แหล่งนิยายแปล แหล่งนิยาย นิยายแปล นิยายแต่ง มังงะ การ์ตูน อนิเมะ นายท่าน เว็บไซต์นายท่าน กระทู้สไลม์ สไลม์ยอดรัก

ผู้เขียน หัวข้อ: คุยกันเรื่องนิยายโรแมนซ์ของผู้หญิงหน่อยครับ+warningโปรดใช้วิจารณญาณในการพูดคุย  (อ่าน 11465 ครั้ง)

ออฟไลน์ samuison

  • ยอดกวีแห่งเขาเซนนิคุมะ
  • จอมทัพหมีหนุ่ม
  • *
  • กระทู้: 8,979
  • ถูกใจแล้ว: 2935 ครั้ง
  • ความนิยม: +162/-427
เรื่องการบ่นของสามีภริยา


ผมจำได้ว่าประมาณว่ามีบทความ ภริยาอายุมากแล้วมาคุยกันว่าตั้งความหวังไว้อบ่างนู้นอย่างนี้ และลุกตั้งควงามหวังไว้
สรุปแล้วได้อย่างที่หวังไว้ไหม? ก้ไม่

ผมถึงสรุปว่า ผู้หญิงมีสมอง solipsism ที่คิดว่าตนเองทำตามหลักเหตุผลแต่ความจริง เอาอารมณืเป็นข้อเท็จจริง ทำให้ไม่ได้อย่างที่หวัง

เชื่อว่าแต่ละคนตั้งความหวังไว้สูงแต่ทำไมถึงได้ผู้ชายไม่ได้แบบที่หวังระหว่างทาง?

ผมอ่านบทความเรื่องยาเสพติด
ประมาณผุ้หญิงขายผักเลี้ยงลุกไปตามประสา
สามีขายยา แป็บยๆวสันหนึ่งได้มาสองหมื่นแป็บไได้มาสองหมื่น
พอภริยาเห็นว่าได้เงินง่ายอย่างนั้นก็อยากลองบ้าง ทำให้โดนตำรวจจับ
..
นึกถึงเรื่องว่าผู้หญิงถูกเกลี้ยกล่อมง่ายหากโดนทำให้เห็นว่ายาเสพติดทำให้หาเงินมาง่ายแค่ไหนจากการสำรวจคนในคุก
อาจจะเพราะว่า ทั้งเกดือนปลุกผักขายได้ไม่กี่พันบาท
แต่วันเดียวถ้าขยันวิ่งยาหน่อยอาจได้มาถึงสามหมื่นบาท
ผมกำลังพยายามมองว่าอะไรที่ทำให้ผุ้หญิงไปหาแบดบอย
น่าตจะเพราะพวกนี้มีเวลาเทคแคร์คุณเธอมากกว่าคนทำงานสุจริตน่าจะส่วนหนึ่ง
คนทำงานไปรษณียืหรือครู เลิกงานห้าโมงเย้น บางทีเจอใช้งานอีกก็มืด
คนเดินยา สามารถเอาเวลาว่างจากการเดินบามาพาเธอทานอาหารเที่ยง ส่งยาที่คลองเตยเสร็จก็มารับเธอไปทานข้าวเย้นอีกได้แบบสบายๆ

นั่นคืออีกเรื่องที่ผมสังเกตจากประวัติอาชญากรรมที่เคยอ่านมา เอามาเทียบกับนิยายก็รู้สึกว่า นิยายโรแมนซืของผู้หญิงอาจจะไม่ได้เว่อรืแฟนตาซีอย่างเดียว
แต่ค่อนข้างจะสะท้อนแนวคิดของผู้หญิงออกมาพอสมควร
รายละเอียดเปลี่ยนแปลงไปแต่หลักๆเหมือนเดิม
ว่าโดนอิทธิพลจากสามีหรือผู้ชายที่คบอยู่ได้ง่าย ไม่ได้คิดเป็นเหตุเป็นผลหรือใ้ช้ความฉลาดตลอดเวลาอย่างที่พวกคุณเธอพยายามคุยแข่งกันในหมู่ผู้หญิง


ผู้หญิงเป็นที่เทิอทูนบูชาในวัฒนธรรมของพวกเรา
ส่วนคนอย่างท่าน seika นั้นเป็นส่วนน้อยที่มองแต่เรื่องผลประโยชน์อย่างเดียว ท่าน่าจะเข้ากันได้ดีกับครอบครัวชาวยิวที่พวกนี้มองขาดมากเรื่องว่า ผู้หญิงที่จะแต่งงานด้วยจะให้ผลประโยชนือะไรแก่พวกเขาบ้าง
ถ้าผลประโยชน์ที่เจรจาบนโต๊ะไม่น่าสนใจก็ไม่แต่งงานด้วยเด็ดขาด
แต่วัฒนธรรมอื่น ไม่ได้มีแนวคิดเช่นนี้..ซึ่งอาจจะตลกร้าย มีแต่ชาวยิวเท่านั้นที่ได้ครองอำนาจในปัจจุบันเพราะวัฒนธรรมของพวกเขาสนับสนุนเรื่องการมองจากมุมมองของผลประโยชน์ซึ่งผมต้องจำใจยอมรับว่า มันคือพฤติกรรมที่ไม่น่าคบ แต่ก็ทำให้พวกเขาประสบความสำเร็จในด้านวัตถุและตำแหน่งในสังคมอย่างมาก
http://goshujin.tk/index.php?topic=944.0
นิยาย crossover Harry Potter/Type Moon ดูว่าคนที่มีเวทมนตร์อย่างแฮร์รี่ จะเอาตัวรอดอย่างไร ในโลกที่โหดร้ายของ ไทป์มูน
 
เหล่าหมีที่ถูกใจสิ่งนี้: nosta

ออฟไลน์ pol

  • สาวกผู้สนับสนุนเซนนิคุง2Y
  • จอมทัพหมีชั้นสูง
  • ***
  • กระทู้: 16,584
  • ถูกใจแล้ว: 18893 ครั้ง
  • ความนิยม: +360/-454
  • เพศ: ชาย
  • นักอู้มือหนึ่ง
Bad boy ของฝรั่งกับของชาติอื่นๆมันแค่ไม่ชอบทำตามชาวบ้านครับ  แต่พอหมดช่วงวัยรุ่นมันก็ทำงานทำการนะเออ  ส่วนของไทยไม่ได้ดูถูกนะ ผู้ชายขายยา ผู้หญิงไม่ขายยาก็ขายตัว 8) 
ผมเคยอ่านการ์ตูนญี่ปุ่นแก๊งค์ซิ่งมันเก็บเงินด้วยการทำงานพิเศษเพื่อให้มีเงินมาแต่งรถ ขนาดกุ๊ยนะนั่นส่วนเด็กแว๊นเมืองไทย ขอเงินพ่อแม่ ขายยา ขายตัว ฮ่วย!
 

ออฟไลน์ samuison

  • ยอดกวีแห่งเขาเซนนิคุมะ
  • จอมทัพหมีหนุ่ม
  • *
  • กระทู้: 8,979
  • ถูกใจแล้ว: 2935 ครั้ง
  • ความนิยม: +162/-427
วันนี้ ดูหนังไทยกะแม่

หญิงคนนึง(ไม่รู้จะเรียกว่าเป็นนางเอกป่าว)

กำลังจะแต่งงา่นกับชายคนนึง แล้ว จู่ๆพี่สาว ของเจ้าบ่าวก้อมาโวยวายในงาน แฉว่า เจ้าสาวนั่นน่ะ เป็นเมียน้อยของสามีเธอมาก่อน ไม่นึกว่จะเปลี่ยนชื่อแล้วมาได้กับน้องชายเธอ
ฝ่ายเจ้าบ่วก็เหวอสิ ยังอึ้งๆงุนๆงุงๆอยู่

แล้ว เจ้าสาวก็เป็นลม เพื่อนเจ้าสาวพาออกไป แล้วก้อบลาๆๆๆๆ

พระเอกตัวจริง(เจมส์ จิ ) ก้อข้ามาปลอบ แล้วก้อ บลาๆๆๆ

ตอนจบ พระเอก(เจม จิ) ก้อได้กะยัยเจ้าสาวนี่

........มันโรแมนติกเหรอฟระ

ออกตัวก่อนนะ  ผมไมไ่ด้ตั้งแง่กับหญิงที่เป็นเมียน้อยคนอื่นหรือหญิงที่ไม่ซิงนะ แต่มันต้องมีจุดสมดุล
เรื่องอะไรครับ?
ผใวามันแสดงความรู้สึกของคนแต่งเรื่องมุมมองผู้หญิงได้ดีเลยนะ
จากบรรทัดฐานของสังคมที่"ยึดถือคุณธรรม ครองตนเป็นกุลสตรี ผู้ชายจะเห็นความดี"
แปรเปลี่ยนเป็น
"ต่อให้ทำเรื่องผิดพลาดมาแค่ไหน ดปรดอย่าถามว่าฉันเป็นใครเมื่อในอดีต และยอมรับความผิดพลาดทุกอย่างของฉันได้"
จากที่เคยต้องนำเสนอ ศีละรรมมาบนดต๊ะเจรจาบ้าง
กลายเป็นภาระตกอยู่กับฝ่ายชายที่ต้องยอมรับฝ่ายหญิงได้ทุกอย่าง ไม่อย่างนั้นจะดูเป็นคนใจแคยบเห็นแก่ตัว
ซึ่งในเรื่องก็แสดงว่าเจมจิ เป็นคนใจกว้าง ส่วนเจ้าบ่าวเป็นคนใจแคบ
หลังจากนั้นก็จะมีฉาก สลัดเจ้าบ่าวคนแรกทิ้งว่าฉันไม่ต้องพึ่งหรือง้อเธออีกแล้วใช่ไหมครับ?

