แหล่งนิยายแปล แหล่งนิยาย นิยายแปล นิยายแต่ง มังงะ การ์ตูน อนิเมะ นายท่าน เว็บไซต์นายท่าน กระทู้สไลม์ สไลม์ยอดรัก

ผู้เขียน หัวข้อ: Top 10 ทักษะที่คนทำงานยุคใหม่ 2020+ ควรมี  (อ่าน 3580 ครั้ง)

ออฟไลน์ isdogtr001

  • แม่ทัพหมีหนุ่ม
  • *
  • กระทู้: 2,036
  • ถูกใจแล้ว: 1156 ครั้ง
  • ความนิยม: +82/-143
Re: Top 10 ทักษะที่คนทำงานยุคใหม่ 2020+ ควรมี
« ตอบกลับ #20 เมื่อ: มิถุนายน 04, 2021, 03:44:59 PM »
[quote/]


@isdogtr001
ดูเหมือนคุณจะเข้าใจการให้เกียรติคนอื่นผิดนะครับ การให้เกียรติคนอื่นคือการเคารพคนอื่นในฐานะที่เป็นมนุษย์เหมือนกัน


การถกเถียง การโต้ตอบไม่ใช่การลดทอนเกียรติของผู้อื่นครับ หากแต่การไม่ให้เกียรติผู้อื่นคือการด้อยค่าความเป็นมนุษย์ของผู้อื่น เช่น


ขโมยของส่วนตัวของเขา การยักยอกทรัพย์ การต้มตุ๋นทรัพย์ การละเมิดความเป็นส่วนตัว การละเมิดข้อตกลงที่ทำสัญญาไว้ การฆ่าคน การขมขื่น อันนี้คือการไม่ให้เกียรติในแง่การกระทำ


ส่วนการไม่ให้เกียรติทางวาจา คือ การพูดดูหมิ่นเหยียดหยามความเป็นมนุษย์ เช่น การยกว่าเชื้อชาติใดเชื้อชาติหนึ่งสูงกว่า การเหยียดเชื้อชาติพันธุ์ใดๆ แบบเดียวกับฮิตเลอร์ทำกับยิว


และอีกอย่างคำว่า ชาติ มันมาจากคำว่า ชาติพันธุ์ ซึ่งแปลว่ากลุ่มคนที่รวมกันเพราะมีค่านิยม ความเชื่อและวัฒนธรรม ภาษาแบบเดียวกัน


หลายคนเข้าใจความหมายของคำว่า ชาติ ประเทศ และรัฐ แม้เหมือนจะคล้ายกันแต่มีความหมายแตกต่างกันมาก


ชาติ = ชาติพันธุ์


ประเทศ = ขอบเขตอาณาเขตของดินแดน


รัฐ = การประกอบไปด้วย 4 อย่าง คือ 1.ประชากร 2.อาณาเขตดินแดน 3.รัฐบาล และ 4.อำนาจอธิปไตย


http://www.satit.up.ac.th/BBC07/AroundTheWorld/pol/42.htm
ลองอ่านดูครับ คุณ @isdogtr001  จะได้เข้าใจและใช้คำได้ถูกความหมายตามวิชาหน้าที่พลเมือง และรัฐศาสตร์


ผมไม่เคยเหยียดหยามชาติพันธุ์ไหนในโลกเลยนะ ดังนั้นการที่คุณกล่าวว่าผมเหยียดชาติตัวเอง อันนี้คุณ @isdogtr001 อาจจะเข้าใจความหมายผิดไป


ตอนผมประชุมกับ Consultant(ที่ปรึกษาและตัวแทนเจ้าของงาน) ชาวญี่ปุ่น ที่เขาเหยียดชนชาติทั้งไทยและฟิลิปปินส์ หลายครั้งผม Fight ประเด็นเรื่องนี้บ่อยมากนะ


ผมมักจะพูดเสมอว่า คนเราไม่ว่าจะเป็นชาติพันธุ์ไหนมันก็ไม่ต่างหรอก เพราะมันมีโครโมโซม 23 คู่เหมือนกัน ถ้ามันไม่ดีเราก็แค่เปลี่ยนวิธีการใหม่ก็จบ


แม้แต่อีกฝ่ายเป็นวิศวกรญี่ปุ่น่มาจากประเทศพัฒนาแล้ว ก็ไม่ใช่ว่าเขาจะไม่เคยทำงานผิดพลาด หรือ มันมีส่วนที่เขาไม่เคยทำมันก็มี แต่ผมไม่เคยว่าเขานะครับ


ก็แค่ให้จัดอบรมหรือให้คนที่เขาทำผิดพลาดหรือไม่เป็นอ่านคู่มือ Manual ทำ Check list  หรือรับการถ่ายทอดจากผู้มีประสบการณ์เชี่ยวชาญด้านนี้โดยตรงก็จบ


คุณ @isdogtr001 อาจจะคิดว่าการให้เกียรติคนอื่น คือ การแสร้งยอมแพ้ให้อีกฝ่าย ให้อีกฝ่ายดีใจเพราะคิดว่าตนเองเถียงชนะเหรอครับ?


มันไม่ถูกต้องนะครับ อย่างที่ผมบอกว่าการถกเถียงคือสิ่งที่ดี และทำให้มนุษย์เป็นมนุษย์สมบูรณ์ยิ่งขึ้นกว่าเดิมครับ เพราะมันจะช่วยกลั่นกรองความคิดให้แหลมคมขึ้น สมบูรณ์ขึ้น


และจริงๆผมเป็นคนให้เกียรติคนอื่นมากนะครับ +1 ปรมมือของคุณ @Handsome เป็นผมกดให้เขาเองนะครับ เพราะ เขาคือคนที่กล้าจะลุกขึ้นมาโต้แย้งถกเถียงผม


ด้วยจุดยืนของเขา ซึ่งมันน่าสนใจมากนะ แต่ผมน่ะยึดหลักการของโสเครติสและวิถีของ Socratic Method


เมื่อเขาให้เกียรติในการลุกขึ้นมาโต้แย้งถกเถียงผม ผมก็จะโต้แย้งเขาเพื่อเป็นการให้เกียรติเขาเช่นกันครับ เพื่อที่ทั้งสองฝ่ายจะได้เริ่มกระบวนการการขัดเกลาองค์ความรู้


ผมกำลังรอคุณ handsome ไปเอาข้อมูลของเขาที่รองรับสมมุติฐานของเขา เอามาชี้แจงเสียด้วยซ้ำว่า ทำไมเอคิว+อีคิว ถึงดีกว่า


แต่คุณ @isdogtr001 ดันมาขัดกระบวนการขัดเกลาความรู้ของผมผ่านการถกเถียงด้วย Socratic Method น่าเสียดายจริงๆ


โธ่พูดซะยาวเป็นน้ำเต็มทุ่งอีกละ


เเต่สุดท้ายก็ลบข้อกล่าวอ้างที่คุณด่าคนเเก่ไม่ได้หรอกครับ คุณคนรุ่นใหม่ ด่า คนเเก่ๆขี้โวยวาย เหยียดชาติ เเล้วตัวเองดีๆทำตัวมืออาชีพ


หัดกลับไปอ่านที่ตัวเองเขียนบ้าง อคติเต็มสูบเเบบเต็มเเบบคุณอย่าบอกว่าถกเถียงเลยของคุณอะเขาเรียกยัดเยียดไม่ฟังชาวบ้านครับ


เเล้วเรื่องเหยียดประเทศถามจริงเถอะ ตั้งเเต่เถียงกันมา หลายหน้านี้คุณเคยพูด ด้าน "ดี" ของชาติ ให้ผมเห็นหรือยัง เเค่เงินถุงเเกงก็ทำตัวร้อนเตลิดอ้างนู่นอ้านนี้


เเล้วให้เกรียติอย่างน้อยผมก็ไม่ได้ชี้หน้าด่าผู้อาวุโสของประเทศว่าเขาไร้น้ำยา อะไรที่คุณชอบพิมพ์มาอะนั้นละมันคือการหมิ้นรุ่นพ่อเเม่ของคุณละครับ


อย่างที่บอกผมว่าหากคุณเเก่คุณก็คงไม่ฟังที่เด็กรุ่นใหม่ๆพูดเมื่อความคิดของคุณเป็นของ "เก่า" หรอกครับ เพราะคุณเลือกจะเชื่อเรื่องที่ตัวเองคิดว่าถูกจริงเเละพร้อมยัดคนอื่นเป็นคนเห็นต่างกับคุณเสมอ


หัดทำตัวให้เขาชอบบ้างเถอะครับ คนเก่าๆมันจะได้ฟังพวกคุณเเล้วพัฒนาชาติให้เหมือนอย่างที่คุณหวังจะเป็นทำตัวเเบบคุณผมบอกเลยอีก 10 ปีดูกันคุณก็จะอยู่ที่เดิมๆนั้นละ


อีกอย่างนะเวลาเขียนไม่ต้องวกไปวนมาเเล้วสรุปตรงๆสั่นๆก็ได้เพราะเอาจริงการพิมพ์ของคุณมันน้ำเยอะมาก
 

ออฟไลน์ Taw

  • หัวหน้าฝูงหมีใหญ่
  • *****
  • กระทู้: 1,352
  • ถูกใจแล้ว: 584 ครั้ง
  • ความนิยม: +47/-605
Re: Top 10 ทักษะที่คนทำงานยุคใหม่ 2020+ ควรมี
« ตอบกลับ #21 เมื่อ: มิถุนายน 04, 2021, 04:01:12 PM »
[quote/]


โธ่พูดซะยาวเป็นน้ำเต็มทุ่งอีกละ


เเต่สุดท้ายก็ลบข้อกล่าวอ้างที่คุณด่าคนเเก่ไม่ได้หรอกครับ คุณคนรุ่นใหม่ ด่า คนเเก่ๆขี้โวยวาย เหยียดชาติ เเล้วตัวเองดีๆทำตัวมืออาชีพ


หัดกลับไปอ่านที่ตัวเองเขียนบ้าง อคติเต็มสูบเเบบเต็มเเบบคุณอย่าบอกว่าถกเถียงเลยของคุณอะเขาเรียกยัดเยียดไม่ฟังชาวบ้านครับ


เเล้วเรื่องเหยียดประเทศถามจริงเถอะ ตั้งเเต่เถียงกันมา หลายหน้านี้คุณเคยพูด ด้าน "ดี" ของชาติ ให้ผมเห็นหรือยัง เเค่เงินถุงเเกงก็ทำตัวร้อนเตลิดอ้างนู่นอ้านนี้


เเล้วให้เกรียติอย่างน้อยผมก็ไม่ได้ชี้หน้าด่าผู้อาวุโสของประเทศว่าเขาไร้น้ำยา อะไรที่คุณชอบพิมพ์มาอะนั้นละมันคือการหมิ้นรุ่นพ่อเเม่ของคุณละครับ


อย่างที่บอกผมว่าหากคุณเเก่คุณก็คงไม่ฟังที่เด็กรุ่นใหม่ๆพูดเมื่อความคิดของคุณเป็นของ "เก่า" หรอกครับ เพราะคุณเลือกจะเชื่อเรื่องที่ตัวเองคิดว่าถูกจริงเเละพร้อมยัดคนอื่นเป็นคนเห็นต่างกับคุณเสมอ


หัดทำตัวให้เขาชอบบ้างเถอะครับ คนเก่าๆมันจะได้ฟังพวกคุณเเล้วพัฒนาชาติให้เหมือนอย่างที่คุณหวังจะเป็นทำตัวเเบบคุณผมบอกเลยอีก 10 ปีดูกันคุณก็จะอยู่ที่เดิมๆนั้นละ


อีกอย่างนะเวลาเขียนไม่ต้องวกไปวนมาเเล้วสรุปตรงๆสั่นๆก็ได้เพราะเอาจริงการพิมพ์ของคุณมันน้ำเยอะมาก

 ;D ปัญหาคือคนรุ่นใหม่ที่คนแก่ชอบก็คือแนวๆคชโยธีน่ะสิครับ โง่ ซื่อ สั่งไรก็ทำตามทุกอย่างไม่ตั้งคำถามอะไร
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: มิถุนายน 04, 2021, 04:23:00 PM โดย Taw »
 

ออฟไลน์ Black7nos

  • แม่ทัพหมีอาวุโส
  • ****
  • กระทู้: 4,207
  • ถูกใจแล้ว: 3281 ครั้ง
  • ความนิยม: +208/-279
Re: Top 10 ทักษะที่คนทำงานยุคใหม่ 2020+ ควรมี
« ตอบกลับ #22 เมื่อ: มิถุนายน 04, 2021, 08:45:58 PM »
[quote/]


โธ่พูดซะยาวเป็นน้ำเต็มทุ่งอีกละ


เเต่สุดท้ายก็ลบข้อกล่าวอ้างที่คุณด่าคนเเก่ไม่ได้หรอกครับ คุณคนรุ่นใหม่ ด่า คนเเก่ๆขี้โวยวาย เหยียดชาติ เเล้วตัวเองดีๆทำตัวมืออาชีพ


หัดกลับไปอ่านที่ตัวเองเขียนบ้าง อคติเต็มสูบเเบบเต็มเเบบคุณอย่าบอกว่าถกเถียงเลยของคุณอะเขาเรียกยัดเยียดไม่ฟังชาวบ้านครับ


เเล้วเรื่องเหยียดประเทศถามจริงเถอะ ตั้งเเต่เถียงกันมา หลายหน้านี้คุณเคยพูด ด้าน "ดี" ของชาติ ให้ผมเห็นหรือยัง เเค่เงินถุงเเกงก็ทำตัวร้อนเตลิดอ้างนู่นอ้านนี้


เเล้วให้เกรียติอย่างน้อยผมก็ไม่ได้ชี้หน้าด่าผู้อาวุโสของประเทศว่าเขาไร้น้ำยา อะไรที่คุณชอบพิมพ์มาอะนั้นละมันคือการหมิ้นรุ่นพ่อเเม่ของคุณละครับ


อย่างที่บอกผมว่าหากคุณเเก่คุณก็คงไม่ฟังที่เด็กรุ่นใหม่ๆพูดเมื่อความคิดของคุณเป็นของ "เก่า" หรอกครับ เพราะคุณเลือกจะเชื่อเรื่องที่ตัวเองคิดว่าถูกจริงเเละพร้อมยัดคนอื่นเป็นคนเห็นต่างกับคุณเสมอ


หัดทำตัวให้เขาชอบบ้างเถอะครับ คนเก่าๆมันจะได้ฟังพวกคุณเเล้วพัฒนาชาติให้เหมือนอย่างที่คุณหวังจะเป็นทำตัวเเบบคุณผมบอกเลยอีก 10 ปีดูกันคุณก็จะอยู่ที่เดิมๆนั้นละ


