดำเนินการ ซึ่งได้มีการจัดทำ content ในแฟนเพจ ขสมก. และทำคลิปประชาสัมพันธ์ต่างๆ เพื่อเผยแพร่ทั้งใน YouTube และจอดิจิตอลไปบ้างแล้ว

https://www.facebook.com/326789607435947/posts/4010148452433359/
บอกได้แค่ว่า  เปลืองเงิน  และไม่ได้ผลแน่ๆ






ตราบใดที่ไม่ปฏิรูป   ทำให้เห็นเป็นรูปธรรม   อัดงบแค่ไหนคนก็ไม่เชื่ออยู่ดี
 
เหล่าหมีที่ถูกใจสิ่งนี้: Black7nos, Taw, IsekaiNetwork และมีอีก 0 หมีที่ถูกใจสิ่งนี้

ออฟไลน์ Taw

  • หัวหน้าฝูงหมีใหญ่
  • *****
  • กระทู้: 1,352
  • ถูกใจแล้ว: 584 ครั้ง
  • ความนิยม: +47/-605
[quote/]บอกได้แค่ว่า  เปลืองเงิน  และไม่ได้ผลแน่ๆ






ตราบใดที่ไม่ปฏิรูป   ทำให้เห็นเป็นรูปธรรม   อัดงบแค่ไหนคนก็ไม่เชื่ออยู่ดี

ใช่เลยครับ ผมว่าวิธีที่จะบรรลุได้มากกว่า คือซื้อรถใหม่แทนรถเก่าทั้งหมด รถเก่าขายทิ้ง เก็บบางส่วนเข้าพิพิธภัณฑ์ให้พวกคุรถเมล์ไว้เสพเฉพาะช่วงวันหยุดกับวันสำคัญ และรถใหม่ก็อย่าได้กากแบบล็อต 489 คันแรกด้วย
 

ออฟไลน์ Lucifer216

  • หัวหน้าฝูงหมีใหญ่
  • *****
  • กระทู้: 1,312
  • ถูกใจแล้ว: 1037 ครั้ง
  • ความนิยม: +32/-18
เรียกได้สั้นๆเลย "อวัยวะเพศ"

คุ้มไม่คุ้ม? ขสมก.อัดงบ 7.95 ล้าน
จ้างเอกชน PR ภาพลักษณ์องค์การ
จัดเต็มสื่อทีวี-วิทยุ-ออนไลน์-สื่อนอกบ้าน


[img/]

รายละเอียดการผลิตสื่อประชาสัมพันธ์ในโครงการ

#สื่อโทรทัศน์
- ผลิตสกู๊ปโทรทัศน์ ความยาวไม่น้อยกว่า 1 นาที ไม่น้อยกว่า 6 ตอน ออกอากาศทางสถานีโทรทัศน์ไม่น้อยกว่า 18 ครั้ง
- สัมภาษณ์ผู้บริหาร ขสมก. ความยาวไม่น้อยกว่า 5 นาที ออกอากาศทางสถานีโทรทัศน์ไม่น้อยกว่า 1 ครั้ง

#สื่อวิทยุ
- ผลิตสกู๊ปวิทยุ ความยาวไม่น้อยกว่า 1 นาที ไม่น้อยกว่า 3 ตอน ออกอากาศทางสถานีวิทยุ FM อย่างน้อย 3 สถานี ไม่น้อยกว่า 30 ครั้ง
- สัมภาษณ์ผู้บริหาร ขสมก. ไม่น้อยกว่า 2 ครั้ง ออกอากาศทางสถานีวิทยุ FM อย่างน้อย 2 สถานี

#สื่อออนไลน์
- บริหาร facebook fanpage ขสมก. โดยการโปรโมทเพจเพิ่มยอดไลค์ จัดทำ cover photo ไม่น้อยกว่าเดือนละ 1 ชิ้น และทำ content ไม่น้อยกว่าเดือนละ 3 ชิ้น
- ผลิตและเผยแพร่ข่าวประชาสัมพันธ์ ขสมก. ให้เว็บไซต์ที่ได้รับความนิยม จำนวน 3 เว็บ ไม่น้อยกว่า 3 ครั้ง
- จัดทำ Viral Clip ไม่น้อยกว่า 3 เรื่อง ความยาวไม่น้อยกว่า 2 นาที ผ่านเว็บที่มียอดผู้ชมไม่ต่ำกว่า 3 แสนครั้ง เช่น YouTube
- จัดทำข่าว Banner บนเว็บที่มียอดผู้ชมไม่ต่ำกว่า 1 ล้านครั้ง ไม่น้อยกว่า 1 ชิ้น