ผมถึงบอกว่าแต่ละคนไม่รู้ว่าตนเองทำอะไรลงไปเลยเกิดปัยหาอย่างทุกวันนี้
..
ขายตัวขายยาก็มีผสมกันเท่าที่ผมเคยสำรวจมาอายุน้อยหน้าตาดีนย่าเสียดายจริงๆ
แต่พอเข้าใจนะ
ทำอาชีพใช้แรงงาน สาวออฟฟิซ ไม่สามารถทำตนให้สวยอย่างที่ต้องการ
และการทำตนให้สวยนั้นมีราคาเสมอ
จากตอนแรกสมัยก่อนผมเคยต่อต้านการทำศัลยกรรม
ตอนหลังคุยกับพวกฝรั่งมากขึ้น ติดนิสัยเรื่อง transhumanism มาเรื่องของการปรับปรุงสายพันธุ์มนุษย์
ทำให้ผมต่อต้านน้อยลง
แต่กำลังคอยยุคสมัยต่อไปที่ทุกคนจะรู้ตัวว่า คนที่ไม่ทำศัลยกรรมและให้ยาและฮออร์โมนจะทำให้ตนเองเสียเปรียบ
โลกจะเป็นอย่างไรต่อไป
http://goshujin.tk/index.php?topic=944.0
นิยาย crossover Harry Potter/Type Moon ดูว่าคนที่มีเวทมนตร์อย่างแฮร์รี่ จะเอาตัวรอดอย่างไร ในโลกที่โหดร้ายของ ไทป์มูน
 

ออฟไลน์ nosta

  • แม่ทัพหมีชั้นสูง
  • ***
  • กระทู้: 2,524
  • ถูกใจแล้ว: 1150 ครั้ง
  • ความนิยม: +106/-145
[quote/]

   อันนั้นเอ่ยถึงวัฒนธรรมของฝรั่งหน่ะขอรับ  ของไทยของเอเชียเราจะถามเรื่อง"คุณเงินเดือนเท่าไร" 
"บ้านคุณมีฐานะเป็นไง"  แม้กระทั่งอาชีพพ่อแม่พี่น้องของสามี  ทางเอเชียเราก็จะถาม  "พ่อทำงานอะไร"
"แม่ทำงานอะไร" 

   แต่ฝรั่งเรื่องพวกนี้พวกเขาดันถือเป็นเรื่องส่วนตัวมากๆ  มากขนาดที่ว่าแม้แต่พ่อแม่ฝรั่งเองบางทียังเกรงใจ
ไม่อยากถามลูกๆว่าตอนนี้ทำงานอะไร  แต่จะถามว่าตอนนี้เป็นอย่างไรบ้างแทน

   ถ้าในระดับฝรั่งฐานะปานกลาง  เป็นแฟนกันแม้กระทั่งบางทีเป็นสามีไปแล้วก็ยังไม่รู้ว่าสามีทำงานอะไรก็มี 
ถ้าเป็นที่ไทยหรือเอเชียเรา  เรื่องอย่างงี้ไม่มีทางเกิดขึ้นได้หรอก  ผมนึกหนังได้เรื่องนึงหล่ะที่ตัวเอกทั้งสามี
และภรรยาไม่ค่อยรู้อะไรเกี่ยวกับการงานของคู่่รักตน  Mr. & Mrs. Smith  หรืออีกเรื่องที่ดัดแปลงจาก
หนังไทยบางกอกแดนเจอรัส เพชฌฆาตเงียบ อันตรายคือเรื่อง  ฮีโร่ เพชฌฆาต ล่าข้ามโลกที่ นิโคลาส เคจ 
นำแสดง  มีตอนนึงผู้หญิงพาพระเอกเข้าบ้านเจอพ่อแม่  พ่อแม่คนไทยถามทันทีว่า  ทำงานอะไร  พระเอกแกล้ง
บอกไปว่าทำงานธนาคาร  แล้วสีหน้าพ่อแม่ผู้หญิงก็สบายใจ  สีหน้านิโคลาสทำได้ดีมาก  ประมาณว่าจะถาม
ไปทำไม  แต่เพราะเอเชียเราถือเรื่องพวกนี้

   ถ้ามองมุมมองฝรั่งผ่านซีรีย์หรือหนังเราจะเห็นหลายเรื่องเลยว่าเวลาลูกกลับบ้าน  พ่อแม่จะถามว่าเป็นอย่างไร
บ้าง  สบายดีนะ  กลุ้มใจอะไรมั๊ย  ความหมายประมาณว่าไม่มีปัญหาในงานนะ  มีความสุขกับงานนะ    ของเราจะ
ออกแนวพูดตรงๆในเรื่องที่ฝรั่งคิดว่าส่วนตัวสุดๆแบบนี้ไปเลย  พ่อแม่ไทยเราบางทีถามว่าเงินเดือนเป็นไง  หัวหน้า
หรือบริษัทเป็นไง 

   ปล.ส่วนเรื่องอื่นๆเกี่ยวกับฝรั่งอย่างเรื่องหย่าร้าง  อันนี้เคยดูสถิติ  เห็นว่าฝรั่งอเมริกาจะเยอะก็จริง  แต่ทางฝั่ง
ยุโรปจะมีเยอะอยู่แค่ประเทศสองประเทศ  จำไม่ได้ว่าประเทศอะไร  อังกฤษกับฝรั่งเศสมั้ง?  ส่วนเรื่องเห็นว่า
คนที่ซิงเป็นคนที่เห่ย  ผมว่าพวกเขาไม่ได้โฟกัสตรงนั้นแต่โฟกัสตรงการเข้าสังคม  การปาร์ตี้  เพราะฝรั่งมีนิสัย
ที่เวลาพักผ่อนจะรวมตัวปาร์ตีเป็นหลัก  ส่วนสาวมั่นแบบแยงกี้เนี่ยอิทธิพลชมชอบจะอยู่ที่ฝั่งอเมริกา  ฝรั่งยุโรป
หรือออสฯไม่ค่อยเป็นแบบนั้น

   พิมพ์อีกหน่อย  หลายๆอย่างเราเข้าใจว่าฝรั่งเป็นแบบนั้นแบบนี้น่าจะเพราะอิทธิพลหนังฮอลลีวูด  หย่าร้างสูง
คบได้เลิกได้  ยุโรปเนี่ยยิ่งบางประเทศค่อนข้างเคร่งเพราะรากฐานศาสนา  หรือทำตัวมั่นทั้งผู้ชายผู้หญิงอย่าง
ที่เอ่ยถึงแยงกี้เนี่ยก็รสนิยมอเมริกาชัดเจน  ถ้าไปทำนิสัยแยงกีในยุโรปยิ่งถ้าเป็นอังกฤษรับรองโดนด่าลับหลัง
ว่าสถุล  อเมริกาปลูกฝังความมั่นให้ประชาชน  ผู้หญิงต้องมั่นผู้ชายต้องมั่นไม่ยอมใคร  นิยมชมชอบการเอาชนะ
แข่งขัน  แม้ใช้วิธีที่ผิดแต่ชนะก็ถือว่าเพราะตัวเรามันเจ๋งถึงชนะได้  ฝรั่งมันมีทั้งอเมริกา  ยุโรป  ออสฯ  ละติน
แต่ละที่ความคิดความอ่านและสิ่งที่ปลูกฝังมาแตกต่างกัน


เค้าพูดกันนะเรื่องเงินเรื่องงาน มีแฟนที่ไหนไม่รู้ว่าแฟนทำอะไรที่ไหนผมว่าไม่มีนะ  เรื่อง mr and mrs smith เป็นข้อยกเว้น เพราะต่างฝ่ายต่างหลอกกันเนื่องจากงานเป็นสายลับจะไห้แฟนรู้ไม่ได้ ปกติฝรั่งเค้าจะคบในวงคนที่รายได้ไล่ๆกัน เว้นเศรษฐีผู้ชายก็จะหาเมียสาวสวยรายได้น้อยไม่ต่างกันเลยปะไทย ทั่วโลกก็จะประมานนี้ อย่างผู้หญิงฝรั่งมาเที่ยวหรือมาอยู่ไทยจะมีแต่งกะคนจนๆในไทยมั้ย ผมว่ายาก แต่ผู้ชายฝรั่งมีอายุอยู่ที่นั่นเป็นชนชั้นกลาง มาอยู่ที่ไทยรวย ก็มีแต่งกะผู้หญิงที่จนแต่สาว ซึ่งก็เหมือนชายไทยหญิงไทยนั่นแหละ แต่อาจต่างกันบ้างตรงฝรั่งเค้าแชร์กันมากกว่า เวลาแต่งงานก็ช่วยกันทำงานหารายได้มากกว่า


ส่วนอัตราหย่าร้างในยุโรปก็ไม่ต่ำนะ
https://www.google.com/search?q=divorce+rate+europe&oq=divorce+rate+europe&aqs=chrome..69i57j0l3.12162j0j7&client=ms-android-huawei-rev1&sourceid=chrome-mobile&ie=UTF-8#imgrc=H01-lfosG3WBgM
จะเห็นชัดเลยยุโรปสูงมาก ส่วนตะวันออกกลางจะต่ำกว่า ไทยอัตราหย่าก็ต่ำกว่ายุโรป
 

ออฟไลน์ nosta

  • แม่ทัพหมีชั้นสูง
  • ***
  • กระทู้: 2,524
  • ถูกใจแล้ว: 1150 ครั้ง
  • ความนิยม: +106/-145
ตะวันออกกลางนี่หย่าทีอาจจะมีตายป่าว
เป็นไปได้ 55
 

ออฟไลน์ nosta

  • แม่ทัพหมีชั้นสูง
  • ***
  • กระทู้: 2,524
  • ถูกใจแล้ว: 1150 ครั้ง
  • ความนิยม: +106/-145
[quote/]

คุณภาพคนต่าง ขนาดกุ๊ย ยังมีชั้น....

ปล..ขายตัวนี่ช่างเหอะ จุดเด่นของไทยคือ สาวอาบอบนวดนะ แต่ผมมั่นใจว่าพวกสกอยท์ไม่ทำงานอาบอบนวดหรอก


สก๊อยนี่ขายตัวเป็นเรื่องธรรมดาเลย คิดดูคุณสมบัติ ฟรีเซ็กซ์ การศึกษาน้อย จะมีใครเหมาะกะอาชีพขายบริการเท่าสก๊อย https://mgronline.com/entertainment/detail/9510000039484
 

ออฟไลน์ nosta

  • แม่ทัพหมีชั้นสูง
  • ***
  • กระทู้: 2,524
  • ถูกใจแล้ว: 1150 ครั้ง
  • ความนิยม: +106/-145
วันนี้ ดูหนังไทยกะแม่

หญิงคนนึง(ไม่รู้จะเรียกว่าเป็นนางเอกป่าว)

กำลังจะแต่งงา่นกับชายคนนึง แล้ว จู่ๆพี่สาว ของเจ้าบ่าวก้อมาโวยวายในงาน แฉว่า เจ้าสาวนั่นน่ะ เป็นเมียน้อยของสามีเธอมาก่อน ไม่นึกว่จะเปลี่ยนชื่อแล้วมาได้กับน้องชายเธอ
ฝ่ายเจ้าบ่วก็เหวอสิ ยังอึ้งๆงุนๆงุงๆอยู่

แล้ว เจ้าสาวก็เป็นลม เพื่อนเจ้าสาวพาออกไป แล้วก้อบลาๆๆๆๆ

พระเอกตัวจริง(เจมส์ จิ ) ก้อข้ามาปลอบ แล้วก้อ บลาๆๆๆ

ตอนจบ พระเอก(เจม จิ) ก้อได้กะยัยเจ้าสาวนี่

........มันโรแมนติกเหรอฟระ

ออกตัวก่อนนะ  ผมไมไ่ด้ตั้งแง่กับหญิงที่เป็นเมียน้อยคนอื่นหรือหญิงที่ไม่ซิงนะ แต่มันต้องมีจุดสมดุล