อีกอย่างนะเวลาเขียนไม่ต้องวกไปวนมาเเล้วสรุปตรงๆสั่นๆก็ได้เพราะเอาจริงการพิมพ์ของคุณมันน้ำเยอะมาก


เคยครับ คุณ @isdogtr001 จำไม่ได้หรือแสร้งทำเป็นลืมครับ ว่าผมให้เครดิตพระเจ้าเอกทัศน์แค่ไหนครับ ที่สามารถป้องกันเมืองกรุงศรีฯได้นานถึง 14 เดือน


ทั้งที่ตอนนั้นมันคือช่วงที่พม่าของพระเจ้ามังระพีคที่สุด โดยเฉพาะด้านการทหาร เหนือกว่าบุเรงนองอีกนะ


เพราะรบชนะจีนถึง 3 ครั้ง แม่ทัพจีนฆ่าตัวตายเพราะอับอาย 3 คน ในช่วงที่ราชวงศ์ชิงพีคถึงขีดสุดด้านเศรษฐกิจและกำลังทหารในรัชสมัยของพระเจ้าเฉียนหลง


พระเจ้ามังระมีแม่ทัพเก่งๆมากมาย เช่น เนเมียวสีหบดี อะแซหวุ่นกี้ เป็นต้น คือยิ่งกว่าสมัยบุเรงนองมากนะ บุเรงนองเนี่ยเทียบกับพระเจ้ามังระไม่ติดเลยนะ


สมัยเสียกรุงครั้งแรก แค่ 1 เดือน อยุธยาก็เสียกรุงแล้ว ขณะที่พระเจ้าเอกทัศน์สามารถต้านทานได้ถึง 14 เดือน จนทหารพม่าออกปากชมว่า


"อยุธยา(โยเดีย)ตียาก เหมือนเมืองคนบิน" (เมืองคนบินคือเมืองที่ไม่มีวันแตก ตามนิทานและความเชื่อของคนพม่า)


นอกจากด้านการทหารแล้ว ถ้าการปกครองของพระเจ้าเอกทัศน์ไม่ได้เรื่องจริง ประชาชนกบฎเปิดเมืองให้พม่าเข้ามานานแล้วครับ แต่เขาปกครองได้ดีในระดับนึงทีเดียว


ประชาชนถึงให้ความไว้วางใจ อยู่ในเมืองถึง 14 เดือน แต่มันก็ไม่ไหวจนกรุงแตกในที่สุด


พอกรุงแตก ทำนาทำไร่ก็ไม่ได้ทำกัน 14 เดือนที่อยู่แต่ในเมือง เสบียงก็หมด เงินก็ไม่มี เพื่อเอาตัวรอดคุณจะทำอย่างไรครับ


สมมุติว่าคุณ @isdogtr001 อยู่ในยุคนั้น กรุงแตก นาไร่ก็ไม่ได้ทำเพราะโดนล้อม ไม่มีอะไรจะกิน จะทำนาอีกทีสมัยก่อนทำได้แค่นาปี นู่น 6 เดือนกว่าจะได้ข้าวกิน คุณจะทำอย่างไรครับ


มันก็ไม่มีทางเลือกของคนอยุธยาที่กรุงแตก นอกจากทางที่ง่ายที่สุดก็คือขุุดสมบัติ เอาสมบัติไปขายเพื่อแลกข้าวมากินไงครับ ดีกว่าไปทำนา 6 เดือน กว่าจะได้กินข้าว หิวตายก่อนแล้วครับ


คือการที่คนไทยขุดสุสาน ผมไม่ได้ว่านะครับ เพราะ มันคือความจำเป็นจริงๆในการดำรงชีพด้วยการเอาสมบัติเมืองเก่าไปขายแลกข้าว ผมกลับชื่นชมในการดิ้นรนเอาตัวรอดของเขาด้วย


แต่การที่ตัวเองทำเอง แต่ไปโทษว่าพม่าเผากรุง อย่างนี้ไม่ถูกต้องครับ ไม่มีความเป็นลูกผู้ชายที่ถ้าทำก็ยอมรับมันก็แค่นั้น ไม่มีอะไรน่าอายเรื่องเอาชีวิตรอดในช่วงที่ยากลำบากเป็นสิ่งสำคัญกว่า




เอาจริงๆ นะ ถ้าผมเป็นลูกหลานของคนที่ต้องขุดสมบัติเพื่อเอาสมบัติไปขายแลกเงินมาซื้อข้าวกินเอาชีวิตรอด

ผมจะขิงคนอื่นและบอกอย่างภาคภูมิใจเสียด้วยซ้ำว่า ทวดของทวดของทวด..ทำทุกวิถีทางเพื่อให้ลูกหลานตระกูลของผมได้อยู่สืบต่อไป

โดยการดิ้นรนเอาตัวรอด Survival ในโหมด Very Hard ด้วยการขุดล่าสมบัติแบบ Tomb Raider 555
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: มิถุนายน 04, 2021, 08:54:41 PM โดย Black7nos »
ผู้กล้าอาณาจักรกุหลาบ https://goshujin.tk/index.php/topic,15078.0.html
ึคุณพ่อผมถูกเอาเงินจ้างฟาดหัว ผมเลยต้องมาเป็นนักมวยไทยที่ต่างแดน https://goshujin.tk/index.php?topic=32172.msg796105#msg796105
 
เหล่าหมีที่ถูกใจสิ่งนี้: pol

ออฟไลน์ GoldDigger

  • หัวหน้าฝูงหมีเล็ก
  • ***
  • กระทู้: 272
  • ถูกใจแล้ว: 126 ครั้ง
  • ความนิยม: +6/-12
Re: Top 10 ทักษะที่คนทำงานยุคใหม่ 2020+ ควรมี
« ตอบกลับ #23 เมื่อ: มิถุนายน 05, 2021, 07:10:36 AM »
ท้ายๆหน้าที่หนึ่งกับหน้าที่สอง  กำลังพูดถึงความฉลาดในการแก้ปัญหากับการวางตัวการเข้าสังคมสินะ

 :P


ถ้าต้องการการประนีประนอม  การเจรจาโต๊ะกลม  จะต้องอัพตัวเราให้มีสถานะทัดเทียมเทียบเคียงพอที่จะ
ทำให้อีกฝ่าย  หรือไม่งั้นก็ถ้าเราสูงกว่าก็ต้องยอมโน้มตัวเองลงมาให้เท่าเทียมกับอีกฝ่าย   :P


อ่านในหน้าสองแล้วทำให้นึกถึงกรณีสมัยใหม่  ที่พ่อแม่เวลาจะคุยกับลูกที่เป็นวัยรุ่น  จะพยายามโน้มตัว
ลงมาเป็นเพื่อน  สถานะเพื่อนกับลูก  เพื่อให้คุยจูนกันติด   :P  ส่วนลูกๆก็พยายามทำตัวให้เห็นว่าตนเอง
โตแล้ว  สามารถและต้องการคุยได้แล้ว   :P
 
เหล่าหมีที่ถูกใจสิ่งนี้: Black7nos, Taw

ออฟไลน์ Black7nos

  • แม่ทัพหมีอาวุโส
  • ****
  • กระทู้: 4,207
  • ถูกใจแล้ว: 3281 ครั้ง
  • ความนิยม: +208/-279
Re: Top 10 ทักษะที่คนทำงานยุคใหม่ 2020+ ควรมี
« ตอบกลับ #24 เมื่อ: มิถุนายน 05, 2021, 08:11:55 AM »
ท้ายๆหน้าที่หนึ่งกับหน้าที่สอง  กำลังพูดถึงความฉลาดในการแก้ปัญหากับการวางตัวการเข้าสังคมสินะ

 :P


ถ้าต้องการการประนีประนอม  การเจรจาโต๊ะกลม  จะต้องอัพตัวเราให้มีสถานะทัดเทียมเทียบเคียงพอที่จะ
ทำให้อีกฝ่าย  หรือไม่งั้นก็ถ้าเราสูงกว่าก็ต้องยอมโน้มตัวเองลงมาให้เท่าเทียมกับอีกฝ่าย   :P


อ่านในหน้าสองแล้วทำให้นึกถึงกรณีสมัยใหม่  ที่พ่อแม่เวลาจะคุยกับลูกที่เป็นวัยรุ่น  จะพยายามโน้มตัว
ลงมาเป็นเพื่อน  สถานะเพื่อนกับลูก  เพื่อให้คุยจูนกันติด   :P  ส่วนลูกๆก็พยายามทำตัวให้เห็นว่าตนเอง
โตแล้ว  สามารถและต้องการคุยได้แล้ว   :P


แนวคิดนี้น่าสนใจนะครับ การสนทนาที่ดีคือคู่สนทนาที่มีฐานะเท่าเทียมกัน
ผู้กล้าอาณาจักรกุหลาบ https://goshujin.tk/index.php/topic,15078.0.html
ึคุณพ่อผมถูกเอาเงินจ้างฟาดหัว ผมเลยต้องมาเป็นนักมวยไทยที่ต่างแดน https://goshujin.tk/index.php?topic=32172.msg796105#msg796105
 
เหล่าหมีที่ถูกใจสิ่งนี้: GoldDigger

ออฟไลน์ GoldDigger

  • หัวหน้าฝูงหมีเล็ก
  • ***
  • กระทู้: 272
  • ถูกใจแล้ว: 126 ครั้ง
  • ความนิยม: +6/-12
Re: Top 10 ทักษะที่คนทำงานยุคใหม่ 2020+ ควรมี
« ตอบกลับ #25 เมื่อ: มิถุนายน 05, 2021, 08:45:22 AM »
[quote/]


แนวคิดนี้น่าสนใจนะครับ การสนทนาที่ดีคือคู่สนทนาที่มีฐานะเท่าเทียมกัน

มันไม่ใช่เรื่องใหม่  มันคือเรื่องพื้นฐานสุดๆ  ท่านมุ่งกระชาก  พยายามฉุดดึง ชนชั้นข้างบนให้เข้ามาคุยรับฟัง
ส่วนคนข้างบน  เขาย่อมมีพื้นฐาน  ที่ไม่รู้ไม่เข้าใจระดับล่างในความต้องการของพวกท่าน  แต่เขา(บางคนที่
หัวสมัยใหม่)ก็พยายามโน้มลงมายิ้มอยากรู้  ทำสถานะตนให้โน้มลงมาเพื่อจะได้รับฟังกันได้  มันย่อมธรรมดา 
^^


พวกท่านต้องหาใครสักคนที่ยอมโน้มมาเพื่อดีลกับพวกท่าน  ปล.ตอนนี้พวกท่านเล่นให้ทุกอย่างกลายเป็นดำ
ไปหมดทุกอย่างเลย กลับเหรียญทุกหน้าให้ไม่เหลือความดีที่อีกฝ่ายมีทำมาหมดไปเลย คนที่จะโน้มเอียงเขา
ก็คงกระอ่วมใจ
 

ออฟไลน์ Black7nos

  • แม่ทัพหมีอาวุโส
  • ****
  • กระทู้: 4,207
  • ถูกใจแล้ว: 3281 ครั้ง
  • ความนิยม: +208/-279
Re: Top 10 ทักษะที่คนทำงานยุคใหม่ 2020+ ควรมี
« ตอบกลับ #26 เมื่อ: มิถุนายน 05, 2021, 09:33:23 AM »
[quote/]

มันไม่ใช่เรื่องใหม่  มันคือเรื่องพื้นฐานสุดๆ  ท่านมุ่งกระชาก  พยายามฉุดดึง ชนชั้นข้างบนให้เข้ามาคุยรับฟัง
ส่วนคนข้างบน  เขาย่อมมีพื้นฐาน  ที่ไม่รู้ไม่เข้าใจระดับล่างในความต้องการของพวกท่าน  แต่เขา(บางคนที่
หัวสมัยใหม่)ก็พยายามโน้มลงมายิ้มอยากรู้  ทำสถานะตนให้โน้มลงมาเพื่อจะได้รับฟังกันได้  มันย่อมธรรมดา 
^^


พวกท่านต้องหาใครสักคนที่ยอมโน้มมาเพื่อดีลกับพวกท่าน  ปล.ตอนนี้พวกท่านเล่นให้ทุกอย่างกลายเป็นดำ
ไปหมดทุกอย่างเลย กลับเหรียญทุกหน้าให้ไม่เหลือความดีที่อีกฝ่ายมีทำมาหมดไปเลย คนที่จะโน้มเอียงเขา
ก็คงกระอ่วมใจ


จะว่ายังไงดีละครับ เอาจริงๆฝ่ายเราต่างหากที่อยากคุยกันแบบมนุษย์ปุถุชนคนทั่วไป แต่อีกฝ่ายเขาไม่คิดว่าตนเองเป็นปุถุชนน่ะสิครับ จะให้ผมทำอย่างไร


สุดท้ายเขาก็ไม่เอาแบบไหนซักอย่าง จุดจบ Mr.Tony กับ อ.ปรีดี ผู้มี Positive Thinking กับ Compromise จริงจังจะเอาทั้งเขาจะเอาทั้งรากหญ้าจุดจบเป็นก็รู้กันอยู่


ยิ่งยุคใหม่สากลโลกเขาให้คุณค่าของ Critical Thinking มากขึ้น ในขณะที่ Positive Thinking ตอนนี้ตกเทรนด์เพราะมันใช้ในทางปฏิบัติยากกว่า


อันที่จริงเทรนด์คิดแบบ Positive Thinking มันเริ่มตายไปตอน สตีฟ จอบ เสียชีวิตครับ เพราะ มุมมองบวกมันไม่สามารถป้องกันปัญหาที่จะเกิดขึ้นได้ในทางปฏิบัติ


เนื่องจากหลายครั้งคนเราใช้มันแบบผิดๆกลายเป็นข้ออ้างให้เราหนีออกจากโลกแห่งความเป็นจริงครับ แต่สุดท้ายปัญหามันก็ยังคงอยู่ที่เดิม ไม่ได้หายไปไหน


Positive Thinking ไม่ใช่ว่ามันไม่ดีนะครับ เพียงแต่คนหลายคนใช้ไม่ถูกหลักการเสียมากกว่า มันไม่ได้ใช้ได้กับทุกเรื่องและใช้ได้กับทุกเวลา ตราบที่มนุษย์ยังมีกิเลศที่ไม่อาจตัดได้


การจะใช้ Positive Thinking ที่ดี จำเป็นจะใช้หลังจากที่เราเตรียมพร้อมความเสี่ยงของสิ่งต่างๆ ที่เราควบคุมได้ให้ครบถ้วนสมบูรณ์หมดเสียก่อนครับ


มันไม่ใช่ทุกอย่างที่คุณจะด้นสดหน้างานและหวังว่ามันจะออกมาดีได้ ทุกอย่างจำเป็นต้องวางแผนระยะยาวโดยมองถึงความเสี่ยงจุดต่างๆที่เกิดขึ้นได้