#สื่อโฆษณานอกบ้าน
- ออกแบบป้ายโฆษณาสำหรับจอดิจิตอล ขนาดจอไม่น้อยกว่า 4.5 ตารางเมตร ครอบคลุมถนนและย่านสำคัญๆ ไม่น้อยกว่า 50 จอ และเผยแพร่เป็นเวลาไม่น้อยกว่า 150 วัน

ขณะนี้อยู่ระหว่างการดำเนินการ ซึ่งได้มีการจัดทำ content ในแฟนเพจ ขสมก. และทำคลิปประชาสัมพันธ์ต่างๆ เพื่อเผยแพร่ทั้งใน YouTube และจอดิจิตอลไปบ้างแล้ว

https://www.facebook.com/326789607435947/posts/4010148452433359/
เปลืองงบเปล่าๆแน่นอน หารถใหม่ วิ่งให้ตรงเวลา ครอบคลุมทุกพื้นที่ก่อน แล้วค่อยมาทำ PR เหอะ ตอนนี้ยืนรอไปเหอะเป็นชั่วโมงรถไม่มาสักคัน  :-X
 
เหล่าหมีที่ถูกใจสิ่งนี้: Taw, IsekaiNetwork

ออฟไลน์ Taw

  • หัวหน้าฝูงหมีใหญ่
  • *****
  • กระทู้: 1,352
  • ถูกใจแล้ว: 584 ครั้ง
  • ความนิยม: +47/-605
PSYCHOLOGY: Pareidolia ปรากฏการณ์เห็นสิ่งของเป็นหน้าคน มันแปลกไหม เกิดขึ้นจากอะไรกันบ้าง?



ความย่อ

Pareidolia เป็นเรื่องธรรมชาติของจิตใจที่เกิดขึ้นได้บ่อยๆ จากการกระตุ้นสมองของเราให้เกิดการจดจำใบหน้า ซึ่งเป็นการกระตุ้นที่ทุกคนมีมาตั้งแต่กำเนิด แต่บางครั้งมันดันไปกระตุ้นกับสิ่งของที่ไม่มีชีวิตและไม่มีใบหน้า ซะอย่างนั้น

คำว่า Pareidolia มาจากภาษากรีกคำว่า para แปลว่าผิดพลาด และคำว่า eidolon ที่แปลว่าภาพ หรือรูปร่าง พูดง่ายๆ ก็คือภาพที่ผิดพลาดไปนั่นเอง

กรณี Pareidolia ที่ค่อนข้างโด่งดัง คือเมื่อปี 2004 บนโลกออนไลน์เคยมีการประมูลแซนด์วิชชิสปิ้งที่มีคนเห็นว่าเป็นรูป ‘คล้าย’ กับพระแม่มารีโดยบังเอิญในราคาถึง 28,000 ดอลลาร์ หรือราวๆ 1.1 ล้านบาท บน Ebay

คุณล่ะ เคยเห็นภาพอะไรแปลกๆ เป็นหน้าคน หรือตัวอะไรบ้าง?

ความเต็ม https://www.facebook.com/brandthink.me/photos/a.1767934240198787/3027572394234959/
 

ออฟไลน์ IsekaiNetwork

  • หัวหน้าฝูงหมีกลาง
  • ****
  • กระทู้: 633
  • ถูกใจแล้ว: 267 ครั้ง
  • ความนิยม: +20/-14
[quote/]บอกได้แค่ว่า  เปลืองเงิน  และไม่ได้ผลแน่ๆ






ตราบใดที่ไม่ปฏิรูป   ทำให้เห็นเป็นรูปธรรม   อัดงบแค่ไหนคนก็ไม่เชื่ออยู่ดี
  นึกถึงองค์กรนึง  นึกถึงธนาคารออมสินแฮะ 
 

ออฟไลน์ Taw

  • หัวหน้าฝูงหมีใหญ่
  • *****
  • กระทู้: 1,352
  • ถูกใจแล้ว: 584 ครั้ง
  • ความนิยม: +47/-605
Re: รวบรวมเกร็ดเล็กๆน้อยๆ : ว่าด้วยโฆษณาดันรถบัส (#14)
« ตอบกลับ #14 เมื่อ: พฤษภาคม 15, 2021, 11:03:33 AM »

