แหล่งนิยายแปล แหล่งนิยาย นิยายแปล นิยายแต่ง มังงะ การ์ตูน อนิเมะ นายท่าน เว็บไซต์นายท่าน กระทู้สไลม์ สไลม์ยอดรัก

ผู้เขียน หัวข้อ: บทเรียนการลงทุน : มารู้จักงบการเงินกันเถอะ-1.งบดุล  (อ่าน 427 ครั้ง)

ออนไลน์ Black7nos

  • แม่ทัพหมีอาวุโส
  • ****
  • กระทู้: 4,276
  • ถูกใจแล้ว: 3313 ครั้ง
  • ความนิยม: +211/-280
ปฏิเสธไม่ได้นะครับ ไม่ว่าจะทำธุรกิจไหน ก็จำเป็นต้องทำบัญชี แต่เพื่อนๆทราบมั้ยว่างบบัญชีทางการเงินพื้นฐานมีอะไรบ้างที่เราควรรู้ วันนี้ผมจะมาอธิบายให้ฟัง
1.งบดุล(Balance Sheet) หรือ งบแสดงสถานะทางการเงิน(Statement of Financial Position)
เป็นงบแสดงสถานะทางการเงินของตั้งแต่เริ่มก่อตั้งกิจการจนถึง ณ เวลาที่เราสนใจ โดยงบจะแสดงสถานะ 3 อย่าง คือ ทรัพย์สิน(Asset) หนี้สิน(Liabilities) และทุน(Equity)

ด้วยสมการ ทรัพย์สิน = หนี้สิน + ทุน



ในเมื่อเป็นสมการ ซ้าย-ขวาย่อมต้องเท่ากันครับ หรือที่ภาษาบัญชีมักจะพูดกันว่าบัญชีมี 2 ขา ถ้าไม่เท่ามี 2 กรณีครับ คือ 1.ทำบัญชีผิดหรือตกหล่นหรือลืมบันทึกบัญชี 2.โกงหรือคอรัปชั่น

เพื่อให้เห็นภาพเรามาดูตัวอย่างครับ

จากตัวอย่างจะเห็นว่า ทรัพย์สิน = 31,470 บาท ขณะที่หนี้สิน+ทุน = 31,470 บาท เช่นเดียวกัน ดังจะเห็นว่า 2 ฝั่งเท่ากันอย่างนี้ แล้ว 2 ฝั่งมันหมายความว่าอย่างไร

เริ่มจากฝั่งขวาก่อนนะครับ ฝั่งขวา แสดงถึงที่มาของเงิน ถ้ามาจากเงินทุนของตัวเองก็จะอยู่ในช่องทุนหรือส่วนของความเป็นเจ้าของ(Equity) กลับกันถ้าเป็นเงินที่ยืมเขามาก็จะอยู่ในช่องของหนี้สิน(Liabilities)

จากนั้นเรามาดูทางฝั่งซ้ายในช่องของทรัพย์สิน(Asset) ตรงนี้จะบอกว่าเงินทุนที่ได้มาจากฝั่งขวาเอาไปทำอะไรและตอนนี้เงินทุนเหล่านั้นอยู่ในสถานะอะไรบ้าง เช่น บ้าน รถยนต์ เงินสด ฯลฯ

ที่นี้ผมขอลงรายละเอียดเพิ่มเติมนะครับ
1.ทรัพย์สิน(Asset) ยังสามารถแบ่งออกได้เป็น 2 ประเภท
   1.1 ทรัพย์สินหมุนเวียน(Current Assets) คือ ทรัพย์สินที่สามารถแปรเปลี่ยนสถานะได้อย่างรวดเร็วภายใน 1 ปี เช่น เงินฝาก เงินสด ลูกหนี้ระยะสั้น เป็นต้น
   1.2 ทรัพย์สินไม่หมุนเวียน(Non-Current Assets) คือ ทรัพย์สินที่ไม่สามารถแปรเปลี่ยนสถานได้ภายใน 1 ปี เช่น ที่ดิน อาคาร เครื่องจักร ลูกหนี้ระยะยาว เป็นต้น
   และทรัพย์สินไม่หมุนเวียนยังจำแนกย่อยได้อีก 2 ประเภท
         1.2.1 ทรัพย์สินถาวรแบบมีตัวตน(Tangible Fixed Assets) ได้แก่ ที่ดิน อาคาร เครื่องจักร เป็นต้น
         1.2.2 ทรัพย์สินแบบไม่มีตัวตน(Intangible Assets) ได้แก่ ค่าลิขสิทธิ์ทางปัญญาไม่ว่าจะเป็นนิยาย การ์ตูน รวมไปถึงโปรแกรมต่างๆ รวมถึงเกมส์ด้วย