Critical Thinking ควรจะใช้ก่อนที่เราจะใช้ Positive Thinking ครับ เหมือนที่เขาพูดกันว่า "จงเตรียมพร้อมงานในแง่ร้าย แต่จงดำเนินงานในแง่บวก"


ยกตัวอย่าง Case Study ที่ผ่านมาไม่นาน คือ เรื่องเหล็กขึ้นราคา


ในช่วงก่อนโครงการก่อสร้างจะเริ่มขึ้น ก็จะเป็นช่วงการเตรียม Method ก่อสร้าง และตั้ง Budget ในแต่ละวัสดุ มันก็มีการถกเถียงกันว่า


เราจะลดความเสี่ยงด้วยการเปิด PO(ทำสัญญาซื้อ) เหล็กเสริมเส้นระยะยาวเป็นปีเพื่อลดความเสี่ยง หรือ เราจะทยอยซื้อเหล็กแบบระยะสั้น(พนันว่าเหล็กจะราคาลงและได้กำไร)


ข้อดีข้อเสียก็แตกต่างกัน ผมเป็นคนเสนอให้เปิด PO ระยะยาวเพื่อที่จะสามารถทำสัญญาระยะยาวเพื่อควบคุมราคาวัสดุเหล็กเส้นเพื่อที่จะสามารถคุมราคาต้นทุนได้ก็ลดความเสี่ยงได้


แม้จะได้กำไรไม่มาก แต่มันช่วยลดความเสี่ยงต้นทุนวัสดุได้เป็นอย่างมาก แต่สุดท้ายเขาเลือกวิธีที่สองคือการซื้อแบบระยะสั้นเพื่อจะเสี่ยงทำกำไรกับราคาเหล็กที่คาดหวังว่าจะลง


ตอนแรกฝ่าย Cost ของผมตั้ง Budget ไว้ประมาณ 65,000 ทากา/ตัน แต่ปัจจุบันราคาเหล็กขึ้นไปสูงถึง 74,000 ทากา/ตัน เพิ่มขึ้นคิดเป็น 13%


ถึงแม้บริษัทผมจะได้ค่า k แต่มันก็เป็นค่า k เฉลี่ยทุกวัสดุ แถมได้อย่างมากก็ไม่เคยเกิน 4-5% ดังนั้นมันทดแทนไม่ได้กับที่บริษัทรับเหมาของผมต้องรับภาระต้นทุนสูงที่สูงขึ้นถึง 13%


หลายคนมาพูดบ่นทีหลังว่า รู้อย่างนี้สั่งระยะยาวไว้แต่ทีแรกก็ดี ซึ่งผมก็เคยเตือนพวกเขาไปแล้วตั้งหลายปีแล้ว แต่ตอนนั้นพวกเขาเลือกที่จะเสี่ยงเองก็ต้องยอมรับผลของการกระทำไป


อันที่จริงต่อให้เป็นกรณีที่ราคาเหล็กตกลง แม้ผมจะไม่ได้กำไรมากขึ้น แต่ผมได้ล็อกกำไรในส่วนที่ควรได้ไปก่อนแล้ว ก็ไม่เห็นจะเสียหายอะไร ตราบที่เราทราบกำไรที่แน่นอน


ส่วนอันนี้ต่างชาติเขาถกเถียงกันระหว่าง Positive Thinking vs Critical Thinking ลองแปะลิ้งค์ให้ ลองไปอ่านดูเน้อ
https://francoistremblay.wordpress.com/2015/12/02/we-need-critical-thinking-not-positive-thinking/
https://www.linkedin.com/pulse/critical-thinking-vs-positive-brent-baldwin/
https://www.nav.com/blog/critical-thinking-better-positive-thinking-business-owners-21499/
ผู้กล้าอาณาจักรกุหลาบ https://goshujin.tk/index.php/topic,15078.0.html
ึคุณพ่อผมถูกเอาเงินจ้างฟาดหัว ผมเลยต้องมาเป็นนักมวยไทยที่ต่างแดน https://goshujin.tk/index.php?topic=32172.msg796105#msg796105
 
เหล่าหมีที่ถูกใจสิ่งนี้: Taw

ออฟไลน์ Taw

  • หัวหน้าฝูงหมีใหญ่
  • *****
  • กระทู้: 1,352
  • ถูกใจแล้ว: 584 ครั้ง
  • ความนิยม: +47/-605
Re: Top 10 ทักษะที่คนทำงานยุคใหม่ 2020+ ควรมี
« ตอบกลับ #27 เมื่อ: มิถุนายน 05, 2021, 11:40:57 AM »
[quote/]


จะว่ายังไงดีละครับ เอาจริงๆฝ่ายเราต่างหากที่อยากคุยกันแบบมนุษย์ปุถุชนคนทั่วไป แต่อีกฝ่ายเขาไม่คิดว่าตนเองเป็นปุถุชนน่ะสิครับ จะให้ผมทำอย่างไร


สุดท้ายเขาก็ไม่เอาแบบไหนซักอย่าง จุดจบ Mr.Tony กับ อ.ปรีดี ผู้มี Positive Thinking กับ Compromise จริงจังจะเอาทั้งเขาจะเอาทั้งรากหญ้าจุดจบเป็นก็รู้กันอยู่


ยิ่งยุคใหม่สากลโลกเขาให้คุณค่าของ Critical Thinking มากขึ้น ในขณะที่ Positive Thinking ตอนนี้ตกเทรนด์เพราะมันใช้ในทางปฏิบัติยากกว่า


อันที่จริงเทรนด์คิดแบบ Positive Thinking มันเริ่มตายไปตอน สตีฟ จอบ เสียชีวิตครับ เพราะ มุมมองบวกมันไม่สามารถป้องกันปัญหาที่จะเกิดขึ้นได้ในทางปฏิบัติ


เนื่องจากหลายครั้งคนเราใช้มันแบบผิดๆกลายเป็นข้ออ้างให้เราหนีออกจากโลกแห่งความเป็นจริงครับ แต่สุดท้ายปัญหามันก็ยังคงอยู่ที่เดิม ไม่ได้หายไปไหน


Positive Thinking ไม่ใช่ว่ามันไม่ดีนะครับ เพียงแต่คนหลายคนใช้ไม่ถูกหลักการเสียมากกว่า มันไม่ได้ใช้ได้กับทุกเรื่องและใช้ได้กับทุกเวลา ตราบที่มนุษย์ยังมีกิเลศที่ไม่อาจตัดได้


การจะใช้ Positive Thinking ที่ดี จำเป็นจะใช้หลังจากที่เราเตรียมพร้อมความเสี่ยงของสิ่งต่างๆ ที่เราควบคุมได้ให้ครบถ้วนสมบูรณ์หมดเสียก่อนครับ


มันไม่ใช่ทุกอย่างที่คุณจะด้นสดหน้างานและหวังว่ามันจะออกมาดีได้ ทุกอย่างจำเป็นต้องวางแผนระยะยาวโดยมองถึงความเสี่ยงจุดต่างๆที่เกิดขึ้นได้


Critical Thinking ควรจะใช้ก่อนที่เราจะใช้ Positive Thinking ครับ เหมือนที่เขาพูดกันว่า "จงเตรียมพร้อมงานในแง่ร้าย แต่จงดำเนินงานในแง่บวก"


ยกตัวอย่าง Case Study ที่ผ่านมาไม่นาน คือ เรื่องเหล็กขึ้นราคา


ในช่วงก่อนโครงการก่อสร้างจะเริ่มขึ้น ก็จะเป็นช่วงการเตรียม Method ก่อสร้าง และตั้ง Budget ในแต่ละวัสดุ มันก็มีการถกเถียงกันว่า


เราจะลดความเสี่ยงด้วยการเปิด PO(ทำสัญญาซื้อ) เหล็กเสริมเส้นระยะยาวเป็นปีเพื่อลดความเสี่ยง หรือ เราจะทยอยซื้อเหล็กแบบระยะสั้น(พนันว่าเหล็กจะราคาลงและได้กำไร)


ข้อดีข้อเสียก็แตกต่างกัน ผมเป็นคนเสนอให้เปิด PO ระยะยาวเพื่อที่จะสามารถทำสัญญาระยะยาวเพื่อควบคุมราคาวัสดุเหล็กเส้นเพื่อที่จะสามารถคุมราคาต้นทุนได้ก็ลดความเสี่ยงได้


แม้จะได้กำไรไม่มาก แต่มันช่วยลดความเสี่ยงต้นทุนวัสดุได้เป็นอย่างมาก แต่สุดท้ายเขาเลือกวิธีที่สองคือการซื้อแบบระยะสั้นเพื่อจะเสี่ยงทำกำไรกับราคาเหล็กที่คาดหวังว่าจะลง


ตอนแรกฝ่าย Cost ของผมตั้ง Budget ไว้ประมาณ 65,000 ทากา/ตัน แต่ปัจจุบันราคาเหล็กขึ้นไปสูงถึง 74,000 ทากา/ตัน เพิ่มขึ้นคิดเป็น 13%


ถึงแม้บริษัทผมจะได้ค่า k แต่มันก็เป็นค่า k เฉลี่ยทุกวัสดุ แถมได้อย่างมากก็ไม่เคยเกิน 4-5% ดังนั้นมันทดแทนไม่ได้กับที่บริษัทรับเหมาของผมต้องรับภาระต้นทุนสูงที่สูงขึ้นถึง 13%


หลายคนมาพูดบ่นทีหลังว่า รู้อย่างนี้สั่งระยะยาวไว้แต่ทีแรกก็ดี ซึ่งผมก็เคยเตือนพวกเขาไปแล้วตั้งหลายปีแล้ว แต่ตอนนั้นพวกเขาเลือกที่จะเสี่ยงเองก็ต้องยอมรับผลของการกระทำไป


อันที่จริงต่อให้เป็นกรณีที่ราคาเหล็กตกลง แม้ผมจะไม่ได้กำไรมากขึ้น แต่ผมได้ล็อกกำไรในส่วนที่ควรได้ไปก่อนแล้ว ก็ไม่เห็นจะเสียหายอะไร ตราบที่เราทราบกำไรที่แน่นอน


ส่วนอันนี้ต่างชาติเขาถกเถียงกันระหว่าง Positive Thinking vs Critical Thinking ลองแปะลิ้งค์ให้ ลองไปอ่านดูเน้อ
https://francoistremblay.wordpress.com/2015/12/02/we-need-critical-thinking-not-positive-thinking/
https://www.linkedin.com/pulse/critical-thinking-vs-positive-brent-baldwin/
https://www.nav.com/blog/critical-thinking-better-positive-thinking-business-owners-21499/

PT นี่จริงมาก หลายคนใช้มันผิดๆคือการหนีจากโลกจริงๆ และร้ายกว่านั้นคือการแปลความจนกลายเป็นการเห็นผิดเป็นชอบไปเลย คือพยายามจะคิดว่าอีกฝ่ายต้องมีดีบ้าง ครั้นจะเอา CT มาใช้ก็ดันกลายเป็นใช้เข้าข้างให้ตัวเองรู้สึกดี Soft Power อีกฝ่ายเข้าไปอีก

ตัวอย่างเลยก็...ถ้าพูดตรงๆผมก็กลัวว่าจะออกทะเลกลายเป็นอะไรไม่รู้ไป งั้นผมจะขอเปรียบเทียบละกัน สมมุติว่าโรงเรียนหนึ่ง มี ผอ. ที่บริหารงานแย่มาก ทั้งเรื่องการก่อสร้างหรือซ่อมแซมที่ล่าช้า ห้องเรียน ห้องน้ำ และส่วนต่างๆยังชำรุดทรุดโทรม ฝ่ายประธานนักเรียน รวมทั้งนักเรียนตัวแทนเสนอปรับปรุงไปแล้วทั้งทางจดหมาย อีเมล์ เพจโรงเรียนและการพูดหน้าเสาธงไป 10 กว่าอย่าง แต่ได้รับการตอบรับแก้ไขจริงๆแค่ 2-3 อย่างเท่านั้น ทัศนศึกษาถ้าไม่ใช่ห้อง King Queen Gifted EP ก็สั่งมาเฉพาะรถพัดลมทั้งที่เรียกเก็บค่าทัศนศึกษาเท่าๆกัน ผอ ก็อ้างไม่มีงบทั้งที่ทุกคนจ่ายค่าเทอม+มีเศรษฐีประจำเมืองร่วมแข่งกันบริจาคให้โรงเรียนนี้ตั้งหลายราย ก็อ้างว่าใช้หนี้ที่ ผอ เก่าก่อขึ้นมาจากการโกงเอารายได้จากผัก-ผลไม้ที่นักเรียนปลูกส่งขายตลาดจนเป็นหนี้ (ที่แต่งตัวเลขเองเพื่อไล่ ผอ และคณะชุดเก่า)

แต่ต่อมา ผอ นี้ก็มีการแจกเงินค่าอาหารกลางวัน+ค่าขนมให้เด็กๆผ่านบัตรหนึ่ง ที่ต้องทำแยกกับบัตรนักเรียน เงินแต่ละก้อนใช้ได้ 1 สัปดาห์ ตรงนี้เองก็ทำให้หลายๆคนเกิดความ PT กับทางฝ่ายบริหารจนมองข้ามปัญหาอื่นๆไป พอมีคนยังพูดถึงปัญหาอื่นๆหรือยังคงตำหนิ ผอ ก็จะว่าเรื่องมาก มองโลกในแง่ร้าย อย่างน้อยเขาก็แจกเงิน ผอ คนก่อนๆไม่เคยให้นโยบายดีๆแบบนี้เลยนะจ๊ะ แล้ว CT เองก็ถูกบิดเป็นการใช้คิดอย่างมีวิจารณญาณคือการมองว่า ผอ และคณะก็มีด้านดี ไม่ใช่เลวอย่างเดียวอย่างที่เขากล่าวกัน
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: มิถุนายน 05, 2021, 11:45:42 AM โดย Taw »
 

ออฟไลน์ Panzerelite

  • ยอดขุนพลหมี
  • *****
  • กระทู้: 6,337
  • ถูกใจแล้ว: 2070 ครั้ง
  • ความนิยม: +160/-1071
  • เพศ: ชาย
  • ขอเทพแมวจงสถิตอยู่กับท่าน
Re: Top 10 ทักษะที่คนทำงานยุคใหม่ 2020+ ควรมี
« ตอบกลับ #28 เมื่อ: มิถุนายน 05, 2021, 11:56:07 AM »
พวกทักษะบ้าบอคอแตกต่างๆที่ชอบเอาเขียนหนังสือกัน มันก็ทางทฤษฎีหละ แต่ปัจจัยและตัวแปลมันมีเยอะ