ชีวิตจริง คนอย่างเจมส์จิคือเหยื่อนะ เพราะคนเราไม่มีอะไรจะพิสูจน์ความดีความเลวได้เท่าพฤติกรรมในอดีตอีกแล้ว ถ้าอดีตมันมั่ว แล้วมาบอกจะเลิกนี่เชื่อยาก เหมือนอาชญากรมันมีโอกาสเลิกได้แต่โอกาสทำซ้ำก็เยอะ แทนที่จะ ไห้โอกาสโจร ไปไห้โอกาสคนดีๆดีกว่า ถ้าคบกันแล้ว ติดเอดส์ หรือต้องเลี้ยงกาเหว่าก็ไม่มีใครมาเดือดร้อนแทน


เคยคุยกะเพื่อนในเนต มันเล่าไห้ฟังว่า ตอนเรียนมันจะเนิร์ดๆ จีบสาวไม่ติด แต่พอเรียนจบไปทำงานมีรายได้ดี ปรากฏมีสก๊อย ที่มันเคยจีบมาจีบมัน สภาพแบบมีลูกพ่วงมาแล้ว ซึ่งแน่นอนมันไม่เอา คือพวกแบดเกิร์ลโดยธรรมชาติมันก็ต้องรักกับแบดบอยนั่นแหละ จะมาหาคนดีๆก็ต้อง ติดโรค หรือท้องโย้มาแล้ว จะมาสูบเงินไม่ได้รัก คือเคยอ่านเจอบทความของผู้หญิงที่เขียนด่าสามีว่า ที่คบกับสามีต้องทนทุกข์ทรมาณ อยู่กะคนที่ไม่ได้รัก แต่กลับรักชู้มาก คิดถึงชู้ทุกลมหายใจเข้าออก และก็มีผู้หญิงจำนวนมาก ออกมาไห้กำลังใจ พร้อมกับบ่นว่าเป็นเหมือนกันเลย ผมก็พิมพ์ด่าไปคือไม่ได้รักแล้วจะแต่งงานเพื่อสูบเลือดสูบเนื้อเค้าทำไม  พวกแบดเกิร์ลจะประมานนี้ ดังนั้นเป็นคนดีอย่าไปยุ่งกะแบดเกิร์ล ถึงมันบอกกลับใจแล้วก็ไม่ได้กลับใจจริงๆ
 
เหล่าหมีที่ถูกใจสิ่งนี้: pol

ออฟไลน์ samuison

  • ยอดกวีแห่งเขาเซนนิคุมะ
  • จอมทัพหมีหนุ่ม
  • *
  • กระทู้: 8,979
  • ถูกใจแล้ว: 2935 ครั้ง
  • ความนิยม: +162/-427
[quote/]


ชีวิตจริง คนอย่างเจมส์จิคือเหยื่อนะ เพราะคนเราไม่มีอะไรจะพิสูจน์ความดีความเลวได้เท่าพฤติกรรมในอดีตอีกแล้ว ถ้าอดีตมันมั่ว แล้วมาบอกจะเลิกนี่เชื่อยาก เหมือนอาชญากรมันมีโอกาสเลิกได้แต่โอกาสทำซ้ำก็เยอะ แทนที่จะ ไห้โอกาสโจร ไปไห้โอกาสคนดีๆดีกว่า ถ้าคบกันแล้ว ติดเอดส์ หรือต้องเลี้ยงกาเหว่าก็ไม่มีใครมาเดือดร้อนแทน


เคยคุยกะเพื่อนในเนต มันเล่าไห้ฟังว่า ตอนเรียนมันจะเนิร์ดๆ จีบสาวไม่ติด แต่พอเรียนจบไปทำงานมีรายได้ดี ปรากฏมีสก๊อย ที่มันเคยจีบมาจีบมัน สภาพแบบมีลูกพ่วงมาแล้ว ซึ่งแน่นอนมันไม่เอา คือพวกแบดเกิร์ลโดยธรรมชาติมันก็ต้องรักกับแบดบอยนั่นแหละ จะมาหาคนดีๆก็ต้อง ติดโรค หรือท้องโย้มาแล้ว จะมาสูบเงินไม่ได้รัก คือเคยอ่านเจอบทความของผู้หญิงที่เขียนด่าสามีว่า ที่คบกับสามีต้องทนทุกข์ทรมาณ อยู่กะคนที่ไม่ได้รัก แต่กลับรักชู้มาก คิดถึงชู้ทุกลมหายใจเข้าออก และก็มีผู้หญิงจำนวนมาก ออกมาไห้กำลังใจ พร้อมกับบ่นว่าเป็นเหมือนกันเลย ผมก็พิมพ์ด่าไปคือไม่ได้รักแล้วจะแต่งงานเพื่อสูบเลือดสูบเนื้อเค้าทำไม  พวกแบดเกิร์ลจะประมานนี้ ดังนั้นเป็นคนดีอย่าไปยุ่งกะแบดเกิร์ล ถึงมันบอกกลับใจแล้วก็ไม่ได้กลับใจจริงๆ
ผมอ่านบทความหนึ่งมาและคิดถึงบทเพลง"โปรดอย่าถามว่าฉันเป็นใครเมื่อในอดีต"
และนึกว่านี่มันดกหกชัดๆ เพราะอดีตส่งผลถึงปัจจุบัน คนเราทิ้งอดีตไม่ได้หรอก
แต่ผู้หญิงที่ร้องเพลงนี้พยายามจะปกปิดความผิด..ไม่สิ เรื่องที่ไม่อยากให้คนปัจจุบันรู้ คงคิดว่าโรแมนติคดี แต่สุดทั้ายถ้าเกิดปัญหา คนปัจจุบันก็จะกลายเป็นอดีตที่เธอไม่พูดถึงอีกเช่นกัน
กลับมาที่เดิมครับ
ผมคิดว่านี่คือแนวคิดไททานิค
ที่โรสวิญญาณตอนห้วงสุดท้าย ไปหาแจ้คที่อยู่ในเรือไททานิค...โดยไม่ได้ไปหาสามีที่อยู่กินกันทมาหลายสิบปีและล(ุกหลานของเธอ ???

อาจจะดุเหมือนตลกร้าย
แต่ผมว่าผู้หญิงต้องการความมั่นคง จะอยู่กับผู้ชายหลายสิบปีก้ได้ แต่ความรักนั้นคนละเรื่อง
ซึ่งผู้ชายมองว่ามันแปลกๆในตอนจบ แต่ผู้หญิงชอบกันจนบัดนี้
[quote/]


อย่าดูถูกอาชีพอาบอบนวดนะครับ มันไม่ใช่แค่ว่า ง่สย ฟรีเซ็กส์ แล้วจะเป็นได้ เค้าก้อมีการคัด คนที่เข้าได้ อย่างน้อย ต้องสวย หุ่นดี ไม่ง้นก้อได้เป็นแค่เกรดล่างๆราคาไม่ถึง2000แหละ


ปล..ที่ยกมามันคือ ผีขนุนสนามหลวง เกรดไม่ถึงขั้นครับ

[quote/]

มันออกแนว กินปูกับเจ้าหญิงหิมะเลยแฮะ

นางเอกอยู่บ้าน ท่าทางซึมซังกะตาย แต่พอมาตะลอนกับชู้นี่ดูดี๊ด๊ามีความสุข

หากเอาเรื่องไปโพสในเน็ท หญิงๆ ก็คงเห็นใจเมือนกันแหละมั๊ง

ประมาณว่า สามี เป็นคนดีนะ เค้าใจดี สุภาพ เอาใจชั้น แต่เค้าบ้างาน  ทำงานตลอด ไม่ค่อยได้อยู่ด้วยกัน บลาๆๆ

แต่กับชู้ เค้าดูเป็นคนที่ บลาๆๆๆ (แต่ดูแล้ว คือ ต่างคนต่างขาดมาเจอกันก้เลยสปาร์ค แถมพระเอกเราถึงใจอีกตะหาก.... แหม หญิวร้ายชาย(โฉด..มั๊ง)  เลยทีเดียว)

แต่ในฐานะผู้ชาย ผมก้เห็นใจนางเอกนะ
ประเวรีเป็นส่วนสำคัยของการแต่งงาน หากมีอะไรกันก็ไม่รู้ทำไมไม่พูดกันตรงๆ
หรือคนที่ไม่ชอบยังไงก็ไม่ชอบล่ะนะ

เคยอ่านมาว่า ผู้หญิงพัมนาสมองส่วนคำศัพทืและการสื่อสารมากกว่าผู้ชายสามเท่าและเป็นสัตว์สังคมที่การสื่อสารละเอียดกว่าผู้ชาย

การทำสีหน้าเปลี่ยนไป ไม่ได้โต้เถียงก็ยังดดนผู้หญิงด่าว่า ไทำไมชักสีหน้า ไม่พอใจอะไร"
ผุ้ชายอาจจะคิดว่าไม่พูดด้วยก็ยังดดนด่า อะไรวะ


แต่ความจริงคือ การเปลี่ยนสีหน้าและท่าทางของผู้ชาย ไม่ต่างอะไรกับการพูดออกมาตรงๆกับผู้หญิง
ผู้ชายคิดว่าไม่พูดก็ถือว่าเราไม่พูด แต่ผู้หญิงจะมองออกเรื่องการลักษณะท่าทางที่แสดงออกมา
มันคือการสื่อสารด้วยภาษากาย
ที่ทำให้เราเห็นว่าผู้หญิงมีเรื่องให้ทะเลาะกันไม่สว่าเล็กน้อยแค่ไหนก็ด้วยสาเหตุนี้เช่นกัน น้ำเสียงต่างไปนิด หางตาเสยขึ้นหน่อย
ผู้ชายมองว่ามันไร้สาระ จะอะไรกันนักกันหนา  แต่สมองเราตั้งวงจรมาต่างกัน ทำให้ผู้หญิงใช้สมองไปในทางเช่นนี้
สรุปก็คือ ผู้หญิงน่าจะคิดว่าบอกผู้ชายอ้อมๆจนหมดแล้ว
แต่ผู้ชายก็คิดว่าไม่บอกตรงๆเท่ากับว่าไม่ได้พูด
ในเรื่องของการสื่อสาร เปรียบได้ผุ้ชายเป็นเพศที่พุดติดอ่างในขระที่ผู้หญิงพูดได้คล่องแคล่ว
ซึ่งผุ้ชายจะงงในภาษที่พวกเธอแสดงออกมาทำให้ไม่เข้าใจกัน
http://goshujin.tk/index.php?topic=944.0
นิยาย crossover Harry Potter/Type Moon ดูว่าคนที่มีเวทมนตร์อย่างแฮร์รี่ จะเอาตัวรอดอย่างไร ในโลกที่โหดร้ายของ ไทป์มูน
 
เหล่าหมีที่ถูกใจสิ่งนี้: nosta

ออฟไลน์ pol

  • สาวกผู้สนับสนุนเซนนิคุง2Y
  • จอมทัพหมีชั้นสูง
  • ***
  • กระทู้: 16,584
  • ถูกใจแล้ว: 18893 ครั้ง
  • ความนิยม: +360/-454
  • เพศ: ชาย
  • นักอู้มือหนึ่ง
โรสในไททานิกเป็นผู้หญิงที่ใจง่ายมากๆเลยละครับเจอแจ็คไม่กี่วันก็ไปนอนกับเขาแล้ว   ก็อย่างที่ท่านว่าตายแล้วแทนืที่จะไปอยู่กับผัวเผือกไปอยู่กับชู้!  นี่คุณเธอไม่ผูกพันธ์กับสามีเลยรึไง?
 