ทีนี้เพื่อนหลายคนคงจะมีคำถามในใจว่า เราจะแบ่งแยกประเภททรัพย์สินให้มันวุ่นวายไปทำไม คำตอบก็คือ สมมุติเราจะจ่ายค่าไฟค่าน้ำค่าอินเตอร์เน็ต เราต้องเอาทรัพย์สินตัวไหนจ่ายครับ?
แน่นอนว่าเราต้องเอาทรัพย์สินที่หมุนเวียนไปจ่าย นั่นก็คือ เงินสดย่อย(Petty Cash) ไปจ่ายค่าบริการเหล่านี้ (เราคงไม่เอาบ้านไปจ่ายแทนค่าไฟค่าน้ำหรอกเนอะ 555)

2.หนี้สิน(Liabilities) คือ ภาระผูกพันของเรากับปาร์ตี้ภายนอกอื่นๆ ไม่ว่าจะเป็นการกู้เงิน การออกหุ้นกู้ หรือแม้แต่เราสั่งของได้ของแล้วแต่ยังไม่จ่ายตัง ก็ถือว่าเป็นหนี้สินทั้งหมดครับ
หนี้สินเองก็ถูกแบ่งออกเป็น 2 ประเภท เหมือนกับทรัพย์สิน คือ
   2.1 หนี้สินหมุนเวียน(Current Liabilities) คือ หนี้สินที่จะถูกบังคับชำระคืนภายใน 1 ปี เช่น เจ้าหนี้ระยะสั้นอย่างSuppliersหรือSubcontractor เงินกู้ระยะสั้นเพื่อสภาพคล่อง เป็นต้น
   2.2 หนี้สินระยะยาว(Long-Term Liabilities) คือ หนี้สินที่จะถูกบังคับชำระคืนที่มีกำหนดเกิน 1 ปี เช่น เงินกู้ระยะยาว หุ้นกู้ เป็นต้น

3.ทุนหรือส่วนความเป็นเจ้าของ(Equity) คือ ส่วนของเจ้าของที่มีส่วนได้ส่วนเสียโดยตรงกับกิจการ เช่น ทุนจดทะเบียน กำไรสะสม เป็นต้น
โดยสามารถแบ่งออกเป็น 2 ประเภท
   3.1 ทุนจดทะเบียน ถ้าพูดให้เข้าใจง่ายก็คือเงินที่เราลงทุนลงไปแก่กิจการครับ ซึ่งอาจจะมีคนเดียว หรือ หลายคนก็ได้
   3.2 กำไร/ขาดทุนสะสม เมื่อธุรกิจดำเนินการไปซักระยะ มันก็จะเกิดสิ่งที่เรียกว่า รายได้กับรายจ่ายเกิดขึ้นมา เมื่อสองตัวนี้มาหักลบกันก็จะได้ กำไร/ขาดทุน ในแต่ละปี แต่สมมุติว่ากิจการดำเนิน
การไปหลายปี กำไร/ขาดทุนของแต่ละปีก็จะถูกนำมาคิดรวมกันกลายเป็น กำไรสะสม นั่นเอง

แถมท้าย หลายคนอาจจะเคยได้ยินคำว่า Debit กับ Credit จากบัตรเดบิตและบัตรเครดิต ทราบมั้ยครับว่า 2 คำนี้แปลว่าอะไร
อันที่จริงก่อนที่นักบัญชีจะทำงบดุล เขาจะทำสิ่งที่เรียกว่า งบทดลอง(Trial Balance) เพื่อตรวจสอบว่า 2 ข้าง ทรัพย์สิน = หนี้สิน + ทุน เท่ากับหรือไม่

ทีนี้อย่างที่ผมบอกในเรื่องกำไรสะสม มันคือ รายได้สะสม - รายจ่ายสะสม

ดังนั้นผมขอเปลี่ยนรูปสมการใหม่นะครับ เป็น ทรัพย์สิน = หนี้สิน + ทุนจดทะเบียน + รายได้สะสม - รายจ่ายสะสม