เช่นวัฒนธรรมองค์กรณ์งี้


คิดเชิงวิพาร์กไปทำงานราชการสิ เละแน่นอน อยู่ไม่ได้แน่ๆ ทำงานราชการต้องห้ามคิด สั่งอะไรต้องทำตามอย่างเดียว ต่อให้มันเป็นเรื่องที่ผิดหรือมีการคอรัปชั่นภายในต้องรู้จักเอาหูไปนาเอาตาไปไร่ ไม่ก็เข้าร่วมไปเลย
-----------------------
ตัวแปล แต่หละบุคคลอีก คนเก่งๆใช่ว่าจะมนุษย์สัมพันธ์ดีไปซะทุกคน เขาอาจจะเก่งในโลกของเขา แต่พอไปพบปะผูัคนเขาอาจไปไม่เป็นเลยก็ได้กลายเป็นโชว์โง่ไปแทน


กลับกันเจอมาเหมือนกันเก่งแต่ปากภาพลักษ์ดูดีมากๆ แต่ภายในองค์กรณ์เน่าเฟะ ทำงานให้แล้วเก็บมัดจำแล้วเชิดหนีก็มี


--------------------------------------------------------------------------------------------------------


ไหนจะเรื่องสภาพเศรษฐกิจต่างๆเอยสังคมเอย ต่อให้มีครบข้างบน แต่ถ้าไม่มีงานรองรับจริงๆไปทำงานแบบไม่ตรงสายเลย ก็เป็นแค่ไอ้ขยะคนหนึ่ง ประเทศไทยมันเป็นแบบนี้ จบมาตกงานเยอะ ตกงานก็ต้องทำงานเท่าที่มี เป็นเชลล์ขายของตามห้างบ้าง อะไรบ้าง บ้างคนมนุษย์สัมพันธ์ไม่ดีก็ต้องไปทำ




บอกตรงๆบทความแบบนี้มัน ไร้สาระมากๆ เป็นอุดมคติที่เขียนตามหนังสือสอนรวย ที่คนขายรวยเพราะขายหนังสือสอนรวย ไอ้พวกโค๊ชชีวิตพวกนี้โยนทิ้งไปบ้างแล้วกลับมามองปัญหาโครงสร้างเชิงสังคมที่ทำให้เราต้องมานั่งบ้าอะไรแบบนี้เพื่อเป็นSuper Human  แลกกับเงินเดือนแค่15000บาทมากกว่า
 
เหล่าหมีที่ถูกใจสิ่งนี้: Black7nos

ออฟไลน์ Black7nos

  • แม่ทัพหมีอาวุโส
  • ****
  • กระทู้: 4,207
  • ถูกใจแล้ว: 3281 ครั้ง
  • ความนิยม: +208/-279
Re: Top 10 ทักษะที่คนทำงานยุคใหม่ 2020+ ควรมี
« ตอบกลับ #29 เมื่อ: มิถุนายน 05, 2021, 12:44:29 PM »
[quote/]

PT นี่จริงมาก หลายคนใช้มันผิดๆคือการหนีจากโลกจริงๆ และร้ายกว่านั้นคือการแปลความจนกลายเป็นการเห็นผิดเป็นชอบไปเลย คือพยายามจะคิดว่าอีกฝ่ายต้องมีดีบ้าง ครั้นจะเอา CT มาใช้ก็ดันกลายเป็นใช้เข้าข้างให้ตัวเองรู้สึกดี Soft Power อีกฝ่ายเข้าไปอีก

ตัวอย่างเลยก็...ถ้าพูดตรงๆผมก็กลัวว่าจะออกทะเลกลายเป็นอะไรไม่รู้ไป งั้นผมจะขอเปรียบเทียบละกัน สมมุติว่าโรงเรียนหนึ่ง มี ผอ. ที่บริหารงานแย่มาก ทั้งเรื่องการก่อสร้างหรือซ่อมแซมที่ล่าช้า ห้องเรียน ห้องน้ำ และส่วนต่างๆยังชำรุดทรุดโทรม ฝ่ายประธานนักเรียน รวมทั้งนักเรียนตัวแทนเสนอปรับปรุงไปแล้วทั้งทางจดหมาย อีเมล์ เพจโรงเรียนและการพูดหน้าเสาธงไป 10 กว่าอย่าง แต่ได้รับการตอบรับแก้ไขจริงๆแค่ 2-3 อย่างเท่านั้น ทัศนศึกษาถ้าไม่ใช่ห้อง King Queen Gifted EP ก็สั่งมาเฉพาะรถพัดลมทั้งที่เรียกเก็บค่าทัศนศึกษาเท่าๆกัน ผอ ก็อ้างไม่มีงบทั้งที่ทุกคนจ่ายค่าเทอม+มีเศรษฐีประจำเมืองร่วมแข่งกันบริจาคให้โรงเรียนนี้ตั้งหลายราย ก็อ้างว่าใช้หนี้ที่ ผอ เก่าก่อขึ้นมาจากการโกงเอารายได้จากผัก-ผลไม้ที่นักเรียนปลูกส่งขายตลาดจนเป็นหนี้ (ที่แต่งตัวเลขเองเพื่อไล่ ผอ และคณะชุดเก่า)

แต่ต่อมา ผอ นี้ก็มีการแจกเงินค่าอาหารกลางวัน+ค่าขนมให้เด็กๆผ่านบัตรหนึ่ง ที่ต้องทำแยกกับบัตรนักเรียน เงินแต่ละก้อนใช้ได้ 1 สัปดาห์ ตรงนี้เองก็ทำให้หลายๆคนเกิดความ PT กับทางฝ่ายบริหารจนมองข้ามปัญหาอื่นๆไป พอมีคนยังพูดถึงปัญหาอื่นๆหรือยังคงตำหนิ ผอ ก็จะว่าเรื่องมาก มองโลกในแง่ร้าย อย่างน้อยเขาก็แจกเงิน ผอ คนก่อนๆไม่เคยให้นโยบายดีๆแบบนี้เลยนะจ๊ะ แล้ว CT เองก็ถูกบิดเป็นการใช้คิดอย่างมีวิจารณญาณคือการมองว่า ผอ และคณะก็มีด้านดี ไม่ใช่เลวอย่างเดียวอย่างที่เขากล่าวกัน


สิ่งที่จำเป็นที่สุดในการใช้ Critical Thinking มันไม่ใช่การปฏิเสธนะครับ หลายคนอาจจะเข้าใจผิด แต่มันคือการใช้สิ่งที่เรียกว่า บรรทัดฐานเดียวกัน โดยไม่มีข้อยกเว้นครับ


ยกตัวอย่างเช่น


พจน์ 1 : การฆ่าคนต้องรับโทษติดคุกตลอดชีวิต
พจน์ 2 : นาย A ฆ่าคน
พจน์ 3 : นาย A ติดคุกตลอดชีวิต(True)
พจน์ 4 : นาย B ฆ่าคน


ดังนั้นคำตอบของ พจน์ 5 : นาย B ติดคุกตลอดชีวิตเช่นเดียวกับนาย A (True)


นี่คือหลักการของ Critical Thinking ครับ มันคือการเปรียบเทียบโดยตั้งบรรทัดฐานเดียวกันครับ


แต่ถ้าเกิดพจน์ที่ 5 นาย B ไม่ติดคุก อันนี้ผลของพจน์ 5 จะต้องเป็นเท็จ(False) เพราะมันขัดกับบรรทัดฐานเงื่อนไขของพจน์ที่ 1


หรือพูดง่ายๆ บริษัทในยุคใหม่เขาต้องการคนที่มีความคิดที่มีบรรทัดฐาน ไม่ใช่คนประเภทที่กลับกลอกย้อนแย้งคำพูดของตัวเองครับ

เพราะเมื่อคุณทำสัญญาตกลงกับธุรกิจใดๆ สิ่งที่จำเป็นคือเครดิตความน่าเชื่อถือ การกลับกลอกคำพูดไม่ทำตามที่พูดถือเป็นเรื่องร้ายแรงมากในด้านธุรกิจ

อีกหน่อยเขาก็จะไม่เชื่อใจมาเป็นคู่ค้าสัญญากับธุรกิจคุณอีก

ยกตัวอย่างให้เห็นภาพกันอีกนิด ผมขอยกเคสของคดีลุงพลนะครับ

มาตรา 108/1 การสั่งไม่ให้ปล่อยตัวชั่วคราวจะกระทำได้ก็ต่อเมื่อมีเหตุอันควรเชื่อเหตุใดเหตุหนึ่งดังต่อไปนี้
1.ผู้ต้องหาหรือจำเลยจะหลบหนี
2.ผู้ต้องหาหรือจำเลยจะไปยุ่งเหยิงกับพยานหลักฐาน
3.ผู้ต้องหาหรือจำเลยจะไปก่อเหตุอันตรายประการอื่น
4.ผู้ร้องขอประกันหรือหลักประกันไม่น่าเชื่อถือ
5.การปล่อยตัวชั่วคราวจะเป็นอุปสรรคหรือก่อให้เกิดความเสียหายต่อการสอบสวนของเจ้าพนักงาน หรือ การดำเนินคดีในศาล

ผมถือว่า 5 เงื่อนไขนี้ คือ พจนที่ 1 นะครับ

แต่มาดูสิ่งที่ลุงพลกระทำกันครับ ลุงพลจงใจยุ่งกับพยานหลักฐาน ทำให้หลักฐานมีการเปลี่ยนแแปลง ลุงพลสร้างพยานโดยการทักชาวบ้านเพื่อสร้างพยานที่อยู่ ทั้งที่ไม่ใช่พฤติกรรมปกติที่กระทำทุกครั้ง และเป็นอุปสรรคก่อการทำให้เกิดความเสียหายต่อการสอบสวน ทำให้การหาหลักฐานเจ้าหน้าที่ช้าลงกินเวลาไปเป็นปี ซึ่งถือเป็นพจน์ที่ 2


ด้วยเหตุผลข้างต้น ลุงพลไม่ควรได้รับการประกันตัวนะครับ เพราะคุณสร้างความยุ่งเหยิงต่อพยานหลักฐาน ทั้งวัตถุและบุคคล แถมยังสร้างอุปสรรคการสืบสวนของเจ้าหน้าที่อีก

แต่ผลคือลุงพลได้รับการประกันตัว ซึ่งจุดนี้แหละที่ทำให้ผมแปลกใจมาก ว่าบรรทัดฐานอยู่ที่ไหนครับ ทั้งที่ระบบความยุติธรรมศาล ก่อกำเนิดมาจากแนวคิดของโสเครติสนะครับกลายเป็นศาลของตะวันตก และไทยก็รับกระบวนการพิจารณาคดีมาจากตะวันตกไม่ใช่เหรอครับ
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: มิถุนายน 05, 2021, 12:57:13 PM โดย Black7nos »
ผู้กล้าอาณาจักรกุหลาบ https://goshujin.tk/index.php/topic,15078.0.html
ึคุณพ่อผมถูกเอาเงินจ้างฟาดหัว ผมเลยต้องมาเป็นนักมวยไทยที่ต่างแดน https://goshujin.tk/index.php?topic=32172.msg796105#msg796105
 
เหล่าหมีที่ถูกใจสิ่งนี้: Taw

ออฟไลน์ Taw

  • หัวหน้าฝูงหมีใหญ่
  • *****
  • กระทู้: 1,352
  • ถูกใจแล้ว: 584 ครั้ง
  • ความนิยม: +47/-605
Re: Top 10 ทักษะที่คนทำงานยุคใหม่ 2020+ ควรมี
« ตอบกลับ #30 เมื่อ: มิถุนายน 05, 2021, 12:56:24 PM »
[quote/]


สิ่งที่จำเป็นที่สุดในการใช้ Critical Thinking มันไม่ใช่การปฏิเสธนะครับ หลายคนอาจจะเข้าใจผิด แต่มันคือการใช้สิ่งที่เรียกว่า บรรทัดฐานเดียวกัน โดยไม่มีข้อยกเว้นครับ


ยกตัวอย่างเช่น


พจน์ 1 : การฆ่าคนต้องรับโทษติดคุกตลอดชีวิต
พจน์ 2 : นาย A ฆ่าคน
พจน์ 3 : นาย A ติดคุกตลอดชีวิต(True)
พจน์ 4 : นาย B ฆ่าคน


ดังนั้นคำตอบของ พจน์ 5 : นาย B ติดคุกตลอดชีวิตเช่นเดียวกับนาย A (True)


นี่คือหลักการของ Critical Thinking ครับ มันคือการเปรียบเทียบโดยตั้งบรรทัดฐานเดียวกันครับ


แต่ถ้าเกิดพจน์ที่ 5 นาย B ไม่ติดคุก อันนี้ผลของพจน์ 5 จะต้องเป็นเท็จ(False) เพราะมันขัดกับบรรทัดฐานเงื่อนไขของพจน์ที่ 1


หรือพูดง่ายๆ บริษัทในยุคใหม่เขาต้องการคนที่มีความคิดที่มีบรรทัดฐาน ไม่ใช่คนประเภทที่กลับกลอกย้อนแย้งคำพูดของตัวเองครับ

เพราะเมื่อคุณทำสัญญาตกลงกับธุรกิจใดๆ สิ่งที่จำเป็นคือเครดิตความน่าเชื่อถือ การกลับกลอกคำพูดไม่ทำตามที่พูดถือเป็นเรื่องร้ายแรงมากในด้านธุรกิจ

อีกหน่อยเขาก็จะไม่เชื่อใจมาเป็นคู่ค้าสัญญากับธุรกิจคุณอีก

ยกตัวอย่างให้เห็นภาพกันอีกนิด ผมขอยกเคสของคดีลุงพลนะครับ

มาตรา 108/1 การสั่งไม่ให้ปล่อยตัวชั่วคราวจะกระทำได้ก็ต่อเมื่อมีเหตุอันควรเชื่อเหตุใดเหตุหนึ่งดังต่อไปนี้
1.ผู้ต้องหาหรือจำเลยจะหลบหนี
2.ผู้ต้องหาหรือจำเลยจะไปยุ่งเหยิงกับพยานหลักฐาน
3.ผู้ต้องหาหรือจำเลยจะไปก่อเหตุอันตรายประการอื่น
4.ผู้ร้องขอประกันหรือหลักประกันไม่น่าเชื่อถือ
5.การปล่อยตัวชั่วคราวจะเป็นอุปสรรคหรือก่อให้เกิดความเสียหายต่อการสอบสวนของเจ้าพนักงาน หรือ การดำเนินคดีในศาล