เหล่าหมีที่ถูกใจสิ่งนี้: nosta

ออฟไลน์ samuison

  • ยอดกวีแห่งเขาเซนนิคุมะ
  • จอมทัพหมีหนุ่ม
  • *
  • กระทู้: 8,979
  • ถูกใจแล้ว: 2935 ครั้ง
  • ความนิยม: +162/-427
โรสในไททานิกเป็นผู้หญิงที่ใจง่ายมากๆเลยละครับเจอแจ็คไม่กี่วันก็ไปนอนกับเขาแล้ว   ก็อย่างที่ท่านว่าตายแล้วแทนืที่จะไปอยู่กับผัวเผือกไปอยู่กับชู้!  นี่คุณเธอไม่ผูกพันธ์กับสามีเลยรึไง?
มีฝรั่งวิเคราะห์ว่า คาร์ลคุ่หมั้นโรสนี่โคตรเทพ เอาหัวใจมหาสมุทรมาเป็นของหมั้นให้โรสได้
และโรสคุณเธอก็เอาสร้อยมหัวใจมหาสมุทรเก็บไว้ตั้งหลายปี ทั้งที่มันเป็นของหมั้นที่ควรจะคืนให้คาร์ลหากไม่ยอมหมั้นกับคาร์ลแล้ว
ซ้ำร้ายพอตนเองจะตายแล้วยังอุตสาหฤ์ทิ้งของที่ควรจะอยู่ในพิพิทธภัณฑ์ลงในทะเลอีก
ทิ้งของมีค่าควรเมืองลงทะเลเพื่อ?
http://goshujin.tk/index.php?topic=944.0
นิยาย crossover Harry Potter/Type Moon ดูว่าคนที่มีเวทมนตร์อย่างแฮร์รี่ จะเอาตัวรอดอย่างไร ในโลกที่โหดร้ายของ ไทป์มูน
 
เหล่าหมีที่ถูกใจสิ่งนี้: pol, nosta, kroek และมีอีก 0 หมีที่ถูกใจสิ่งนี้

ออฟไลน์ samuison

  • ยอดกวีแห่งเขาเซนนิคุมะ
  • จอมทัพหมีหนุ่ม
  • *
  • กระทู้: 8,979
  • ถูกใจแล้ว: 2935 ครั้ง
  • ความนิยม: +162/-427
   มาแนะนำนิยายตัวร้ายต่างโลกที่ขำๆสนุกๆอีกเรื่องขอรับ  คราวนี้แหวกแนวหน่อยตรงที่เป็นการดำเนิน
เรื่องโดยใช้มุมมองเจ้าชาย  ที่คอยพยายามเลี่ยงธงให้นางเอก  แต่.....  แต่นางเอกกลับพยายามให้ธง
มันตรงตามเกมส์ที่เล่น  ฮา  เชิญเสพย์ขอรับ  ^^

   บันทึกสังเกตการณ์คุณคู่หมั้นผู้ประกาศตัวเป็นนางร้าย  https://www.nekopost.net/manga/6037
jishou akuyaku reijou na konyakusha no kansatsu kiroku
https://mangarock.com/manga/mrs-serie-100228471


ฮา ขอบคุณครับ




ผมจำเรื่องนี้ได้ นางเอกบ้าบอ เจ้าชายก็เก่งเทพอีกแล้ว




และจบแบบแฮปปี้ ท้องมีลูกด้วยมั้ง  ...ก็เรียกว่าตามสูตรสำเร็จล่ะครับ




ว่าไปแล้ว นางเอกของเกมส์ มีความสามารถล้างสมองสุดยอดแท้ๆ ดันใช้ไม่เป็นเสียได้
http://goshujin.tk/index.php?topic=944.0
นิยาย crossover Harry Potter/Type Moon ดูว่าคนที่มีเวทมนตร์อย่างแฮร์รี่ จะเอาตัวรอดอย่างไร ในโลกที่โหดร้ายของ ไทป์มูน
 

ออฟไลน์ netoris

  • หมีเต็มตัว
  • *
  • กระทู้: 52
  • ถูกใจแล้ว: 5 ครั้ง
  • ความนิยม: +2/-16
อยากรู้แนวคิดหญิง ใน เรื่อง แบบว่า นางเอกมีสามีแสนดี แต่ทุ่มเทกับงานเกินไป จนละเลยหลายเรื่อง

วันนึง เธฮมาเจอหนุ่มมืดมน และในที่สุด เขาและเธอ ก้อเติมเต็มซึ่งกันและกันแฮะ
ว่าพวกเธอ จะรู้สึกกับเรื่องแนวนี้อย่างไร
 

ออฟไลน์ warakornboy

  • หัวหน้าฝูงหมีเล็ก
  • ***
  • กระทู้: 471
  • ถูกใจแล้ว: 182 ครั้ง
  • ความนิยม: +14/-9
Romantic +sex นี่ถ้าจะเล่าต้องหลายมุมเลยละครับกว่าจะได้ใจความ เริ่มด้วย


Nature ‘เขามาจากที่ใด? เรามาจากที่ใด?’ หรือว่า ‘คนละดาวเดียวกัน?’ เคยได้ยินหรือเปล่าครับ?
1.การปฏิสัมพันธ์ของมนุษย์ก่อนกำเนิดสังคมนั้นก็ไม่ต่างอะไรกับ Animal ที่สืบพันธุ์โดยอาศัยเพศ  ถ้าเป็นพวกสืบพันธุ์โดยไม่อาศัยเพศนั้นตรรกะและมุมมองน่าจะต่างกันเยอะ


2.male & female; นั้นตั้งแต่สมัยไม่เป็นสังคม - ปัจจุบัน แทบจะพูดได้ว่าความคิดไม่ต่างกันเลย  หากแต่เป็นอวัยวะเพศเท่านั้นเอง  การศึกษาตนเองจะทำให้เกิด ideal - กระตุ้นความอยากเรียนรู้ได้ครับ


Civilization(อารยธรรม)


Selective breeders; เมื่อกำเนิดสังคมขึ้นมาแล้ว  คนบางกลุ่มมันไม่ใช่ ‘กิจประจำวัน’ หรือ  ‘หน้าที่สำคัญ’ อีกแล้วที่จะมานอนหรือคุกเข่ามีเพศสัมพันธ์กัน  แล้วต้องมารออีกตั้งเกือบปีกว่าจะคลอด - 6 ปีแห่งการเลี้ยงตัวอ่อนให้พึ่งพาตัวเองได้  เพราะทุกวันนี้รอกันแค่ 10 -20 ปี มันก็เพิ่มจำนวนประชากรอีก


ชาย - หญิงจำนวนนับไม่ถ้วนที่กลายเป็น Merchant, Politician(นักการเมือง) - Philosopher ด้วยสัญชาตญาณความรับผิดชอบต่อสังคม  และความต้องการที่จะดับกระหายต่อความอยากรู้ที่ทำให้ตาลุกวาวและใสเหมือนน้ำปริ่มสระ แต่ก็ไม่เชิงว่าพวกเค้าจะไม่ออกไปหาคู่กัน  เว้นแต่มีซัก 1-2 คนให้เลือกวิถีชีวิตตัวเองและยังคงเก็บความรู้ของพวกเค้าเองไว้ด้วยเมื่อไม่อยู่อีกแล้ว  การอ่านออก - เขียนมีบทบาทสำคัญมากๆ


เหมือนสังคมด้านล่างที่ไม่มีความสนใจเท่าจะฟ้องกัน  ปรากฏการณ์คู่แต่งงานจำนวนมากเป็นชนชั้นแรงงานอุตสาหกรรม - เกษตรกร ผู้ชายจะล่ำแข็งแรงสมบูรณ์ดี + อารมณ์ทางเพศสูงเพราะน่าจะไม่ค่อยสำเร็จความใคร่ตัวเอง,  ผู้หญิงถ้าไม่ใช่เสน่ห์แรงจัด  ลีลาเยอะก็ Oppai ไปเลย  น่าเศร้าอยู่บ้างที่อัตรา Death rate ในคนกลุ่มนี้ค่อนข้างสูง  ถ้ามองกันในแง่สังคมแล้วพวกเค้าก็เป็นทรัพยากรมนุษย์พื้นฐานที่ต้องมีไว้เพื่อรอพัฒนามาแทนที่ในอัตราความสำเร็จนั้นต่ำนั่นเอง


After The Great War (ww1) - Cold war


1.ความสำเร็จอย่างยิ่งจากการมาถึงของหนังสือสู่; Internet มันเป็น Fact (ข้อเท็จ-จริง)ที่ยากจะปฏิเสธว่าคนตายไปแล้วอาจเกิดใหม่โดยสูญเสียความทรงจำเก่าไปจนหมด  ระลึกชาติก็ยังจำได้ลางๆและไม่มีหลักฐานบันทึกทางประวัติศาสตร์เป็นวัตถุดิบเพื่อ Continue game ให้เร็วขึ้น


เหตุนั้นระบบการศึกษาที่จึงเกิดการวิวัฒนาการในตัวเองอย่างก้าวกระโดดชนิดที่ว่ารัฐฯควบคุมได้แค่ภายนอก  แต่ ‘รู้เท่าไม่ถึงสิ่งที่คาดเดาไม่ได้จากภายใน’  เพื่อทำให้ประชากร Upgrade ให้สามารถทำงานให้ตัวเอง - ระบบสำนักงานเอกชน - Bureaucracy ได้อย่างแน่นอนด้วยอัตราการครองชีพที่มั่นคง


2.Chase the Dead’s past Legacy to Modern & Future; ยุคของเรานั้นพูดได้ว่าแค่หางานได้อาจจะไม่เพียงพอที่ตอบสนองความสุข  การตัดสินใจของตัวเองเพื่อสังคมที่รักนั้นมันเพิ่มขึ้นและต้องการคำตอบมากขึ้น  หลายคนพยายามที่เรียนรู้จากอดีตสู่อนาคตแบบขั้นบันได แต่ Puzzle ที่โบราณเหล่านั้นไม่ใช่อะไรที่จะแก้ง่ายๆ  ถ้าหากนับรวม Mythology เข้าไปด้วย