เชื่อว่าหลายๆคนคงเคยเห็นผ่านหูผ่านตากันมาบ้างแล้ว และส่วนมากมักตีความกันไปว่าประเทศมีปัญหา จะมีไม่กี่คนที่ช่วยแก้ แต่ด้วยยุคสมัยที่เปลี่ยนไป ก็ได้เริ่มเห็นสิ่งที่แตกต่างกันออกไป คือคอมเมนต์ที่หลากหลายมุมมองมากขึ้น ผมจะยกตัวอย่างอันที่เด็ดๆนะครับ ดังต่อไปนี้...

"สิ่งหนึ่งที่ชัดเจนคือ
1. คนมีหน้าที่กำหนดทิศทาง(คนขับ บริษัทรถ) ไม่เลือกเส้นทางที่เหมาะสม
2. คนมีหน้าที่ดูแลรถ มีหน้าที่รับผิดชอบ ไม่ทำให้รถทำงานได้เต็มประสิทธิภาพ
ทั้งสองข้อ เอาคนดีหรือคนมีความสามารถมาทำดีครับ"

"ผู้บริหารก็เหมือนคนขับรถ กินค่าน้ำมันจนเติมไม่พอ แถมโง่ไม่ยอมดึงเบรคมือแล้วไปซื้อน้ำมัน ให้ลูกน้องไปเข็นรถเอาหน้าทั้งๆที่รู้ว่าเข็นไม่ไหวหรอก ไม่ดูแลรถให้ดีทั้งๆที่ค่าโดยสารก็เก็บ แล้วสุดท้ายก็ยังโทษคนในรถอีก 55555เข้าตัวล้วนๆ"

"สามัคคีได้ไงผู้โดยสารไม่มีปากไม่มีเสียง คนขับและบริษัทรถบังคับให้ขึ้นรถคันนี้ พอมีปัญหาก็ให้พนักงานไปแก้ไขมาโดยวิถีตัวเอง พอผู้โดยสารจะช่วยก็บอกไม่ต้อง เคยเห็นหัวที่ไหนบ่นมากก็เอาเงินไป"

และยังมีการปรับเข้าสถานการณ์ตอนนี้ด้วย เช่น

"ขณะที่คนในรถเสนอตัวจะช่วยแต่คนขับไม่ยอมให้ใครลงรถช่วย ให้อยู่เฉยๆห้ามเสนอหน้า รถคันอื่นผ่านมาจะช่วย คนขับก็ห้ามใครมายุ่ง ช่างซ่อมบอกแก้ไม่ได้ขาดอะไหล่ กระเป๋ารถก็ข่มขู่ห้ามบอก ต้องพูดสิ่งดีๆ เพราะเรามีแม่ย่านางมีของดีคุ้มครองอยู่ปลอดภัยแน่ๆ จงเชื่อมันในของดีและความมั่นหน้าของคนขับ"

"ในขณะเดียวกันณเวลานี้คนที่เข็นรถอยู่อาจจะเป็นผู้โดยสารทั้งหมดที่ต้องลงจากรถมาช่วยกันเข็นรถในขณะที่คนขับนั่งอยู่เฉยๆไม่รู้จะหมุนพวงมาลัยซ้ายหรือขวาควรเหยียบคันเร่งแต่กลับเหยียบเบรค ส่วนไอ้กระเป๋ารถที่คอยเก็บเงินก็ตั้งหน้าตั้งตาแต่จะเก็บเงินเก็บเงินให้กับเจ้าของรถทัวร์ โดยที่เจ้าของรถทัวร์ไม่เคยตรวจสอบสภาพรถเลยว่ามันเป็นยังไงคนที่ต้องรับภาระหนักสุดคือคนที่โดยสารรถทัวร์คันนั้นต่างหาก"

https://www.facebook.com/MueangSongklhlaPolice/videos/4312516122159086/
 

ออฟไลน์ Taw

  • หัวหน้าฝูงหมีใหญ่
  • *****
  • กระทู้: 1,352
  • ถูกใจแล้ว: 584 ครั้ง
  • ความนิยม: +47/-605
Re: รวบรวมเกร็ดเล็กๆน้อยๆ : ว่าด้วยโฆษณาดันรถบัส (#14)
« ตอบกลับ #15 เมื่อ: พฤษภาคม 15, 2021, 04:37:46 PM »
10 อันดับ จักรวรรดิที่มีอาณาเขตใหญ่ที่สุดในโลก