ผมถือว่า 5 เงื่อนไขนี้ คือ พจนที่ 1 นะครับ

แต่มาดูสิ่งที่ลุงพลกระทำกันครับ ลุงพลจงใจยุ่งกับพยานหลักฐาน ทำให้หลักฐานมีการเปลี่ยนแแปลง ลุงพลสร้างพยานโดยการทักชาวบ้านเพื่อสร้างพยานที่อยู่ ทั้งที่ไม่ใช่พฤติกรรมปกติที่กระทำทุกครั้ง และเป็นอุปสรรคก่อการทำให้เกิดความเสียหายต่อการสอบสวน ทำให้การหาหลักฐานเจ้าหน้าที่ช้าลงกินเวลาไปเป็นปี ซึ่งถือเป็นพจน์ที่ 2

[youtube/]

ด้วยเหตุผลข้างต้น ลุงพลไม่ควรได้รับการประกันตัวนะครับ เพราะคุณสร้างความยุ่งเหยิงต่อพยานหลักฐาน ทั้งวัตถุและบุคคล แถมยังสร้างอุปสรรคการสืบสวนของเจ้าหน้าที่อีก

แต่ผลคือลุงพลได้รับการประกันตัว ซึ่งจุดนี้แหละที่ทำให้ผมแปลกใจมาก ว่าบรรทัดฐานอยู่ที่ไหนครับ ทั้งที่ระบบความยุติธรรมศาล ก่อกำเนิดมาจากแนวคิดของโสเครติสนะครับกลายเป็นศาลของตะวันตก และไทยก็รับกระบวนการพิจารณาคดีมาจากตะวันตกไม่ใช่เหรอครับ

อันนี้ผมพูดถึงในกรณีพวกเอาไปใช้กันมั่วๆน่ะครับ คือเริ่มจากใช้ PT จัดๆจนกลายเป็นการบิดประเด็นร้ายๆออก กว่าจะใส่ CT เข้ามาก็สายเกินไปแล้ว สุดท้ายก็เอามาบิดเบือนตามสภาพสังคม คือกลายเป็นการวิเคราะห์ที่เข้าข้างตัวเอง วิจารณญาณที่เป็นเครื่องมือปกป้องความรู้สึกตัวเองน่ะครับ เหมือนกับคำว่าเป็นกลาง ที่ใช้หลอกตัวเองว่าไม่ได้เข้าข้างใครนะ ทุกฝ่ายมีผิดมีถูก ทำผิดเหมือนกันก็ด่าหมด แต่ความคิดต่างๆถ้าผ่าตัดจริงๆก็คือเลือกข้างชัดเจนเลย พวกที่ใช้อย่างถูกต้องแบบที่คุณว่าก็โดนพวกใช้ผิดๆรุมด่า อารมณ์ประมาณกลุ่มคนบ้าที่มาว่าคนปกติบ้า
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: มิถุนายน 05, 2021, 12:59:37 PM โดย Taw »
 
เหล่าหมีที่ถูกใจสิ่งนี้: Black7nos

ออฟไลน์ Taw

  • หัวหน้าฝูงหมีใหญ่
  • *****
  • กระทู้: 1,352
  • ถูกใจแล้ว: 584 ครั้ง
  • ความนิยม: +47/-605
Re: Top 10 ทักษะที่คนทำงานยุคใหม่ 2020+ ควรมี
« ตอบกลับ #31 เมื่อ: มิถุนายน 05, 2021, 01:08:43 PM »
ส่วนเรื่องลุงพล เอาจริงๆผมก็ไม่ค่อยแปลกใจตั้งแต่คดีค้าแป้งละครับ
 
เหล่าหมีที่ถูกใจสิ่งนี้: Black7nos

ออฟไลน์ deaddy

  • จอมทัพหมีหนุ่ม
  • *
  • กระทู้: 7,614
  • ถูกใจแล้ว: 2808 ครั้ง
  • ความนิยม: +186/-185
Re: Top 10 ทักษะที่คนทำงานยุคใหม่ 2020+ ควรมี
« ตอบกลับ #32 เมื่อ: มิถุนายน 05, 2021, 01:45:40 PM »
พวกทักษะบ้าบอคอแตกต่างๆที่ชอบเอาเขียนหนังสือกัน มันก็ทางทฤษฎีหละ แต่ปัจจัยและตัวแปลมันมีเยอะ


เช่นวัฒนธรรมองค์กรณ์งี้


คิดเชิงวิพาร์กไปทำงานราชการสิ เละแน่นอน อยู่ไม่ได้แน่ๆ ทำงานราชการต้องห้ามคิด สั่งอะไรต้องทำตามอย่างเดียว ต่อให้มันเป็นเรื่องที่ผิดหรือมีการคอรัปชั่นภายในต้องรู้จักเอาหูไปนาเอาตาไปไร่ ไม่ก็เข้าร่วมไปเลย
-----------------------
ตัวแปล แต่หละบุคคลอีก คนเก่งๆใช่ว่าจะมนุษย์สัมพันธ์ดีไปซะทุกคน เขาอาจจะเก่งในโลกของเขา แต่พอไปพบปะผูัคนเขาอาจไปไม่เป็นเลยก็ได้กลายเป็นโชว์โง่ไปแทน


กลับกันเจอมาเหมือนกันเก่งแต่ปากภาพลักษ์ดูดีมากๆ แต่ภายในองค์กรณ์เน่าเฟะ ทำงานให้แล้วเก็บมัดจำแล้วเชิดหนีก็มี


--------------------------------------------------------------------------------------------------------


ไหนจะเรื่องสภาพเศรษฐกิจต่างๆเอยสังคมเอย ต่อให้มีครบข้างบน แต่ถ้าไม่มีงานรองรับจริงๆไปทำงานแบบไม่ตรงสายเลย ก็เป็นแค่ไอ้ขยะคนหนึ่ง ประเทศไทยมันเป็นแบบนี้ จบมาตกงานเยอะ ตกงานก็ต้องทำงานเท่าที่มี เป็นเชลล์ขายของตามห้างบ้าง อะไรบ้าง บ้างคนมนุษย์สัมพันธ์ไม่ดีก็ต้องไปทำ




บอกตรงๆบทความแบบนี้มัน ไร้สาระมากๆ เป็นอุดมคติที่เขียนตามหนังสือสอนรวย ที่คนขายรวยเพราะขายหนังสือสอนรวย ไอ้พวกโค๊ชชีวิตพวกนี้โยนทิ้งไปบ้างแล้วกลับมามองปัญหาโครงสร้างเชิงสังคมที่ทำให้เราต้องมานั่งบ้าอะไรแบบนี้เพื่อเป็นSuper Human  แลกกับเงินเดือนแค่15000บาทมากกว่า


เวลาทำงานราชการลูกเล่นเยอะครับ เวลาไปทำให้คนไม่พอใจ
เช่น เอ็งส่งงานมาปุ๊บ ดองครับรอใกล้เส้นตายค่อยปล่อย
เอาจริงๆเค้าก็ไม่ผิดด้วยแค่ไปทำงานอื่นๆก่อน
พอคณะกรรมการมีเวลาพิจารณาน้อยสุดท้ายก็เลื่อนๆจนเจ้าของโครงการโดนด่า


อย่างล่าสุดเจ้านายผมจอรองไม่เซ็นต์ให้ แบบเข้าก็มาส่งทันเส้นตาย
แต่ถ้าไปขอรองดีๆเค้าก็จะเร่งอนุมัติให้จบทันในวันเดียว
พอไม่ไปเตี้ยมกับเขาๆก็ทำตามปรกติ


หรืออย่างคณะกรรมการสงสัยทำไมสินค้าเดียวกันราคาต่างกันจนต้องชี้แจง ว่ามันคิดกันคนละเวลาอันนึงราคาปีก่อนน้ำมัน 22 บาท อีกอันราคาน้ำมันมันเป็น 27 แล้ว


ซึ่งราคางานหลักล้าน แต่ท้วงติงเงินหลักร้อย
จุดทศนิยมตำแหน่งที่ 3 ไม่ตรงเพราะปัดเลขงี้
หรือตรวจงานแล้วพกไมโครมิเตอร์ไปตรวจงานก่อสร้างงี้


คือเคลื่อนไหมมันก็เคลื่อน แต่มันอยู่ในเกณฑ์ที่ยอมรับได้เฟ้ย ::)

 
เหล่าหมีที่ถูกใจสิ่งนี้: IsekaiNetwork

ออฟไลน์ Black7nos

  • แม่ทัพหมีอาวุโส
  • ****
  • กระทู้: 4,207
  • ถูกใจแล้ว: 3281 ครั้ง
  • ความนิยม: +208/-279
Re: Top 10 ทักษะที่คนทำงานยุคใหม่ 2020+ ควรมี
« ตอบกลับ #33 เมื่อ: มิถุนายน 05, 2021, 02:17:35 PM »
[quote/]


เวลาทำงานราชการลูกเล่นเยอะครับ เวลาไปทำให้คนไม่พอใจ
เช่น เอ็งส่งงานมาปุ๊บ ดองครับรอใกล้เส้นตายค่อยปล่อย
เอาจริงๆเค้าก็ไม่ผิดด้วยแค่ไปทำงานอื่นๆก่อน
พอคณะกรรมการมีเวลาพิจารณาน้อยสุดท้ายก็เลื่อนๆจนเจ้าของโครงการโดนด่า


อย่างล่าสุดเจ้านายผมจอรองไม่เซ็นต์ให้ แบบเข้าก็มาส่งทันเส้นตาย
แต่ถ้าไปขอรองดีๆเค้าก็จะเร่งอนุมัติให้จบทันในวันเดียว
พอไม่ไปเตี้ยมกับเขาๆก็ทำตามปรกติ


หรืออย่างคณะกรรมการสงสัยทำไมสินค้าเดียวกันราคาต่างกันจนต้องชี้แจง ว่ามันคิดกันคนละเวลาอันนึงราคาปีก่อนน้ำมัน 22 บาท อีกอันราคาน้ำมันมันเป็น 27 แล้ว


ซึ่งราคางานหลักล้าน แต่ท้วงติงเงินหลักร้อย
จุดทศนิยมตำแหน่งที่ 3 ไม่ตรงเพราะปัดเลขงี้
หรือตรวจงานแล้วพกไมโครมิเตอร์ไปตรวจงานก่อสร้างงี้


คือเคลื่อนไหมมันก็เคลื่อน แต่มันอยู่ในเกณฑ์ที่ยอมรับได้เฟ้ย ::)




ข้อหลังถ้าเข้มงวดในเรื่องเล็กแต่เรื่องใหญ่ไม่ดู ผมสวนไล่กลับไปอ่านสัญญาในส่วน Scope of Work ใหม่เลย


หรือถ้าอยากไฟท์ ผมก็ไม่ได้กลัวที่จะพิพาทนะ แถมชอบด้วย เพราะผมจะจี้ไปที่ Condition กับ Specfication


เอาให้ถึงชั้นอนุญาโตตุลาการเลยก็ย่อมได้ บอกเลยว่าสู้สุดใจโดยสู้กันตรงสัญญา เพราะถ้าผมสู้คือผมมั่นใจว่าผมชนะเกิน 70-80% แล้ว


ฝ่ายผู้รับจ้างทำสัญญาหรือ Contractor จะได้เปรียบเวลาสู้คดีกว่าฝ่ายที่เป็น Owner


เพราะเวลาพิจารณาคดีทั้งอนุญาโตตุลาการและผู้พิพากษาจะยึดหลัก "Contra Proferentem" หรือ "Construed Against Drafter"


นั่นก็คือเมื่อใดที่สัญญานั้นถูกเขียนอย่างคลุมเครือไม่ว่าจะตั้งใจหรือไม่ตั้งใจ การตีความใดๆจะต้องตีความให้ฝ่ายผู้รับจ้างทำสัญญา หรือ ผู้รับเหมาได้ประโยชน์


เนื่องจากเจ้าของสัญญาหรือผู้เขียนสัญญาจงใจเขียนให้คลุมเครือไม่ชัดเจน ยกตัวอย่างเช่น คดีโฮปเวลล์ คดีคลองด่าน


ไม่ต้องอะไรมาก ผมยกแค่ข้อ Contra Proferentem รัฐไทยก็แพ้คดีแล้ว เพราะ สัญญาเขียนไม่ชัดเจน คลุมเครือ และต้องตีความตามฝ่ายที่เป็นผู้รับจ้างทำสัญญา นั่นก็คือผู้รับเหมา


ต่อให้จะอุทธรณ์ หรือ ฎีกาซักกี่หน ก็ไม่มีทางชนะคดีผู้รับเหมาหรือ Contractor ได้ ถ้ารัฐไทยยังคงเขียนสัญญาไม่ชัดเจนน่ะนะ


สูด อ้า..กลิ่นของเงินค่าชดใช้ + ดอกเบี้ย 7.5% ช่างหอมหวานจังเลยครับ


วิธีแก้ง่ายๆนะครับ รัฐไทยต้องเน้นรับสมัครวิศวกรด้านสัญญา(Contract Engineer)ให้มากกว่านี้ เพื่อในการร่างสัญญาที่ชัดเจนและไม่คลุมเครือจะได้ไม่เจอผู้รับเหมาเขาฟ้องกลับ


แต่ค่าตัวของ Contract Engineer ค่อนข้างแพงหน่อยนะครับ สากลโลกมีค่าเฉลี่ยเงินเดือนตกอยู่ที่ $25,000 ต่อเดือน


ดังนั้นควรเปิดหลักสูตรวิศวกรรมสาขาด้านสัญญาจะดีมาก อันนี้แนะนำเลยครับ เพราะมันจำเป็นจริงๆ ใช้ได้ในทางภาครัฐและธุรกิจ ไม่งั้นก็จะเกิดเหตุการณ์ซ้ำรอยคดีโฮปเวลล์ กับ คดีคลองด่านเรื่อยๆ


https://en.wikipedia.org/wiki/Contra_proferentem
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: มิถุนายน 05, 2021, 02:20:32 PM โดย Black7nos »
ผู้กล้าอาณาจักรกุหลาบ https://goshujin.tk/index.php/topic,15078.0.html
ึคุณพ่อผมถูกเอาเงินจ้างฟาดหัว ผมเลยต้องมาเป็นนักมวยไทยที่ต่างแดน https://goshujin.tk/index.php?topic=32172.msg796105#msg796105
 

ออฟไลน์ isdogtr001

  • แม่ทัพหมีหนุ่ม
  • *
  • กระทู้: 2,036
  • ถูกใจแล้ว: 1156 ครั้ง
  • ความนิยม: +82/-143
Re: Top 10 ทักษะที่คนทำงานยุคใหม่ 2020+ ควรมี
« ตอบกลับ #34 เมื่อ: มิถุนายน 05, 2021, 07:03:52 PM »
พวกคุณนี้นิสัย อีโมเเท้ๆครับ วันๆน่าจะเจอเรื่องเยอะนะ ชีวิตเคยมีคำว่าปล่อยวางหรือคิดเเง่ดีในชีวิตบ้างไหมเนี้ย ???