Breeders supply requirement; ขณะนี้สังคมแทบจะแบ่งไปได้เป็นประเภทง่ายๆดังนี้


1.Manipulative playboy; ฉลาดแต่อาจไม่เฉลียว + ร่างกายเกือบจะไม่แข็งแรง  หาได้ทั่วไปจากสังคม
2.Bad boy; สติปัญญาพบมากเป็นระดับพื้นฐาน + อารมณ์ทางเพศต่ำ + ไม่สนใจความเป็นไปของสังคมนัก
3.Normie; มนุษธรรมดา + สติปัญญาระดับพื้นฐาน - ค่อนข้างสูง + Balanced body build และอารมณ์ทางเพศปานกลาง
4.Smart - Nerdy class; สติปัญญาขั้นต่ำค่อนข้างสูง - Superior intelligent + Balanced - very poor body build + isolated - education+ intelligent hunger
5.The Evolution thing; สติปัญญาขั้นต่ำค่อนข้างสูงเกือบ Superior intelligent - Genius + Balanced - very well & perfect build body + Low - high libido  เนื่องจากเป็นการสุ่ม


เคยตั้งสมมุติฐานมั่วๆไปตาม Manga สายวิทย์จ๋า - Terra formarsว่า ร่างกานเพศหญิงมีวิวัฒนาการอย่างเหลือเชื่อสามารถรับได้กระทั่ง Gene สติปัญญาเลยทีเดียว  การสุ่มจากบรรดาเด็กอายุต่ำกว่า 14 ปีเลยเป็น Gachapon ที่ยากนิดนึง  แต่ถ้าวัยเดียวกันประชากรประเภทที่ 4-5 จะเป็นทรัพยากรมนุษย์ที่ต่อให้


ต้องมาสร้างเองจากการสุ่มยีนซ้ำๆ  พวกเธอก็ทำครับด้วยอิทธิพลจากได้รับการศึกษาสูงนั้นก็ไม่แน่ Sexual desire ก็เลยเหมือนวิชาประจำตัวที่ต้องมีกัน  ในLogic ของมนุษย์ male = donor, female = receiver  แต่ถ้าชายคนนั้นมีลูกก็มีแนวโน้มเป็นพ่อที่รักลูกมากกว่าภรรยาได้เหมือนกัน



 

ออฟไลน์ Overmars

  • นักปราชญ์แห่งเขาเซนนิคุมะ
  • แม่ทัพหมีอาวุโส
  • ****
  • กระทู้: 4,178
  • ถูกใจแล้ว: 2193 ครั้ง
  • ความนิยม: +226/-225
Bad boy ของฝรั่งกับของชาติอื่นๆมันแค่ไม่ชอบทำตามชาวบ้านครับ  แต่พอหมดช่วงวัยรุ่นมันก็ทำงานทำการนะเออ  ส่วนของไทยไม่ได้ดูถูกนะ ผู้ชายขายยา ผู้หญิงไม่ขายยาก็ขายตัว 8) 
ผมเคยอ่านการ์ตูนญี่ปุ่นแก๊งค์ซิ่งมันเก็บเงินด้วยการทำงานพิเศษเพื่อให้มีเงินมาแต่งรถ ขนาดกุ๊ยนะนั่นส่วนเด็กแว๊นเมืองไทย ขอเงินพ่อแม่ ขายยา ขายตัว ฮ่วย!
อังกฤษมีคำว่า "scum" ที่ใช้เรียกคนแบบนี้ครับ
 
เหล่าหมีที่ถูกใจสิ่งนี้: pol

ออฟไลน์ samuison

  • ยอดกวีแห่งเขาเซนนิคุมะ
  • จอมทัพหมีหนุ่ม
  • *
  • กระทู้: 8,979
  • ถูกใจแล้ว: 2935 ครั้ง
  • ความนิยม: +162/-427
อยากรู้แนวคิดหญิง ใน เรื่อง แบบว่า นางเอกมีสามีแสนดี แต่ทุ่มเทกับงานเกินไป จนละเลยหลายเรื่อง

วันนึง เธฮมาเจอหนุ่มมืดมน และในที่สุด เขาและเธอ ก้อเติมเต็มซึ่งกันและกันแฮะ
ว่าพวกเธอ จะรู้สึกกับเรื่องแนวนี้อย่างไร


ยังติดใจเรื่องกินปูอีกหรือครับ ฮา




ไปแต่งเรื่องน้องขิงต่อดีกว่าครับ ผมรอมาเป็นสิบปีล่ะ


Romantic +sex นี่ถ้าจะเล่าต้องหลายมุมเลยละครับกว่าจะได้ใจความ เริ่มด้วย


Nature ‘เขามาจากที่ใด? เรามาจากที่ใด?’ หรือว่า ‘คนละดาวเดียวกัน?’ เคยได้ยินหรือเปล่าครับ?
1.การปฏิสัมพันธ์ของมนุษย์ก่อนกำเนิดสังคมนั้นก็ไม่ต่างอะไรกับ Animal ที่สืบพันธุ์โดยอาศัยเพศ  ถ้าเป็นพวกสืบพันธุ์โดยไม่อาศัยเพศนั้นตรรกะและมุมมองน่าจะต่างกันเยอะ


2.male & female; นั้นตั้งแต่สมัยไม่เป็นสังคม - ปัจจุบัน แทบจะพูดได้ว่าความคิดไม่ต่างกันเลย  หากแต่เป็นอวัยวะเพศเท่านั้นเอง  การศึกษาตนเองจะทำให้เกิด ideal - กระตุ้นความอยากเรียนรู้ได้ครับ


Civilization(อารยธรรม)


Selective breeders; เมื่อกำเนิดสังคมขึ้นมาแล้ว  คนบางกลุ่มมันไม่ใช่ ‘กิจประจำวัน’ หรือ  ‘หน้าที่สำคัญ’ อีกแล้วที่จะมานอนหรือคุกเข่ามีเพศสัมพันธ์กัน  แล้วต้องมารออีกตั้งเกือบปีกว่าจะคลอด - 6 ปีแห่งการเลี้ยงตัวอ่อนให้พึ่งพาตัวเองได้  เพราะทุกวันนี้รอกันแค่ 10 -20 ปี มันก็เพิ่มจำนวนประชากรอีก


ชาย - หญิงจำนวนนับไม่ถ้วนที่กลายเป็น Merchant, Politician(นักการเมือง) - Philosopher ด้วยสัญชาตญาณความรับผิดชอบต่อสังคม  และความต้องการที่จะดับกระหายต่อความอยากรู้ที่ทำให้ตาลุกวาวและใสเหมือนน้ำปริ่มสระ แต่ก็ไม่เชิงว่าพวกเค้าจะไม่ออกไปหาคู่กัน  เว้นแต่มีซัก 1-2 คนให้เลือกวิถีชีวิตตัวเองและยังคงเก็บความรู้ของพวกเค้าเองไว้ด้วยเมื่อไม่อยู่อีกแล้ว  การอ่านออก - เขียนมีบทบาทสำคัญมากๆ


เหมือนสังคมด้านล่างที่ไม่มีความสนใจเท่าจะฟ้องกัน  ปรากฏการณ์คู่แต่งงานจำนวนมากเป็นชนชั้นแรงงานอุตสาหกรรม - เกษตรกร ผู้ชายจะล่ำแข็งแรงสมบูรณ์ดี + อารมณ์ทางเพศสูงเพราะน่าจะไม่ค่อยสำเร็จความใคร่ตัวเอง,  ผู้หญิงถ้าไม่ใช่เสน่ห์แรงจัด  ลีลาเยอะก็ Oppai ไปเลย  น่าเศร้าอยู่บ้างที่อัตรา Death rate ในคนกลุ่มนี้ค่อนข้างสูง  ถ้ามองกันในแง่สังคมแล้วพวกเค้าก็เป็นทรัพยากรมนุษย์พื้นฐานที่ต้องมีไว้เพื่อรอพัฒนามาแทนที่ในอัตราความสำเร็จนั้นต่ำนั่นเอง


After The Great War (ww1) - Cold war


1.ความสำเร็จอย่างยิ่งจากการมาถึงของหนังสือสู่; Internet มันเป็น Fact (ข้อเท็จ-จริง)ที่ยากจะปฏิเสธว่าคนตายไปแล้วอาจเกิดใหม่โดยสูญเสียความทรงจำเก่าไปจนหมด  ระลึกชาติก็ยังจำได้ลางๆและไม่มีหลักฐานบันทึกทางประวัติศาสตร์เป็นวัตถุดิบเพื่อ Continue game ให้เร็วขึ้น


เหตุนั้นระบบการศึกษาที่จึงเกิดการวิวัฒนาการในตัวเองอย่างก้าวกระโดดชนิดที่ว่ารัฐฯควบคุมได้แค่ภายนอก  แต่ ‘รู้เท่าไม่ถึงสิ่งที่คาดเดาไม่ได้จากภายใน’  เพื่อทำให้ประชากร Upgrade ให้สามารถทำงานให้ตัวเอง - ระบบสำนักงานเอกชน - Bureaucracy ได้อย่างแน่นอนด้วยอัตราการครองชีพที่มั่นคง


2.Chase the Dead’s past Legacy to Modern & Future; ยุคของเรานั้นพูดได้ว่าแค่หางานได้อาจจะไม่เพียงพอที่ตอบสนองความสุข  การตัดสินใจของตัวเองเพื่อสังคมที่รักนั้นมันเพิ่มขึ้นและต้องการคำตอบมากขึ้น  หลายคนพยายามที่เรียนรู้จากอดีตสู่อนาคตแบบขั้นบันได แต่ Puzzle ที่โบราณเหล่านั้นไม่ใช่อะไรที่จะแก้ง่ายๆ  ถ้าหากนับรวม Mythology เข้าไปด้วย


Breeders supply requirement; ขณะนี้สังคมแทบจะแบ่งไปได้เป็นประเภทง่ายๆดังนี้


1.Manipulative playboy; ฉลาดแต่อาจไม่เฉลียว + ร่างกายเกือบจะไม่แข็งแรง  หาได้ทั่วไปจากสังคม
2.Bad boy; สติปัญญาพบมากเป็นระดับพื้นฐาน + อารมณ์ทางเพศต่ำ + ไม่สนใจความเป็นไปของสังคมนัก
3.Normie; มนุษธรรมดา + สติปัญญาระดับพื้นฐาน - ค่อนข้างสูง + Balanced body build และอารมณ์ทางเพศปานกลาง
4.Smart - Nerdy class; สติปัญญาขั้นต่ำค่อนข้างสูง - Superior intelligent + Balanced - very poor body build + isolated - education+ intelligent hunger
5.The Evolution thing; สติปัญญาขั้นต่ำค่อนข้างสูงเกือบ Superior intelligent - Genius + Balanced - very well & perfect build body + Low - high libido  เนื่องจากเป็นการสุ่ม


เคยตั้งสมมุติฐานมั่วๆไปตาม Manga สายวิทย์จ๋า - Terra formarsว่า ร่างกานเพศหญิงมีวิวัฒนาการอย่างเหลือเชื่อสามารถรับได้กระทั่ง Gene สติปัญญาเลยทีเดียว  การสุ่มจากบรรดาเด็กอายุต่ำกว่า 14 ปีเลยเป็น Gachapon ที่ยากนิดนึง  แต่ถ้าวัยเดียวกันประชากรประเภทที่ 4-5 จะเป็นทรัพยากรมนุษย์ที่ต่อให้