อันดับที่ 10 | ดินแดนอาณานิคมของโปรตุเกส (Portuguese Colonial Empire)

ระยะเวลา | ค.ศ. 1444-1999
ช่วงเวลาที่รุ่งเรืองถึงขีดสุด | ค.ศ. 1815
พื้นที่ทั้งหมด | 4.02 ล้านตารางไมล์

-----

อันดับที่ 9 | ราชวงศ์หยวน (Yuan Dynasty)

ระยะเวลา | ค.ศ. 1271-1368
ช่วงเวลาที่รุ่งเรืองถึงขีดสุด | ค.ศ. 1310
พื้นที่ทั้งหมด | 4.25 ล้านตารางไมล์

-----

อันดับที่ 8 | ราชวงศ์อับบาซียะฮ์ (Abbasid Caliphate)

ระยะเวลา | ค.ศ. 750-1571
ช่วงเวลาที่รุ่งเรืองถึงขีดสุด | ค.ศ. 750
พื้นที่ทั้งหมด | 4.29 ล้านตารางไมล์

-----

อันดับที่ 7 | ราชวงศ์อุมัยยะฮ์ (Umayyad Caliphate)

ระยะเวลา | ค.ศ. 661-750
ช่วงเวลาที่รุ่งเรืองถึงขีดสุด | ค.ศ. 720
พื้นที่ทั้งหมด | 4.35 ล้านตารางไมล์

-----

อันดับที่ 6 | ดินแดนอาณานิคมของฝรั่งเศส (French Colonial Empire)

ระยะเวลา | ค.ศ. 1534-1980
ช่วงเวลาที่รุ่งเรืองถึงขีดสุด | ค.ศ. 1920
พื้นที่ทั้งหมด | 4.44 ล้านตารางไมล์

-----

อันดับที่ 5 | ดินแดนอาณานิคมของสเปน (Spanish Colonial Empire)

ระยะเวลา | ค.ศ. 1492-1976
ช่วงเวลาที่รุ่งเรืองถึงขีดสุด | ค.ศ. 1810
พื้นที่ทั้งหมด | 5.29 ล้านตารางไมล์

-----

อันดับที่ 4 | ราชวงศ์ชิง (Qing Dynasty)

ระยะเวลา | ค.ศ. 1636-1912
ช่วงเวลาที่รุ่งเรืองถึงขีดสุด | ค.ศ. 1790
พื้นที่ทั้งหมด | 5.68 ล้านตารางไมล์

-----

อันดับที่ 3 | จักรวรรดิรัสเซีย (Russian Empire)

ระยะเวลา | ค.ศ. 1721-1917
ช่วงเวลาที่รุ่งเรืองถึงขีดสุด | ค.ศ. 1895
พื้นที่ทั้งหมด | 8.80 ล้านตารางไมล์

-----

อันดับที่ 2 | จักรวรรดิมองโกล (Mongol Empire)

ระยะเวลา | ค.ศ. 1206-1368
ช่วงเวลาที่รุ่งเรืองถึงขีดสุด | ค.ศ. 1279
พื้นที่ทั้งหมด | 9.27 ล้านตารางไมล์

-----

อันดับที่ 1 | ดินแดนอาณานิคมของอังกฤษ (British Colonial Empire)

ระยะเวลา | ค.ศ. 1492-1997
ช่วงเวลาที่รุ่งเรืองถึงขีดสุด | ค.ศ. 1920
พื้นที่ทั้งหมด | 13.71 ล้านตารางไมล์

https://www.facebook.com/photo?fbid=911787559387336&set=gm.902302760617872
 

ออฟไลน์ providence_gundam

  • แม่ทัพหมีอาวุโส
  • ****
  • กระทู้: 4,380
  • ถูกใจแล้ว: 2055 ครั้ง
  • ความนิยม: +191/-398
  • เพศ: ชาย
จักรวรรดิซีอ้อนหายไปไหน :-\
 

 

Tags:
แหล่งนิยายแปล แหล่งนิยาย นิยายแปล นิยายแต่ง มังงะ การ์ตูน อนิเมะ นายท่าน เว็บไซต์นายท่าน กระทู้สไลม์ สไลม์ยอดรัก