พอเถอะเเต่ผมว่าสุดท้ายพวกคุณก็คงไม่ฟังอยู่ดีอย่ามาอ้างเถียงอะไรอีกนะเบื่อละ


คิดเเต่ด้านๆเดียว ขาวเป็นขาว ดำเป็นดำ
เชื่อมั่นในตัวเองเกิน(จะยกเอาเเต่เรื่องที่ตัวเองเป็นฝ่ายดีเท่านั้น)
ไม่ฟังชาวบ้าน(พอเขามาเเย้งจะชอบปัดไปอย่างอื่นที่ตัวเองต้องการ)
ชอบเอาชนะ(ไม่ยอมเเม้ตัวเองจะฝ่ายผิด)
คิดเเต่ในเเง่ลบต่อคนอื่น(ด่าคนเเก่ได้ไฟเเล็บตัวเองไม่เคย)
เหยียดคนที่ต่างจากตัวเอง(ชอบเหยียดประเทศตัวเองเเละคนที่เข้าไม่เห็นด้วยกับคุณบอกว่ายกเรื่องดีมาบ้างเเต่สุดท้าย 99 มันก็ด่าอยู่ดี)


รู้เลยว่าพวกเเก่ๆที่เขาด่ากันว่าทำไมทำนู่นนี้มาจากไหนพื้นฐานก็มาจากพวกคุณนั้นละตรรกะไม่เคยมีคำว่ากลางจริงๆ หัวรุนเเรงกันชะมัด



« แก้ไขครั้งสุดท้าย: มิถุนายน 05, 2021, 07:07:56 PM โดย isdogtr001 »
 

ออฟไลน์ Black7nos

  • แม่ทัพหมีอาวุโส
  • ****
  • กระทู้: 4,207
  • ถูกใจแล้ว: 3281 ครั้ง
  • ความนิยม: +208/-279
Re: Top 10 ทักษะที่คนทำงานยุคใหม่ 2020+ ควรมี
« ตอบกลับ #35 เมื่อ: มิถุนายน 05, 2021, 08:10:14 PM »
พวกคุณนี้นิสัย อีโมเเท้ๆครับ วันๆน่าจะเจอเรื่องเยอะนะ ชีวิตเคยมีคำว่าปล่อยวางหรือคิดเเง่ดีในชีวิตบ้างไหมเนี้ย ???


พอเถอะเเต่ผมว่าสุดท้ายพวกคุณก็คงไม่ฟังอยู่ดีอย่ามาอ้างเถียงอะไรอีกนะเบื่อละ


คิดเเต่ด้านๆเดียว ขาวเป็นขาว ดำเป็นดำ
เชื่อมั่นในตัวเองเกิน(จะยกเอาเเต่เรื่องที่ตัวเองเป็นฝ่ายดีเท่านั้น)
ไม่ฟังชาวบ้าน(พอเขามาเเย้งจะชอบปัดไปอย่างอื่นที่ตัวเองต้องการ)
ชอบเอาชนะ(ไม่ยอมเเม้ตัวเองจะฝ่ายผิด)
คิดเเต่ในเเง่ลบต่อคนอื่น(ด่าคนเเก่ได้ไฟเเล็บตัวเองไม่เคย)
เหยียดคนที่ต่างจากตัวเอง(ชอบเหยียดประเทศตัวเองเเละคนที่เข้าไม่เห็นด้วยกับคุณบอกว่ายกเรื่องดีมาบ้างเเต่สุดท้าย 99 มันก็ด่าอยู่ดี)


รู้เลยว่าพวกเเก่ๆที่เขาด่ากันว่าทำไมทำนู่นนี้มาจากไหนพื้นฐานก็มาจากพวกคุณนั้นละตรรกะไม่เคยมีคำว่ากลางจริงๆ หัวรุนเเรงกันชะมัด






ผมว่าคุณ @isdogtr001 พูดถึงตัวเองเหรอครับ? เหมือนคุณกำลังแฉตัวเองนะครับ


จะบอกว่าผมไม่ฟังคนอื่น ไม่ Respect คนอื่น ขณะที่คุณเองก็ไม่ได้เสนอความคิดอะไรออกมา เพื่อให้การถกเถียงเดินหน้าต่อ


พอตนเองไม่มีข้อมูลถกเถียงก็มัวแต่ black7nos เป็นคนอย่างนั้น black7nos เป็นคนอย่างนี้ งอแงเหมือนเด็กที่ไม่ได้ดั่งใจก็ร้องไห้งอแง เพราะ เถียงเขาไม่ได้


โตเป็นผู้ใหญ่ได้แล้วนะครับ มันถึงจุดนี้ผมต้องพูดตรงๆแล้วนะ คุณ @isdogtr001 คนในบอร์ดอินบอร์กหลังไมค์ให้ผมฟัง คนอื่นหลายคนรู้สึกคุณเหมือนเป็นเด็กงอแงเอาแต่ใจ ไม่รู้จักโต


อย่าทำให้คนอื่นในบอร์ดรู้สึกสมเพชคุณไปมากกว่านี้เลยครับ ผมขอเลยเรื่องนี้ เพราะผมก็พยายามเปิดโอกาสให้คุณโต้เถียง แต่คุณก็ไม่ทำมัวแต่เจ้าคิดเจ้าแค้นผม ทั้งที่ผมไม่ได้รู้สึกอะไรเลยแถมตลกดีด้วย


มนุษย์น่ะนะชอบการเอาชนะอยู่แล้ว ซึ่งผมก็ยอมรับตัวเองดีในจุดนี้ ไม่เคยปฏิเสธ เพราะผมไม่เคยหลอกตัวเอง ผมภาคภูมิใจกับมันด้วยครับ เพราะมันเป็นธรรมชาติของมนุษย์ทุกคนในโลก


เพราะความเอาชนะไม่ใช่เหรอครับ มันถึงทำให้มนุษย์วิวัฒนาการมาจนถึงจุดนี้ สร้างนวัตกรรมมากมายก็ไม่ใช่เพื่ออยากเอาชนะธรรมชาติเพื่อทำให้ชีวิตมนุษย์สะดวกสบายขึ้น


การถกเถียงคือการเอาชนะด้วยจุดยืนของแต่ละคนตั้งแต่แรกเริ่มอยู่แล้ว ไม่งั้นอัยการกับทนายจะเถียงกันไปทำไม ถ้าไม่อยากเอาชนะอีกฝ่าย จริงมั้ย ดังนั้นผมถึงไม่หลอกตัวเองไงครับ


ผมไม่ใช่นักบุญมาโปรดสัตว์โลกนะ ผมก็คือผม เป็นมนุษย์ปุถุชนโครโมโซม 23 คู่ที่รักโลภโกรธหลงเป็นธรรมดา ผมไม่เคยหลอกตัวเองว่าเป็นกลาง เพราะผมไม่ใช่ Buddha ไงครับ


และก็ไม่เคยคิดอาจเอื้อมจะเป็นอย่าง Buddha ด้วย เพราะผมรู้และยอมรับว่าตราบเท่าที่ผมต้องทำงานหาเงิน ต้องกิน ต้องใช้ ผมไม่อาจเดินสายกลางได้แน่นอนครับ


เหยียดคนอื่น? ขอโทษนะครับ ผมไปลดทอนคุณค่าความเป็นมนุษย์ของคนอื่นตามปฏิญญาสิทธิมนุษยชนสากล 30 ข้อ ข้อไหนครับ? ช่วยบอกผมหน่อย?



1.มนุษย์ทั้งปวงเกิดมามีอิสระและเสมอภาคกันในศักดิ์ศรีและสิทธิต่างๆ

2.ทุกคคนย่อมมีสิทธิและอิสระภาพตามที่กำหนดไว้ในปฏิญญาสากลนี้โดยปราศจาการบ่งแย่งไม่ว่าจะเป็นเรื่องใดๆ

3.มนุษย์ทุกคนมีสิทธิในการมีชีวิต เสรีภาพ และความมั่นคงแห่งบุคคล

4.บุคคลจะตกอยู่ในความเป็นทาส หรือสภาวะจำยองไม่ได้ ทั้งนี้ห้ามค้าทาสทุกรูปแบบ

 
 5.บุคคลจะถูกกระทำการทรมาน หรือการลงโทษที่โหดร้าย ไร้มนุษยธรรม หรือย่ำยีศักดิ์ศรีไม่ได้

6.ทุคนมีสิทธิที่จะได้รับการยอมรับทุกแห่งหนว่าเป็นบุคคลตามกฎหมาย

7.ทุกคนเสมอภาคกันตามกฎหมายและมีสิทธิที่จะได้รับความคุ้มครองทางกฎหมายอย่างเท่าเทียมกันโดยปราศจากการเลือกปฏิบัติ

8.มนุษย์ทุคคนมีสิทธิที่จะได้รับการเยียวยาอันมีประสิทธิผลจากศาลต่อการกระทำอันล่วงละเมิดสิทธิขั้นพื้นฐานของตนตามรัฐธรรมนูญหรือกฎหมาย

9.บุคคลจะถูกจับกุม กักขัง ตามอำเภอใจไม่ได้

10.มนุษย์ทุกกคนมีสิทธิในความเสมอภาคอย่างเต็มที่  จะได้รับการพิจารณาคดีที่เป็นธรรมและเปิดเผยจากศาลที่อิสระไม่ลำเอียง

11.ทุกคคนที่ถูกกล่าวหาว่ากระทำผิดทางอาญามีสิทธิที่จะได้รับการสันนิษฐานไว้กาอนว่าบริสุทธิ์จนกว่าจะพิสูจน์ได้ว่ามีความผิดตามกฎหมาย

12.บุคคลจะถูกแทรกแซงความเป็นส่วนตัว ครอบครัว ที่อยู่อาศัย การสื่อสาร หรือจะลบหลู่เกียรติยศและชื่อเสียงไม่ได้

13.ทุคนมีสิทธิอิสรภาพแห่งการเคลื่อนย้ายและการอยู่อาศัยภายในพรมแดนของต่ละรัฐ  เละมีสิทธิที่จะออกนอกประเทศตนเองหรือกลับสู่ประเทศของตนได้

14.ทุกคนมีสิทธิที่จะแสวงหาที่ลี้ภัยในประเทศอื่นจากการประหัตประหารได้ แต่สิทธินี้จะยกขึ้นกล่าวอ้างจากควมผิดในประเด็นการเมือง  หรือจาการกระทำอันขัดต่อวัตถุประสงค์และหลักการของสหประชาชาติไม่ได้

15.ทุคคนมีสิทธิมนการถือสัญชาติและสามารถเปลี่ยนแปลงสัญชาติของตนเองได้

16.ครอบครับเป็นหน่วยธรรมชาติทางพื้นบานสังคม  เพราะฉะนั้นย่อมมีสิทธิที่จะได้รับความคุ้มครองจากสังคมและรัฐ  และชายหญิงที่มีอายุครบบริบูรณ์ตามกฎหมายแล้วทุกคน มีสิทธิที่จะสมรถและสร้างครอบครัวของตนเองได้

17.ทุคคนมีสิทธิที่จะเป็นเจ้าของทรัพย์สิน ไม่ว่าจะเป็นทรัพย์สินของตนเอง หรือทรัพย์สินที่อยู่ร่มวมกับผู้อื่น

18.ทุคนมีสิทธิในการเปลี่ยนศาสนาหรื่อความเชื่อ  และมีอิสรภาพในการแสดงออกทางศาสนาหรือความเชื่อของตนในชุมชนหรือในพื้นที่สาธารณะ

19.ทุกกคนมีสิทธิในการแสดงควมคิดเห็น แสวงหาข้อมูลข่าวสาร และสามารถรับส่งข่อคิดเห็นต่างๆผ่านสื่อใดๆก็ได้โดยปราศจากการแทรกแซง

20.ทุคนมีสิทธิในการชุมนุมและการสมาคมโดยสันติ

21.ทุคคนมีสิทธิที่จะมีว่วนร่วมในการปกครองประเทศของตน ทั้งโดยทางตรงหรือทางผู้แทนซึ่งมาจากการเลือกตั้งรวมทั้งทุกคนมีสิทธิที่จะเข้าถึงบรกการสาธารณะในประเทศของตนโดยเสมอภาค

22.สมาชิกทุกกคนของสังคมมีสิทธิในการเข้าถึงหลักประกันทางด้านเศรฐกิจ สังคม และวัฒนธรรม

23.ทุกคนมีสิทธิในการทำงาน สามารถเลือกงานได้โดนอิสระและมีการคุ้มครองเมื่อเกิดการว่างงงานรวมทั้งทุกคนมีสิทธิที่จะได้รับค่าจ้างี่เท่าเทียมกัน  สำหรับงานที่เท่าเทียมกันโดยปราศจากการเลือกปฏิบัติใดๆทั้งสิ้นทั้งนี้ทุกคนมีสิทธิที่จะจัดตั้งหรือเข้าร่มสหภาพแรงงาน
24.ทุคนมีสิทธิในการพักผ่อนและผ่อนคลายยามว่างโดยพักผ่อนและผ่อนคลายยามว่าง โดยพักผ่อนดังกล่าวจะต้องได้รับค่าจ้าง

25.ทุกคนมีสิทธิในมาตรฐานการครองชีพ เช่นอาหาร เครื่องนุ่งห่ม ที่อยู่อาศัย การดูและรักษาทางการแพทย์ และบริการทางสังคมที่จำเป็นเพียงพอสำหรับสุขภาพและความอยู่ดีของตนเองและครอบครัว

26.ทุกคนมีสิทธิได้รับการศึกษาขั้นพื้นฐานจากรัฐโดยไม่เสียค่าใช้จ่ายใดๆทั้งสิ้น

27.ทุกคนมีสิทธิที่เข้าร่วมในวัฒนธรรมของชุมชนอย่างอิสระ และทุกคนมีสิทธิได้รับการคุ้มครองผลประโยชน์อันเกิดจากการประดิษฐกรรมทางวิทยาศาสตร์ วรรรกรรมและศิลปกรรมซึ่งตนเป็นผู้สร้างขึ้น

28.ทุกคนมีสิทธิการจัดระเบียบทางสังคมระหว่างประเทศ

29.การใช้สิทธิและอิสรภาพของทุกคนต้องอยู่ภายใต้ข้อจำกัด เพียงเท่าที่มีกำหนดไว้ตามกฏหมายเท่านั้นตลอดจนสิทธิและอิสรภาพเหล่านี้จะไม่ขัดต่อวัตถุประสงค์และหลักการของสหประชาชาติไม่ว่ากรณีใดๆ

30.ไม่มีบทใดในปฏิญานี้ที่อาจตีความได้ว่าเป็นการให้สิทธิใดแก่รัฐ กลุ่มคน หรือบุคคลใดในการดำเนินกิจกรรมใดในการดำเนินกิจกรรมใด หรือกระทำการอันมุ่งต่อการทำลายสิทธิและอิสรภาพที่กำหนดไว่ ณ ที่นี้