ต้องมาสร้างเองจากการสุ่มยีนซ้ำๆ  พวกเธอก็ทำครับด้วยอิทธิพลจากได้รับการศึกษาสูงนั้นก็ไม่แน่ Sexual desire ก็เลยเหมือนวิชาประจำตัวที่ต้องมีกัน  ในLogic ของมนุษย์ male = donor, female = receiver  แต่ถ้าชายคนนั้นมีลูกก็มีแนวโน้มเป็นพ่อที่รักลูกมากกว่าภรรยาได้เหมือนกัน








ผมเจอคนเล่นมุกนี้ครับในการอธิบาย




กรุกมนุษย์ยุคหินมีภริยาอุนก้า โตสุดบุกเข้ามาเอาหินทุบหัวกรุก กรุกเสียชีวิต โตสุดข่มขืนอุนก้า อุนก้าต่อสู้ขัดขืน


โตสุดฆ่าอุนก้า


..มนุษย์ปัจจุบันไม่ได้สืบเชื้อสายมาจากอุนก้าที่ซื่อสัตย์




อ่าจเจอเรื่องทรัพย์ในดิน




แนวคิดคนเก่าแก่ มีประมาณว่า ต้องมีลูกมากๆ เพราะต้องเหลือที่รอดชีวิตมาบ้าง


อัตราการตายเยอะในสมัยก่อน




ผมเคยมองว่าน่าสนใจ  war on sex ที่แต่ละฝ่ายต้องใช้กลยุทธต่างๆเพื่อเอาชนะในสงครามความรัก
แบบในเรื่องสงครามรักคางุยะ


ที่มีมุกส่าผู้ชาย เอาสร้อยรูปหัวใจให้แฟน ผู้ชายมองว่าดี ผู้หญิงบ่นว่าเชย...




นั่นคือจุดสำคัญล่ะครับเรื่อง war สงครามความรัก




เพราะผู้ชายไม่เข้าใจเลยว่ามันมีสงครามอยู่


ว่ามันอะไรกันนักกันหนา?  แต่ผู้หญิงเป็นสัตว์สังคม และเชี่ยวชาญด้านภาษา ทำให้ผู้ชายดูเหมือนคนโง่เขลาในสายตาของพวกคุณเธอที่มอง ภาษาหรือสัญลักษณ์ต่างๆไม่ออก




นี่คือสาเหตุหนึ่งที่ผมไม่ชอบ คำพูดโกวเล้งหรือแนวเพจพ่อบ้านใจกล้า


ที่ชอบพูดประมาณว่า "ใครบอกว่าเข้าใจในอิสตรี มันผู้นั้นคือตัวโง่งมที่สุดในแผ่นดิน"


มันคือการตัดปัญหา ไม่พยายามที่จะทำความเข้าใจในภาพรวม


มนุษย์ก็คือมนุษย์ มันไม่มีมนต์ขลัง ความเร้นลับของผู้หญิงอย่างที่ชอบพูดกัน
http://goshujin.tk/index.php?topic=944.0
นิยาย crossover Harry Potter/Type Moon ดูว่าคนที่มีเวทมนตร์อย่างแฮร์รี่ จะเอาตัวรอดอย่างไร ในโลกที่โหดร้ายของ ไทป์มูน
 

ออฟไลน์ fiererry

  • หมีฝึกหัด
  • *
  • กระทู้: 9
  • ถูกใจแล้ว: 6 ครั้ง
  • ความนิยม: +3/-0
  • ตามหาส้นสูงที่หายไป
[size=78%]เหมือนจะคุยกันไม่สัพเพเหระกันแล้วนะคะ[/size]


     เรื่องมาเฟีย แบดบอยนี่เพราะสาวๆกำลังชอบแนวนี้กันอยู่ (ถ้าสมัยก่อนขอแค่หน้าตาดีสุดๆก็พอ แต่ยุคสมัยเปลี่ยนฟังก์ชั่นผู้ชายก็ต้องมีเพิ่ม) และที่สำคัญคือการที่คนสุดโหดบรรลัยโลกและอยู่เหนือผู้อื่นชอบจำนนเราเพียงเพราะเขารักเรา = ผู้หญิงก็แค่ชอบอำนาจที่เหนือกว่าผู้ชายและตนต้องอยู่เหนือสาวๆคนอื่น เห็นใครมีกระเป๋า รองเท้า เสื้อผ้า ทรงผมสวยกว่าตัวเองก็อยากทำบ้างอยากสวยกว่าดีกว่าบ้าง เรียกว่าเป็นจิตใจของหญิงสาวโดยทั่วไป


     เรื่องการตั้งท้อง ควรคิดว่ามันคือ 'ฉากจบที่สมบูรณ์ของเนื้อเรื่อง' มากกว่านะคะ มันก็เหมือนกับฝ่ายชายที่พระเอกมักมีผู้หญิง'หลายคน'มาชอบในเรื่อง แต่สุดท้าย พระเอกต้องลงเอยกับใครสักคน ต้องมีสักลำถึงฝั่งอย่างสมบูรณ์ ทางด้านของฝ่ายหญิง เพราะมันเป็นรักที่กำหนดตายตัว การจบเรื่องแบบเรือถึงฝั่งจึงไม่เกิดขึ้น แต่จะจบแบบไหน? เอ้า! ตั้งท้องมีครอบครัวไปเลยสิ! หลังจากนั่นเป็นไงก็ช่าง! หากจบแบบฉันรักเธอ ฉันก็รักเธอเหมือนกัน บอกเลยว่าผู้อ่านสาวๆอาจจะรู้สึกว่าจบแล้วเหรอ? เลยให้ตั้งท้องให้เหมือนกับการจบจริงๆ (ในฐานะผญ.แล้วงงแนววายตั้งท้องมากค่ะ อ่านแล้วก็แบบ เพื่อ!? ก็ถ้าจะให้ท้อง งั้นก็แต่งชายหญิงไปสิ! เราอันตี้แนวท้องของวายพอตัวเลยค่ะ...)
 
      เรื่องผลของนิยายฝรั่งเศส...ถามจริงคิดได้ไง = = การที่มีฉากเปลือยกล้ามผู้ชายหรือกอดแนบอกข้างกายมันต้องมีอิทธิพลหรูหราจากที่ไหนสักแห่งด้วยเหรอค่ะ? ผู้หญิงถูกคนรักกอด มีใครไม่ชอบบ้าง มีใครไม่กรี๊ดบ้าง มันเรียกว่าเซอวิสให้นักอ่านนะคะ แล้วเรื่องเปลือยเนี่ย...ผู้หญิงอกโต ใส่กระโปรงสั้นโชว์ขา ฉากอาบน้ำ ฉากออนเซ็น ฉานล้มทับกัน ฉากตอน'อุ้ย! อุบัติเหตุ'แล้วเผลอไปจับนม ฉากเอาหน้าซุกนม...เราว่ามันเหมือนกันนะคะ ผู้หญิงอยากเห็นร่างผู้ชาย ผู้ชายชอบเรือนร่างผู้หญิง = ปกติของทั้งสองเพศ(แค่เปลือยครึ่งบน เพราะถ้าเปลือยหมดก็ไม่ดี มันเป็นศีลธรรมที่ผญเคยมีกันอยู่นิดหน่อย...แต่สมัยนี้ถ้าจะเปลือยก็เปลื่อยหมดแล้วเซนเซอร์ท่อนล่างเหมือนกันนะคะ)


     เรื่อง 'ไปคบกับคนอื่นก่อนและเขาจะหันมามองเธอ' อันนี้สำหรับเราที่เป็นผญค่อนข้างหงุดหงิดแนวนี้เหมือนกันนะคะ เพราะคบกับคนอื่นที่ไหน คนนั้นดันเป็นพระรองที่นิสัยโคตรดีมากๆ เราเบื่อพล็อตคบกับคนอื่นเหมือนกันค่ะ แต่ถ้าเป็นเรื่องหึงหวงเฉยๆนี่ เป็นมื้อหลักของสาวๆยังได้เลยค่ะ แบบว่าไปเที่ยวกับคนอื่น แล้วพระเอกมาเห็นก็หึงอะไรทำนองนี้ เพราะผญจะรู้สึกโดนรักอยู่ และผชอยากเก็บเราไว้เป็นเจ้าของ
     เอาจริงๆดูอนิเมะแนวฮาเร็มมาหลายเรื่อง เรายังอดสงสัยไม่ได้อยู่เลยว่า...ผญพวกนั้นทนเห็นพระเอกจู้จี้กับคนอื่นขนาดนี้แล้วแค่ปะทะฝีปากกันทำตัวเป็นสาวแย่งลิงไปทำไม พวกหล่อนสวยเว่อวังขนาดนั้นหัดมาดร้ายจับข่มขื่นไปเลยเซ่!


     พอโดนถามเรื่องความเห็นของผญกลับมาแบบนี้แล้ว ว่าจะตอบกลับอย่างเป็นมิตรและสุภาพ แต่ดูเหมือนจะโดนดูถูกแนวคิดผญเยอะเหมือนกันนะคะ(ดูจากตอบกลับความคิดเห็นของเม้นสาวๆก่อนหน้า) อ่านแล้วไม่รู้สึกว่ากำลังต้องการเข้าใจความคิดของผญ แต่แค่อยากโต้แย้งแล้วบอกว่า 'ไม่ปกติ ไม่ถูก' มากกว่าเลย แบบว่าเถียงมาเถียงกลับ เอาซะเรายกประเด็นฮาเร็มมาย้อนแย้งบ้างเลยนะคะ
     ปากก็บอกว่าผญเก่งแต่ผชยังต้องเก่งกว่าเธออีกที บอกว่าผู้ชายสูงส่งแต่ต้องยอมจำนนผญ บอกว่าเป็นคาสโนว่าแต่ต้องมารักนางเอกคนเดียวดูขัดแย้ง....- - อะโฮว ฮาเร็มที่ผญดีๆเลิศๆระดับพรีเมี่ยมตีกันแย้งผชหน้าบ้านๆคนเดียว..ทนได้ไง หมายถึงพระเอกในเรื่อง แกทนผญที่ดีกว่าแกสามเท่ามารักแล้วทำหน้านิ่งเหมือนอยู่กับสาวสามัญได้ยังไง เป็นเรานี่สวมร่างพระเอกจับจีบสักคนอย่างจริงจังไปนานแล้ว.. สาวฮาเร็มแต่ละคนเด็ดๆกันทั้งนั้นนะคะ! แต่สุดท้ายกองอวยล่มเพราะผชเลือกได้แล้ว มันต่างกันตรงไหน..เรามองว่าพระเอกคาสโนว่ามาทั้งเรื่อง สุดท้ายเลือกสาวคนนี้เอากองอวยนี้รักเดียวใจเดียว แล้วยิ่งบางฮาเร็ม ผญทุกคนยอมรับว่าพระเอกหลายใจได้ แถมยังจับมือกันรักพระเอกอย่างไม่มีปัญหาใดๆต่อกัน...ถามจริง พวกหล่อนยังมีศักดิ์ศรีของผญกันบ้างไหมเนี่ย เราเป็นผญดูแนวฮาเร็มยังอดกุมขมับหลายอย่างไม่ได้เลย แต่สุดท้ายถ้าตีประเด็นเรื่องฮาเร็มก็เข้าล็อกคำตอบ...'การตลาด ปกติในปัจจุบัน ก็แค่มังงะอนิเมะ' คำตอบฝั่งผญก็เหมือนกันค่ะ มันก็แค่ในมังงะ นิยาย เราขอพระเอกเทพๆหล่อๆรักเดียวใจเดียวให้อ่านชื่นหัวใจก็พอแล้ว