ข้อไหนครับ? ช่วยตอบหน่อยครับ ถ้าศาสนาพุทธคือพระไตรปิฎก ศาสนาคริสต์คือไบเบิล ศาสนาอิสลามคืออัลกุรอาน ถ้าเป็นศาสนาจูดายของยิวก็คือบัญญัติ 10 ประการ ของโมเสส

สำหรับผม 30 ข้อนี้คือสิ่งเดียวที่ผมซึ่งเป็นอศาสนายึดถือครับ เพราะผมถือว่าทุกชาติในโลกร่วมเซ็นลงนามในข้อตกลงปฏิญญานี้แล้ว ประเทศไทยเองก็ด้วยเมื่อ พ.ศ. 2491 ดังนั้นมันจึงเป็นค่านิยมสากลที่ทั่วโลกยอมรับแล้ว และก็มันถูกบรรจุลงในรัฐธรรมนูญด้วย
ถ้าคุณไม่อาจระบุข้อไหนได้ แสดงว่าคุณ @isdogtr001 แค่กล่าวหาสร้างความเท็จเลื่อนลอยสนองความต้องการส่วนตัวนะครับ
ผู้กล้าอาณาจักรกุหลาบ https://goshujin.tk/index.php/topic,15078.0.html
ึคุณพ่อผมถูกเอาเงินจ้างฟาดหัว ผมเลยต้องมาเป็นนักมวยไทยที่ต่างแดน https://goshujin.tk/index.php?topic=32172.msg796105#msg796105
 

ออฟไลน์ deaddy

  • จอมทัพหมีหนุ่ม
  • *
  • กระทู้: 7,614
  • ถูกใจแล้ว: 2808 ครั้ง
  • ความนิยม: +186/-185
Re: Top 10 ทักษะที่คนทำงานยุคใหม่ 2020+ ควรมี
« ตอบกลับ #36 เมื่อ: มิถุนายน 05, 2021, 08:16:00 PM »
[quote/]


ข้อหลังถ้าเข้มงวดในเรื่องเล็กแต่เรื่องใหญ่ไม่ดู ผมสวนไล่กลับไปอ่านสัญญาในส่วน Scope of Work ใหม่เลย


หรือถ้าอยากไฟท์ ผมก็ไม่ได้กลัวที่จะพิพาทนะ แถมชอบด้วย เพราะผมจะจี้ไปที่ Condition กับ Specfication


เอาให้ถึงชั้นอนุญาโตตุลาการเลยก็ย่อมได้ บอกเลยว่าสู้สุดใจโดยสู้กันตรงสัญญา เพราะถ้าผมสู้คือผมมั่นใจว่าผมชนะเกิน 70-80% แล้ว


ฝ่ายผู้รับจ้างทำสัญญาหรือ Contractor จะได้เปรียบเวลาสู้คดีกว่าฝ่ายที่เป็น Owner


เพราะเวลาพิจารณาคดีทั้งอนุญาโตตุลาการและผู้พิพากษาจะยึดหลัก "Contra Proferentem" หรือ "Construed Against Drafter"


นั่นก็คือเมื่อใดที่สัญญานั้นถูกเขียนอย่างคลุมเครือไม่ว่าจะตั้งใจหรือไม่ตั้งใจ การตีความใดๆจะต้องตีความให้ฝ่ายผู้รับจ้างทำสัญญา หรือ ผู้รับเหมาได้ประโยชน์


เนื่องจากเจ้าของสัญญาหรือผู้เขียนสัญญาจงใจเขียนให้คลุมเครือไม่ชัดเจน ยกตัวอย่างเช่น คดีโฮปเวลล์ คดีคลองด่าน


ไม่ต้องอะไรมาก ผมยกแค่ข้อ Contra Proferentem รัฐไทยก็แพ้คดีแล้ว เพราะ สัญญาเขียนไม่ชัดเจน คลุมเครือ และต้องตีความตามฝ่ายที่เป็นผู้รับจ้างทำสัญญา นั่นก็คือผู้รับเหมา


ต่อให้จะอุทธรณ์ หรือ ฎีกาซักกี่หน ก็ไม่มีทางชนะคดีผู้รับเหมาหรือ Contractor ได้ ถ้ารัฐไทยยังคงเขียนสัญญาไม่ชัดเจนน่ะนะ


สูด อ้า..กลิ่นของเงินค่าชดใช้ + ดอกเบี้ย 7.5% ช่างหอมหวานจังเลยครับ


วิธีแก้ง่ายๆนะครับ รัฐไทยต้องเน้นรับสมัครวิศวกรด้านสัญญา(Contract Engineer)ให้มากกว่านี้ เพื่อในการร่างสัญญาที่ชัดเจนและไม่คลุมเครือจะได้ไม่เจอผู้รับเหมาเขาฟ้องกลับ


แต่ค่าตัวของ Contract Engineer ค่อนข้างแพงหน่อยนะครับ สากลโลกมีค่าเฉลี่ยเงินเดือนตกอยู่ที่ $25,000 ต่อเดือน


ดังนั้นควรเปิดหลักสูตรวิศวกรรมสาขาด้านสัญญาจะดีมาก อันนี้แนะนำเลยครับ เพราะมันจำเป็นจริงๆ ใช้ได้ในทางภาครัฐและธุรกิจ ไม่งั้นก็จะเกิดเหตุการณ์ซ้ำรอยคดีโฮปเวลล์ กับ คดีคลองด่านเรื่อยๆ


https://en.wikipedia.org/wiki/Contra_proferentem


ก็แล้วแต่นะครับถ้าไปเถียงเค้าในที่ประชุมมากๆเขาก็อาจจะสั่งไปช่วยงานตบยุงจนกว่าเขาจะพอใจ ;D


อย่างบางคนได้ว่างงานเป็นปีๆ อย่างคนที่ผมรู้จัก
เอ็งมีปัญหามากก็ไม่ต้องทำงาน กินเงินเดือนอยู่เฉยๆไป เจอกันหลายคนครับ
ถ้าคนคิดจบที่ตำแหน่งนั้นเขาก็ชิลๆ แต่พวกต้องการก้าวหน้านี่ โดนดอง 1-2 ปีโอกาสหายไป 2 ปีเลยนะเออ

แต่บางคนก็อยากโดนอยู่นะ เพราะงานเยอะเกิน แถมบางทีก็โดนบังคับให้เสี่ยง

อย่างบางที่ยอดเงินที่เป็นคดีความเป็นสิบๆเป็นร้อยๆล้าน
แต่ค่าตะกั่วไม่กี่หมื่น :(
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: มิถุนายน 05, 2021, 08:19:56 PM โดย deaddy »
 
เหล่าหมีที่ถูกใจสิ่งนี้: Black7nos

ออฟไลน์ Black7nos

  • แม่ทัพหมีอาวุโส
  • ****
  • กระทู้: 4,207
  • ถูกใจแล้ว: 3281 ครั้ง
  • ความนิยม: +208/-279
Re: Top 10 ทักษะที่คนทำงานยุคใหม่ 2020+ ควรมี
« ตอบกลับ #37 เมื่อ: มิถุนายน 05, 2021, 08:20:25 PM »
[quote/]


ก็แล้วแต่นะครับถ้าไปเถียงเค้าในที่ประชุมมากๆเขาก็อาจจะสั่งไปช่วยงานตบยุงจนกว่าเขาจะพอใจ ;D


อย่างบางคนได้ว่างงานเป็นปีๆ อย่างคนที่ผมรู้จัก
เอ็งมีปัญหามากก็ไม่ต้องทำงาน กินเงินเดือนอยู่เฉยๆไป เจอกันหลายคนครับ
ถ้าคนคิดจบที่ตำแหน่งนั้นเขาก็ชิลๆ แต่พวกต้องการก้าวหน้านี่ โดนดอง 1-2 ปีโอกาสหายไป 2 ปีเลยนะเออ

แต่บางคนก็อยากโดนอยู่นะ เพราะงานเยอะเกิน แถมบางทีก็โดนบังคับให้เสี่ยง

อย่างบางที่ยอดเงินที่เป็นคดีความเป็นสิบๆเป็นร้อยๆล้าน
แต่ค่าตะกั่วไม่กี่หมื่น :(


แต่สำหรับผมคนที่เถียงและสามารถรักษาผลประโยชน์บริษัทกลับได้เลื่อนตำแหน่งเพิ่มเงินเดือนนะครับ ???


ผมมองว่าการที่เรามีโอกาสได้ถกเถียงไม่ว่าจะเป็นกับเจ้าของงานหรือที่ปรึกษา มันคือ Golden Time สำหรับการสร้างผลงานให้เข้าตาผู้บริหารเลยนะ


แต่ต้องเถียงเพื่อรักษาผลประโยชน์ของบริษัทอย่างมีเหตุผลและมีหลักการ มีข้อมูลหลักฐานรองรับ


ส่วนคนที่หงิมๆ ไม่ถกเถียงเพื่อรักษาผลประโยชน์บริษัทต่อสู้กับปาร์ตี้ที่2 หรือ 3 อย่างเจ้าของงาน หรือ ที่ปรึกษา ก็โดนส่งตัวกลับไทยไปหลายคนแล้วครับ ???


เพราะบริษัทที่ผมมองว่าคนที่ทำงานกับบริษัทแต่ไม่รักษาผลประโยชน์บริษัท บริษัทก็ไม่รู้จะเลี้ยงไว้ไปทำไมน่ะครับ เปลืองค่าใช้จ่ายเปล่าๆ ;D


หรือบางทีบริษัทผมและตัวผมจะคิดแบบชาวตะวันตก?  ???
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: มิถุนายน 05, 2021, 08:26:30 PM โดย Black7nos »
ผู้กล้าอาณาจักรกุหลาบ https://goshujin.tk/index.php/topic,15078.0.html
ึคุณพ่อผมถูกเอาเงินจ้างฟาดหัว ผมเลยต้องมาเป็นนักมวยไทยที่ต่างแดน https://goshujin.tk/index.php?topic=32172.msg796105#msg796105
 

ออฟไลน์ deaddy

  • จอมทัพหมีหนุ่ม
  • *
  • กระทู้: 7,614
  • ถูกใจแล้ว: 2808 ครั้ง
  • ความนิยม: +186/-185
Re: Top 10 ทักษะที่คนทำงานยุคใหม่ 2020+ ควรมี
« ตอบกลับ #38 เมื่อ: มิถุนายน 06, 2021, 01:14:24 AM »
[quote/]


แต่สำหรับผมคนที่เถียงและสามารถรักษาผลประโยชน์บริษัทกลับได้เลื่อนตำแหน่งเพิ่มเงินเดือนนะครับ ???


ผมมองว่าการที่เรามีโอกาสได้ถกเถียงไม่ว่าจะเป็นกับเจ้าของงานหรือที่ปรึกษา มันคือ Golden Time สำหรับการสร้างผลงานให้เข้าตาผู้บริหารเลยนะ


แต่ต้องเถียงเพื่อรักษาผลประโยชน์ของบริษัทอย่างมีเหตุผลและมีหลักการ มีข้อมูลหลักฐานรองรับ


ส่วนคนที่หงิมๆ ไม่ถกเถียงเพื่อรักษาผลประโยชน์บริษัทต่อสู้กับปาร์ตี้ที่2 หรือ 3 อย่างเจ้าของงาน หรือ ที่ปรึกษา ก็โดนส่งตัวกลับไทยไปหลายคนแล้วครับ ???


เพราะบริษัทที่ผมมองว่าคนที่ทำงานกับบริษัทแต่ไม่รักษาผลประโยชน์บริษัท บริษัทก็ไม่รู้จะเลี้ยงไว้ไปทำไมน่ะครับ เปลืองค่าใช้จ่ายเปล่าๆ ;D


หรือบางทีบริษัทผมและตัวผมจะคิดแบบชาวตะวันตก?  ???


ก็แปลว่าโชคดีครับ ที่อีกฝั่งปฏิบัติตามกฏหมาย เพื่อนๆผมในองค์กรเจอมาเยอะครับ


คุยงานโดยใช้มวลชลขับรถขวางหน้าหลังแล้วคนนับครึ่งร้อยล้อมวงเรียกมาคุยงาน


ทดสอบความแข็งแกร่งสิ่งปลูกสร้างด้วยลูกตะกั่ว


แผนกต้อนรับ รีบวิ่งเข้ามาต้อนรับพร้อมกับถือมีด


ช่วยเติมน้ำมันรถแบคโฮลด้วยทรายกลางดึก


รถจอดไว้กลางดึกสงสัยร้อนไปเลยมีเกิดรูระบายอากาศพรุนตามตัวรถ


ได้เมียมีน้อยหลังขึ้นสวรรค์เพราะคนใจบุญที่ปกปิดหน้าตา


ส่วนผมเคยแค่เจอทีมขับรถประกบหน้าหลัง พร้อมกับของเล่นครบมือ ;D 
เวลาคุยงานบางทีก็มีทหารช่วยคุยให้ก่อน มีทีมคุ้มกันนิดหน่อย เพราะส่วนใหญ่ทีมผมไม่ใช่กลุ่มแรก
แต่เป็นกลุ่มที่เข้าหลังตกลงกันจบไปละ รึฟ้องศาลจบไปละ


ขนาดแถวชลบุรี หัวหน้าส่วนที่คุมพื้นที่ยังพกอุปกรณ์รักษาความปลอดภัยขนาด .38 ไปทุกครั้งเวลาไปตรวจงานคนเดียวเลย
ถ้าไปเป็นกลุ่มมีคนถือให้ ;D




หลายๆพื้นที่ เนื้อที่เป็นพันๆไร่ ไม่มีวงจรปิด ไม่มีคนอยู่ หมู่บ้านที่ใกล้ที่สุดเป็นคนเค้าหมด
ถนนทางเข้าเป็นถนนส่วนบุคคล คนนอกห้ามเข้า
ถ้าใครใครอยากจะดื้อเอาชนะฝั่งเดียวมากๆ เค้าอาจจะรู้สึกหนาวเลยจุดยางเผาให้หายหนาวขึ้นมาก็ได้ :(

จะเงินเดือนรึโบนัสแค่ไหนก็ช่างมันจะมีค่าก็ต่อเมื่อได้กลับมาบ้านแล้ว ;D
 

ออฟไลน์ isdogtr001

  • แม่ทัพหมีหนุ่ม
  • *
  • กระทู้: 2,036
  • ถูกใจแล้ว: 1156 ครั้ง
  • ความนิยม: +82/-143
Re: Top 10 ทักษะที่คนทำงานยุคใหม่ 2020+ ควรมี
« ตอบกลับ #39 เมื่อ: มิถุนายน 06, 2021, 03:20:03 AM »
[quote/]