 
เหล่าหมีที่ถูกใจสิ่งนี้: Mortem, Sharona

ออฟไลน์ blademaster

  • จุดต่ำสุดแห่งวงศ์วานหมี
  • หัวหน้าฝูงหมีใหญ่
  • *****
  • กระทู้: 1,141
  • ถูกใจแล้ว: 305 ครั้ง
  • ความนิยม: +29/-472
ศักดิ์ศรีของผู้หญิง คือต้องตบหญิงอื่นเกลียดหญิงอื่นเหรอ งงอ่ะ คือต้องทะเลาะกัน ไล่ฆ่ากันเพื่อให้พระเอกมาปวดหัว งั้นเหรอ

ผมว่ามันเกิดจากค่านิยมเมืยหลวงได้เงินทั้งหมดนะ
แต่หลายเรื่องที่เมียหลวงไมไ่ด้ทั้งหมด ก็ต้องแบ่งๆกันสิ

แล้วเค้าไมไ่ด้เลือกปู้ชายหน้าบ้านๆ แต่นั่นคือพระเอกที่มีอะไรพิเศษ นิ( เต้าของกระทู้ ดูถูกผ฿ู้ชายหน้าบ้านๆใช่มะ 555)
 

ออฟไลน์ blademaster

  • จุดต่ำสุดแห่งวงศ์วานหมี
  • หัวหน้าฝูงหมีใหญ่
  • *****
  • กระทู้: 1,141
  • ถูกใจแล้ว: 305 ครั้ง
  • ความนิยม: +29/-472
หากพูดถึงการตลาด

พระเอกได้กะนางเอกหลายคน--สังคมยอมรับได้เห็นได้ว่ามีเรื่องนี้หลายแนว

นางเอกได้กะพระเอกหลายคน--- เรื่องที่ได้แบบนี้ นี่แทบนับเรื่องได้เลยมั๊ง

แสดงว่าสังคม และกลุ่มลกค้า แม้แต่หญิงเอง ก้อไม่ชอบ แนว ที่นางเอกได้กะพระเอกหลายๆคน
ส่วนแนวคิด ต้นๆเรื่องนั้น คือไม่เงบอกว่ามันผิด แค่บอกว่ามัน"พิลึก"
เช่น หญิงกรี๊ด ทั่นชีคยังงั้ยังงี้ แต่พอเจอของจริงมา เนี่ยหญิงหลายๆคนบอกว่าไม่เอา เอาแค่อ่านในนิยายพอ

มันพิลึกไหมล่ะ


ปล..หมูที่น่ารัก มันก็รูทสัตว์เลี้ยงนะ จะเอามาเป็นนางเอกเลยเรอะ 555 ส่วนพระเอกมันสายกินหญ้า อ้างโน่นอ้างนี่ แต่ทำไม่เป็นเท่านั้นแหละ

ปลอีก..จะท่อนล่างเปนขาแมงมุม แบบเจ๊รัค หือท่อนล่งเปนงูแบบมีอา ยังไง ก้อน่าอวยกว่าหน้าเป็นหมูนะ....
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: พฤษภาคม 28, 2019, 12:19:54 AM โดย blademaster »
 

ออฟไลน์ blademaster

  • จุดต่ำสุดแห่งวงศ์วานหมี
  • หัวหน้าฝูงหมีใหญ่
  • *****
  • กระทู้: 1,141
  • ถูกใจแล้ว: 305 ครั้ง
  • ความนิยม: +29/-472
งง... ถามเรื่องแฟน ไหนนายตอบว่า อยากได้แฟนเป็นนักฟุตบอล??

ปล..แต่ในฐานะผู้ชาย พระเอกหน้าแบบนี้ก้อไม่ไหวแฮะ

https://www.nekopost.net/manga/5933/9

คุณทานากะ ยังหล่อกว่าอีก
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: พฤษภาคม 28, 2019, 12:59:33 AM โดย blademaster »
 

ออฟไลน์ samuison

  • ยอดกวีแห่งเขาเซนนิคุมะ
  • จอมทัพหมีหนุ่ม
  • *
  • กระทู้: 8,979
  • ถูกใจแล้ว: 2935 ครั้ง
  • ความนิยม: +162/-427
[size=78%]เหมือนจะคุยกันไม่สัพเพเหระกันแล้วนะคะ[/size]


     เรื่องมาเฟีย แบดบอยนี่เพราะสาวๆกำลังชอบแนวนี้กันอยู่ (ถ้าสมัยก่อนขอแค่หน้าตาดีสุดๆก็พอ แต่ยุคสมัยเปลี่ยนฟังก์ชั่นผู้ชายก็ต้องมีเพิ่ม) และที่สำคัญคือการที่คนสุดโหดบรรลัยโลกและอยู่เหนือผู้อื่นชอบจำนนเราเพียงเพราะเขารักเรา = ผู้หญิงก็แค่ชอบอำนาจที่เหนือกว่าผู้ชายและตนต้องอยู่เหนือสาวๆคนอื่น เห็นใครมีกระเป๋า รองเท้า เสื้อผ้า ทรงผมสวยกว่าตัวเองก็อยากทำบ้างอยากสวยกว่าดีกว่าบ้าง เรียกว่าเป็นจิตใจของหญิงสาวโดยทั่วไป


     เรื่องการตั้งท้อง ควรคิดว่ามันคือ 'ฉากจบที่สมบูรณ์ของเนื้อเรื่อง' มากกว่านะคะ มันก็เหมือนกับฝ่ายชายที่พระเอกมักมีผู้หญิง'หลายคน'มาชอบในเรื่อง แต่สุดท้าย พระเอกต้องลงเอยกับใครสักคน ต้องมีสักลำถึงฝั่งอย่างสมบูรณ์ ทางด้านของฝ่ายหญิง เพราะมันเป็นรักที่กำหนดตายตัว การจบเรื่องแบบเรือถึงฝั่งจึงไม่เกิดขึ้น แต่จะจบแบบไหน? เอ้า! ตั้งท้องมีครอบครัวไปเลยสิ! หลังจากนั่นเป็นไงก็ช่าง! หากจบแบบฉันรักเธอ ฉันก็รักเธอเหมือนกัน บอกเลยว่าผู้อ่านสาวๆอาจจะรู้สึกว่าจบแล้วเหรอ? เลยให้ตั้งท้องให้เหมือนกับการจบจริงๆ (ในฐานะผญ.แล้วงงแนววายตั้งท้องมากค่ะ อ่านแล้วก็แบบ เพื่อ!? ก็ถ้าจะให้ท้อง งั้นก็แต่งชายหญิงไปสิ! เราอันตี้แนวท้องของวายพอตัวเลยค่ะ...)
 
      เรื่องผลของนิยายฝรั่งเศส...ถามจริงคิดได้ไง = = การที่มีฉากเปลือยกล้ามผู้ชายหรือกอดแนบอกข้างกายมันต้องมีอิทธิพลหรูหราจากที่ไหนสักแห่งด้วยเหรอค่ะ? ผู้หญิงถูกคนรักกอด มีใครไม่ชอบบ้าง มีใครไม่กรี๊ดบ้าง มันเรียกว่าเซอวิสให้นักอ่านนะคะ แล้วเรื่องเปลือยเนี่ย...ผู้หญิงอกโต ใส่กระโปรงสั้นโชว์ขา ฉากอาบน้ำ ฉากออนเซ็น ฉานล้มทับกัน ฉากตอน'อุ้ย! อุบัติเหตุ'แล้วเผลอไปจับนม ฉากเอาหน้าซุกนม...เราว่ามันเหมือนกันนะคะ ผู้หญิงอยากเห็นร่างผู้ชาย ผู้ชายชอบเรือนร่างผู้หญิง = ปกติของทั้งสองเพศ(แค่เปลือยครึ่งบน เพราะถ้าเปลือยหมดก็ไม่ดี มันเป็นศีลธรรมที่ผญเคยมีกันอยู่นิดหน่อย...แต่สมัยนี้ถ้าจะเปลือยก็เปลื่อยหมดแล้วเซนเซอร์ท่อนล่างเหมือนกันนะคะ)


     เรื่อง 'ไปคบกับคนอื่นก่อนและเขาจะหันมามองเธอ' อันนี้สำหรับเราที่เป็นผญค่อนข้างหงุดหงิดแนวนี้เหมือนกันนะคะ เพราะคบกับคนอื่นที่ไหน คนนั้นดันเป็นพระรองที่นิสัยโคตรดีมากๆ เราเบื่อพล็อตคบกับคนอื่นเหมือนกันค่ะ แต่ถ้าเป็นเรื่องหึงหวงเฉยๆนี่ เป็นมื้อหลักของสาวๆยังได้เลยค่ะ แบบว่าไปเที่ยวกับคนอื่น แล้วพระเอกมาเห็นก็หึงอะไรทำนองนี้ เพราะผญจะรู้สึกโดนรักอยู่ และผชอยากเก็บเราไว้เป็นเจ้าของ
     เอาจริงๆดูอนิเมะแนวฮาเร็มมาหลายเรื่อง เรายังอดสงสัยไม่ได้อยู่เลยว่า...ผญพวกนั้นทนเห็นพระเอกจู้จี้กับคนอื่นขนาดนี้แล้วแค่ปะทะฝีปากกันทำตัวเป็นสาวแย่งลิงไปทำไม พวกหล่อนสวยเว่อวังขนาดนั้นหัดมาดร้ายจับข่มขื่นไปเลยเซ่!