ผมว่าคุณ @isdogtr001 พูดถึงตัวเองเหรอครับ? เหมือนคุณกำลังแฉตัวเองนะครับ


จะบอกว่าผมไม่ฟังคนอื่น ไม่ Respect คนอื่น ขณะที่คุณเองก็ไม่ได้เสนอความคิดอะไรออกมา เพื่อให้การถกเถียงเดินหน้าต่อ


พอตนเองไม่มีข้อมูลถกเถียงก็มัวแต่ black7nos เป็นคนอย่างนั้น black7nos เป็นคนอย่างนี้ งอแงเหมือนเด็กที่ไม่ได้ดั่งใจก็ร้องไห้งอแง เพราะ เถียงเขาไม่ได้


โตเป็นผู้ใหญ่ได้แล้วนะครับ มันถึงจุดนี้ผมต้องพูดตรงๆแล้วนะ คุณ @isdogtr001 คนในบอร์ดอินบอร์กหลังไมค์ให้ผมฟัง คนอื่นหลายคนรู้สึกคุณเหมือนเป็นเด็กงอแงเอาแต่ใจ ไม่รู้จักโต


อย่าทำให้คนอื่นในบอร์ดรู้สึกสมเพชคุณไปมากกว่านี้เลยครับ ผมขอเลยเรื่องนี้ เพราะผมก็พยายามเปิดโอกาสให้คุณโต้เถียง แต่คุณก็ไม่ทำมัวแต่เจ้าคิดเจ้าแค้นผม ทั้งที่ผมไม่ได้รู้สึกอะไรเลยแถมตลกดีด้วย


มนุษย์น่ะนะชอบการเอาชนะอยู่แล้ว ซึ่งผมก็ยอมรับตัวเองดีในจุดนี้ ไม่เคยปฏิเสธ เพราะผมไม่เคยหลอกตัวเอง ผมภาคภูมิใจกับมันด้วยครับ เพราะมันเป็นธรรมชาติของมนุษย์ทุกคนในโลก


เพราะความเอาชนะไม่ใช่เหรอครับ มันถึงทำให้มนุษย์วิวัฒนาการมาจนถึงจุดนี้ สร้างนวัตกรรมมากมายก็ไม่ใช่เพื่ออยากเอาชนะธรรมชาติเพื่อทำให้ชีวิตมนุษย์สะดวกสบายขึ้น


การถกเถียงคือการเอาชนะด้วยจุดยืนของแต่ละคนตั้งแต่แรกเริ่มอยู่แล้ว ไม่งั้นอัยการกับทนายจะเถียงกันไปทำไม ถ้าไม่อยากเอาชนะอีกฝ่าย จริงมั้ย ดังนั้นผมถึงไม่หลอกตัวเองไงครับ


ผมไม่ใช่นักบุญมาโปรดสัตว์โลกนะ ผมก็คือผม เป็นมนุษย์ปุถุชนโครโมโซม 23 คู่ที่รักโลภโกรธหลงเป็นธรรมดา ผมไม่เคยหลอกตัวเองว่าเป็นกลาง เพราะผมไม่ใช่ Buddha ไงครับ


และก็ไม่เคยคิดอาจเอื้อมจะเป็นอย่าง Buddha ด้วย เพราะผมรู้และยอมรับว่าตราบเท่าที่ผมต้องทำงานหาเงิน ต้องกิน ต้องใช้ ผมไม่อาจเดินสายกลางได้แน่นอนครับ


เหยียดคนอื่น? ขอโทษนะครับ ผมไปลดทอนคุณค่าความเป็นมนุษย์ของคนอื่นตามปฏิญญาสิทธิมนุษยชนสากล 30 ข้อ ข้อไหนครับ? ช่วยบอกผมหน่อย?



1.มนุษย์ทั้งปวงเกิดมามีอิสระและเสมอภาคกันในศักดิ์ศรีและสิทธิต่างๆ

2.ทุกคคนย่อมมีสิทธิและอิสระภาพตามที่กำหนดไว้ในปฏิญญาสากลนี้โดยปราศจาการบ่งแย่งไม่ว่าจะเป็นเรื่องใดๆ

3.มนุษย์ทุกคนมีสิทธิในการมีชีวิต เสรีภาพ และความมั่นคงแห่งบุคคล

4.บุคคลจะตกอยู่ในความเป็นทาส หรือสภาวะจำยองไม่ได้ ทั้งนี้ห้ามค้าทาสทุกรูปแบบ

 
 5.บุคคลจะถูกกระทำการทรมาน หรือการลงโทษที่โหดร้าย ไร้มนุษยธรรม หรือย่ำยีศักดิ์ศรีไม่ได้

6.ทุคนมีสิทธิที่จะได้รับการยอมรับทุกแห่งหนว่าเป็นบุคคลตามกฎหมาย

7.ทุกคนเสมอภาคกันตามกฎหมายและมีสิทธิที่จะได้รับความคุ้มครองทางกฎหมายอย่างเท่าเทียมกันโดยปราศจากการเลือกปฏิบัติ

8.มนุษย์ทุคคนมีสิทธิที่จะได้รับการเยียวยาอันมีประสิทธิผลจากศาลต่อการกระทำอันล่วงละเมิดสิทธิขั้นพื้นฐานของตนตามรัฐธรรมนูญหรือกฎหมาย

9.บุคคลจะถูกจับกุม กักขัง ตามอำเภอใจไม่ได้

10.มนุษย์ทุกกคนมีสิทธิในความเสมอภาคอย่างเต็มที่  จะได้รับการพิจารณาคดีที่เป็นธรรมและเปิดเผยจากศาลที่อิสระไม่ลำเอียง

11.ทุกคคนที่ถูกกล่าวหาว่ากระทำผิดทางอาญามีสิทธิที่จะได้รับการสันนิษฐานไว้กาอนว่าบริสุทธิ์จนกว่าจะพิสูจน์ได้ว่ามีความผิดตามกฎหมาย

12.บุคคลจะถูกแทรกแซงความเป็นส่วนตัว ครอบครัว ที่อยู่อาศัย การสื่อสาร หรือจะลบหลู่เกียรติยศและชื่อเสียงไม่ได้

13.ทุคนมีสิทธิอิสรภาพแห่งการเคลื่อนย้ายและการอยู่อาศัยภายในพรมแดนของต่ละรัฐ  เละมีสิทธิที่จะออกนอกประเทศตนเองหรือกลับสู่ประเทศของตนได้

14.ทุกคนมีสิทธิที่จะแสวงหาที่ลี้ภัยในประเทศอื่นจากการประหัตประหารได้ แต่สิทธินี้จะยกขึ้นกล่าวอ้างจากควมผิดในประเด็นการเมือง  หรือจาการกระทำอันขัดต่อวัตถุประสงค์และหลักการของสหประชาชาติไม่ได้

15.ทุคคนมีสิทธิมนการถือสัญชาติและสามารถเปลี่ยนแปลงสัญชาติของตนเองได้

16.ครอบครับเป็นหน่วยธรรมชาติทางพื้นบานสังคม  เพราะฉะนั้นย่อมมีสิทธิที่จะได้รับความคุ้มครองจากสังคมและรัฐ  และชายหญิงที่มีอายุครบบริบูรณ์ตามกฎหมายแล้วทุกคน มีสิทธิที่จะสมรถและสร้างครอบครัวของตนเองได้

17.ทุคคนมีสิทธิที่จะเป็นเจ้าของทรัพย์สิน ไม่ว่าจะเป็นทรัพย์สินของตนเอง หรือทรัพย์สินที่อยู่ร่มวมกับผู้อื่น

18.ทุคนมีสิทธิในการเปลี่ยนศาสนาหรื่อความเชื่อ  และมีอิสรภาพในการแสดงออกทางศาสนาหรือความเชื่อของตนในชุมชนหรือในพื้นที่สาธารณะ

19.ทุกกคนมีสิทธิในการแสดงควมคิดเห็น แสวงหาข้อมูลข่าวสาร และสามารถรับส่งข่อคิดเห็นต่างๆผ่านสื่อใดๆก็ได้โดยปราศจากการแทรกแซง

20.ทุคนมีสิทธิในการชุมนุมและการสมาคมโดยสันติ

21.ทุคคนมีสิทธิที่จะมีว่วนร่วมในการปกครองประเทศของตน ทั้งโดยทางตรงหรือทางผู้แทนซึ่งมาจากการเลือกตั้งรวมทั้งทุกคนมีสิทธิที่จะเข้าถึงบรกการสาธารณะในประเทศของตนโดยเสมอภาค

22.สมาชิกทุกกคนของสังคมมีสิทธิในการเข้าถึงหลักประกันทางด้านเศรฐกิจ สังคม และวัฒนธรรม

23.ทุกคนมีสิทธิในการทำงาน สามารถเลือกงานได้โดนอิสระและมีการคุ้มครองเมื่อเกิดการว่างงงานรวมทั้งทุกคนมีสิทธิที่จะได้รับค่าจ้างี่เท่าเทียมกัน  สำหรับงานที่เท่าเทียมกันโดยปราศจากการเลือกปฏิบัติใดๆทั้งสิ้นทั้งนี้ทุกคนมีสิทธิที่จะจัดตั้งหรือเข้าร่มสหภาพแรงงาน
24.ทุคนมีสิทธิในการพักผ่อนและผ่อนคลายยามว่างโดยพักผ่อนและผ่อนคลายยามว่าง โดยพักผ่อนดังกล่าวจะต้องได้รับค่าจ้าง

25.ทุกคนมีสิทธิในมาตรฐานการครองชีพ เช่นอาหาร เครื่องนุ่งห่ม ที่อยู่อาศัย การดูและรักษาทางการแพทย์ และบริการทางสังคมที่จำเป็นเพียงพอสำหรับสุขภาพและความอยู่ดีของตนเองและครอบครัว

26.ทุกคนมีสิทธิได้รับการศึกษาขั้นพื้นฐานจากรัฐโดยไม่เสียค่าใช้จ่ายใดๆทั้งสิ้น

27.ทุกคนมีสิทธิที่เข้าร่วมในวัฒนธรรมของชุมชนอย่างอิสระ และทุกคนมีสิทธิได้รับการคุ้มครองผลประโยชน์อันเกิดจากการประดิษฐกรรมทางวิทยาศาสตร์ วรรรกรรมและศิลปกรรมซึ่งตนเป็นผู้สร้างขึ้น

28.ทุกคนมีสิทธิการจัดระเบียบทางสังคมระหว่างประเทศ

29.การใช้สิทธิและอิสรภาพของทุกคนต้องอยู่ภายใต้ข้อจำกัด เพียงเท่าที่มีกำหนดไว้ตามกฏหมายเท่านั้นตลอดจนสิทธิและอิสรภาพเหล่านี้จะไม่ขัดต่อวัตถุประสงค์และหลักการของสหประชาชาติไม่ว่ากรณีใดๆ

30.ไม่มีบทใดในปฏิญานี้ที่อาจตีความได้ว่าเป็นการให้สิทธิใดแก่รัฐ กลุ่มคน หรือบุคคลใดในการดำเนินกิจกรรมใดในการดำเนินกิจกรรมใด หรือกระทำการอันมุ่งต่อการทำลายสิทธิและอิสรภาพที่กำหนดไว่ ณ ที่นี้

ข้อไหนครับ? ช่วยตอบหน่อยครับ ถ้าศาสนาพุทธคือพระไตรปิฎก ศาสนาคริสต์คือไบเบิล ศาสนาอิสลามคืออัลกุรอาน ถ้าเป็นศาสนาจูดายของยิวก็คือบัญญัติ 10 ประการ ของโมเสส

สำหรับผม 30 ข้อนี้คือสิ่งเดียวที่ผมซึ่งเป็นอศาสนายึดถือครับ เพราะผมถือว่าทุกชาติในโลกร่วมเซ็นลงนามในข้อตกลงปฏิญญานี้แล้ว ประเทศไทยเองก็ด้วยเมื่อ พ.ศ. 2491 ดังนั้นมันจึงเป็นค่านิยมสากลที่ทั่วโลกยอมรับแล้ว และก็มันถูกบรรจุลงในรัฐธรรมนูญด้วย
ถ้าคุณไม่อาจระบุข้อไหนได้ แสดงว่าคุณ @isdogtr001 แค่กล่าวหาสร้างความเท็จเลื่อนลอยสนองความต้องการส่วนตัวนะครับ
สมเพชใครคุณหรือผมกันเเน่ครับ

ใครกันเเน่ที่หัววันๆมีเเต่เรื่องบ้าๆบอๆที่เอาเเต่ด้านลบมาเผยเเพร่กัน


ชอบด่าคนเเก่ ว่าเขาโง่เง่าไม่ทัรยุคสมัย


ด่าชาติ ด่าคนที่คุณเห็นฝ่ายตรงข้ามวันเอาเเต่ยกเรื่องประวัติศาสตร์ห้าร้อยปีก่อนมาเผยเเพร่ เเถมยังเอาคราวลือศพพวกนั้นมาบอกกล่าวที่ไม่มีมูล


ยกเรื่องร้ายมาดิสเครดิสนั้นนี้  ถึงคุณจะยกเเหล่งมายาวเเต่ข้อมูลคุณอ่านดีมันมีเเต่น้ำครับ เเถมเรื่องทั้งหมดยังประมาณไอ้นี้มันถูกใจผมนะคุณเถียงต่อไม่รู้จะยกมาเพื่อ


อีโมวันๆสักสองหรือสามกระทุ้จะมีกระทู้การเมืองที่ตั้งเเล้วมีคนมาด่าประเทศการเมอง

เขียนยาวที่เอาเเตเรื่องตัวเองอยาก เเละ รวมหัวกับกลุ่มคุณประมาณสองสามคนถกเรื่องที่เอาเเต่ใจพวกคุณ


ถามจริงใครกันเเน่ที่ควรพิจรณาตัวเองครับผมหรือคุณที่กำลังถล่ำลึกไปทางที่เเย่ๆกันเเน่ไม่ต้องมีโอกาศโต้เถียงหลอกเพราะผมบอกเเล้วพวกคุณเอาเเต่คิดเข้าข้างตัวเองไงครับเถียงไปเท่านั้น


รออายุ 60 เท่าคนเเก่ที่คุณชอบด่านะเเล้วจะรู้กันว่าคุณจะเป็นตามที่ผมพูดไหม
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: มิถุนายน 06, 2021, 03:22:51 AM โดย isdogtr001 »
 

 

Tags:
แหล่งนิยายแปล แหล่งนิยาย นิยายแปล นิยายแต่ง มังงะ การ์ตูน อนิเมะ นายท่าน เว็บไซต์นายท่าน กระทู้สไลม์ สไลม์ยอดรัก