     พอโดนถามเรื่องความเห็นของผญกลับมาแบบนี้แล้ว ว่าจะตอบกลับอย่างเป็นมิตรและสุภาพ แต่ดูเหมือนจะโดนดูถูกแนวคิดผญเยอะเหมือนกันนะคะ(ดูจากตอบกลับความคิดเห็นของเม้นสาวๆก่อนหน้า) อ่านแล้วไม่รู้สึกว่ากำลังต้องการเข้าใจความคิดของผญ แต่แค่อยากโต้แย้งแล้วบอกว่า 'ไม่ปกติ ไม่ถูก' มากกว่าเลย แบบว่าเถียงมาเถียงกลับ เอาซะเรายกประเด็นฮาเร็มมาย้อนแย้งบ้างเลยนะคะ
     ปากก็บอกว่าผญเก่งแต่ผชยังต้องเก่งกว่าเธออีกที บอกว่าผู้ชายสูงส่งแต่ต้องยอมจำนนผญ บอกว่าเป็นคาสโนว่าแต่ต้องมารักนางเอกคนเดียวดูขัดแย้ง....- - อะโฮว ฮาเร็มที่ผญดีๆเลิศๆระดับพรีเมี่ยมตีกันแย้งผชหน้าบ้านๆคนเดียว..ทนได้ไง หมายถึงพระเอกในเรื่อง แกทนผญที่ดีกว่าแกสามเท่ามารักแล้วทำหน้านิ่งเหมือนอยู่กับสาวสามัญได้ยังไง เป็นเรานี่สวมร่างพระเอกจับจีบสักคนอย่างจริงจังไปนานแล้ว.. สาวฮาเร็มแต่ละคนเด็ดๆกันทั้งนั้นนะคะ! แต่สุดท้ายกองอวยล่มเพราะผชเลือกได้แล้ว มันต่างกันตรงไหน..เรามองว่าพระเอกคาสโนว่ามาทั้งเรื่อง สุดท้ายเลือกสาวคนนี้เอากองอวยนี้รักเดียวใจเดียว แล้วยิ่งบางฮาเร็ม ผญทุกคนยอมรับว่าพระเอกหลายใจได้ แถมยังจับมือกันรักพระเอกอย่างไม่มีปัญหาใดๆต่อกัน...ถามจริง พวกหล่อนยังมีศักดิ์ศรีของผญกันบ้างไหมเนี่ย เราเป็นผญดูแนวฮาเร็มยังอดกุมขมับหลายอย่างไม่ได้เลย แต่สุดท้ายถ้าตีประเด็นเรื่องฮาเร็มก็เข้าล็อกคำตอบ...'การตลาด ปกติในปัจจุบัน ก็แค่มังงะอนิเมะ' คำตอบฝั่งผญก็เหมือนกันค่ะ มันก็แค่ในมังงะ นิยาย เราขอพระเอกเทพๆหล่อๆรักเดียวใจเดียวให้อ่านชื่นหัวใจก็พอแล้ว










ขอบคุณที่เข้ามาตอบคำถามครับ




แต่ผมคนละคนกับท่าน blademaster หรือseika นะ




ในกระทํนี้ตั้งเป้าหมายเพื่อลองคุยกัน




ก็รู้ว่า "เป็นที่นิยม"wish fulfilment ตอบสนองความต้องการส่วนลึกนั่นล่ะ




แต่เป้สหมายที่ผมต้องการคือคำตอบว่า "ทำไม"และ"อย่างไร"ครับ




ช่วงนี้ไปอ่านเรื่องแนวคิดที่มีคนด่าว่าฟรอยด์เป็นคนหลอกลวง เลยพยายามตั้งสมการใหม่มองแบบเอทิสม์จ๋าว่า




มนุษย์คือไปโอชีวะ ที่กระบวนการตัดสินใจคล้ายคอมพิวเตอร์ ระบบประสาทสร้างเรามาอย่างนั้น


ผู้หญิงผู้ชาย ฮอโมนและเส้นประสาทต่างกัน ...สิ่งที่ผมแสวงหาคือคำตอบว่า "ทำไม"และ"อย่างไร"นี่ล่ะครับ







เรื่องท้องทำไมถึงมองว่าเป็น"การจบสมบูรณ์"ซึ่งผมว่ามันตามมาด้วยแนวคิดที่อันตรายว่า"ถ้าท้องแล้วปัญหาทุกอย่างจะจบ เขาจะเป็นของฉันคนเดียว..."


แต่นั่นเป็นเรื่องโลกความจีง ผมอาจจะผิดเองที่เอามาปนในเคสนิยายนี้




เรื่องเปลือยครึ่งบน ผมสังเกตจากนิยายฝรั่งรุ่นเก่าน่ะครับ  เพราะผมมองว่าอิทธิพลของการแต่งนิยายมาตามยุค


เกาหลี จีน ที่เป็นที่นิยมในยุคนี้




แต่ที่มีมาก่อนคือยุคของนิยายฝรั่ง


เรื่องเปลือย ผมสนับสนุนให้ผู้หญิงแนวรักนวลสงวนตัว หรือแบบแนวฮิญาบ แต่นั่นไม่ใช่ความคิ[size=78%]ดที่เป็นที่นิยม ผมจึงไม่กล่าวถึง[/size]


และแนวคิดเช่นนั้น ขัดกับสิทธิเสรีภาพการแสดงออก แต่หากผมคิดว่าศีลธรรมของผมเหนือกว่าเสรีภาพของคนอื่น ผมคงกลายเป็นคนยิ่งกว่าฮิตเลอร์น่ะครับ


ไม่พอใจ แต่คิดว่าตนเองไม่มีสิทธิที่จะตำหนิการแสดงออกคนอื่น
...



ผมชอบพระรองแนวเกาหลีนะ แต่แห้วทุกตัว ฮา




อืมเรื่องการที่แย่งกัน ผมมองว่าการประเมินค่าคน ก็ไม่ต่างจากลิงหรอก




หรือให้ตัวอย่างแบบสุภาพหน่อยคือตลาดหุ้น เราไม่รู้ว่าทำไมมันมีค่า แต่เราก็ซื้อตามคนอื่น




ยิ่งเห็นมีคนอื่นแย่งเยอะขึ้น จะทุ่มความพยายามเยอะก็ไม่ใช่เรื่องแปลก


ผมมองว่านี่เป็นเคสที่เรียกว่าอาจจะสมจริงมากที่สุดในแนวฮาเร็มแล้ว ว่าความหึงหวงต้องการเอาชนะทำให้คนขาดเหตุผล


แน่นอนว่ามีผู้หญิงที่คิดว่า "ไม่ยุ่งด้วยหรอก"อยู่แน่นอน แต่หากผู้หญิงที่เป็นผู้หญิงแถวหน้าอย่างที่ว่า ไปเจอสิ่งที่เธอไม่มีทางได้มา ก็จะทุ่มความพยายามมากขึ้น


ตามแนวคิดของแมงเม่าตลาดหุ้นน่ะครับ


หรือแบบไม่สุภาพที่พูดกันคือตบตีแบบชะนีแย่งหาผัวนั่นล่ะ


หรืดแบบความคิดเห็นของผมคือ...อืม มันไม่เกี่ยวกับผู้ขายแล้วถ้าเกิดการแย่งกัน มันคือความต้องการเอาชนะระหว่างผู้หฯงด้วยกันนี่ล่ะ




อีเย็นที่จะให้คุณหลวงมารัก ปัญหาไม่ได้อยู่ที่คุณหลวง แต่ต้องผ่านอุปสรรคเช่น คุณหญิงและทาสสาวคนอื่นๆต่างหาก




ผู้ชายเหมือนจะสำคัญแต่ความจริงเป็นเพียงแค่ตัวประกอบในโลกของผู้หญิงน่ะครับ




...












อืม ที่เลือกคนเดียวนี่เพราะมาตรฐานศีลธรรมในโลกความจริงครับ




ในโชวเน็นจัมป์ หรือจะเขียนโลกที่ใกล้เคียงกับความจริง แต่งงานหลายคนมีปัญหามาก


ไม่ใช่อะไร แม้ผมจะทะเลาะกับแฟมินิสม์และแนวคิดใกล้เคียงกับคนหัวโบราณ


แต่ผมอยากเห็นตัวละครผู้หญิงเก่งนะครับ  ที่ผมว่าขัดกันเองก็อย่างแนวลูกสาวดยุกน่ะครับ เจอตัวบอสเลยต้องอาศัยเจ้าชายมาช่วย


มันเหมือน บากิต้องการเป็นคนที่แข็งแกร่งที่สุดในโลก แต่เอาชนะศัตรูไม่ได้ พ่อเลยมาช่วยตบศัตรูให้

..มันรู้สึดขัดๆในทีมของเรื่องน่ะครับ

อีกอย่างคือ ผมมองว่ามันไม่ขัดอะไร แค่เราต้องหาเหตุผลมาอธิบายว่า ที่ดูเหมือนว่าขัดแย้งกันนั้น  ความจีงมันตอบสนองความต้องการอะไรบ้าง


เช่น เหมือนจะขัดแย้งกันทั้งที่เป็รผู้หญิงเก่ง แต่ก็มเจ้าชายปกป้อง


คือมีความต้องการสองอย่าง  การต้องการมีอำนาจด้วยตนเอง กับ การต้องการให้มีคนอื่นปกป้อง

เหมือนจะขัดกันแต่ความรู้สึกนั้น ไม่ใช่มีอยู่ตามเหตุผล ความรู้สึกสองอย่างสามารถมีคู่กันได้


แค่ความรู้สึก ต้องการเติมเต็มความต้องการ มันแปลงความรู้สึกลงในโลกความจริง จึงดูขัดกัน


เพราะตรรกะของโลกความจริงนั้นมันไม่ฟังใคร เพราะหากเรามีอำนาจควบคุมตนเองได้


เหตุการณ์ที่ให้คนปกป้องก็ไม่จำเป็น...แต่ถ้าอย่างนั้นความรู้สึกอีกประการก็ไม่ได้รับการตอบสนอง จึงต้องสร้างเหตุการณ์ที่มีเจ้าชายมาปกป้อง


ผมพยายามีดหาเหตุผลของความรู้สึกน่ะครับ ว่ามันมีตรรกะอย่างไรในเรื่องอารมณ์ของเรา

มันดูเหมือนขัดกันถ้ามองจากโลกความจริงอย่างเดียว เป็นสมการว่า"ทำไมต้องเก่งและให้คนปกป้องเวชาเดียวกัน"

เราตั้งสมการผิด ความจริงต้องตั้งสมการจากโลกภายในอารมณ์ว่า"ทำอย่างไรจึงตอบสนองอารมณ์สองอย่างได้ในเวลาเดียวกัน?"

« แก้ไขครั้งสุดท้าย: พฤษภาคม 28, 2019, 01:30:53 AM โดย samuison »
http://goshujin.tk/index.php?topic=944.0
นิยาย crossover Harry Potter/Type Moon ดูว่าคนที่มีเวทมนตร์อย่างแฮร์รี่ จะเอาตัวรอดอย่างไร ในโลกที่โหดร้ายของ ไทป์มูน
 

 

Tags:
แหล่งนิยายแปล แหล่งนิยาย นิยายแปล นิยายแต่ง มังงะ การ์ตูน อนิเมะ นายท่าน เว็บไซต์นายท่าน กระทู้สไลม์ สไลม์ยอดรัก