แต่เพื่อให้สมการมันสวยมีแต่บวกไม่มีลบ ก็จะได้เป็น ทรัพย์สิน + รายจ่ายสะสม = หนี้สิน + ทุนจดทะเบียน + รายได้สะสม

โดยให้ข้างซ้าย ก็คือ ทรัพย์สิน + รายจ่ายสะสม คือ Debit
และข้างขวา ก็คือ หนี้สิน + ทุนจดทะเบียน + รายได้สะสม คือ Credit

ดังนั้นกลไกของบัตรเดบิต ก็คือบัตรเติมเงิน เมื่อเงินสดเข้าไปในบัตรเดบิต มันก็จะแสดงยอด ยอดนั้นหมายถึงทรัพย์สินในรูปของทรัพย์สินหมุนเวียน ทีนี้พอเราใช้บัตรเดบิต ทรัพย์สินคือยอดของบัตรเดบิตก็จะลดลง เหมือนทรัพย์สินที่อยู่ในบัตรค่อยๆหายไปจนกระทั่งมันหมด

ส่วนบัตรเครดิต มันคือการยืมเงินไปใช้ก่อนและค่อยหามาคืนใช้หนี้ที่หลัง เรียกว่า ชำระหนี้บัตรเครดิต ใครเคยมีประสบการณ์การใช้บัตรเครดิตแล้วเคยชำระยอดหนี้บัตรเครดิตเกินจำนวนที่เราใช้บ้างครับ สังเกตมั้ยครับว่าตัวเลข Over Paid จะแสดงเป็นติดลบ นั่นก็เพราะ ทรัพย์สินคือเงินสดหรือเงินฝากเอามาใส่ในช่องของ Credit มันจะกลายเป็นสมการ

รายจ่ายสะสม = หนี้สิน + ทุนจดทะเบียน + รายได้สะสม - ทรัพย์สิน เห็นมั้ยครับว่าเมื่อช่องทรัพย์สินอยู่ฝั่งขวาจากการโยกสมการ ทรัพย์สินก็จะแสดงค่าติดลบ
นั่นจึงเป็นคำตอบว่า ทำไมกรณีที่เราชำระหนี้บัตรเครดิตเกินตัวเลขถึงแสดงออกมาว่าติดลบ
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: พฤษภาคม 12, 2021, 02:44:04 PM โดย Black7nos »
ผู้กล้าอาณาจักรกุหลาบ https://goshujin.tk/index.php/topic,15078.0.html
ึคุณพ่อผมถูกเอาเงินจ้างฟาดหัว ผมเลยต้องมาเป็นนักมวยไทยที่ต่างแดน https://goshujin.tk/index.php?topic=32172.msg796105#msg796105
 
เหล่าหมีที่ถูกใจสิ่งนี้: deaddy

ออฟไลน์ deaddy

  • จอมทัพหมีหนุ่ม
  • *
  • กระทู้: 7,635
  • ถูกใจแล้ว: 2820 ครั้ง
  • ความนิยม: +186/-185
ตอนนี้ ผมสงสัย irr มากกว่ายังไม่มีเวลามาศึกษาละเอียดเลย ว่าเอาไปปรับเทียบยังไง
 
เหล่าหมีที่ถูกใจสิ่งนี้: Black7nos

ออนไลน์ Black7nos

  • แม่ทัพหมีอาวุโส
  • ****
  • กระทู้: 4,276
  • ถูกใจแล้ว: 3313 ครั้ง
  • ความนิยม: +211/-280
ตอนนี้ ผมสงสัย irr มากกว่ายังไม่มีเวลามาศึกษาละเอียดเลย ว่าเอาไปปรับเทียบยังไง


ก็คิดไว้ว่าจะพูดเรื่อง NPV กับ IRR เหมือนกัน แต่เอาไว้คราวหน้าครับ


อธิบายคร่าวๆ คือ IRR คือเสมือนเป็นส่วนกลับของ NPV ครับ


NPV ค่าที่ได้จะเป็นสกุลเงินหรือ Amount(Baht/USD) แต่ IRR จะมีค่าเป็น % Interest Rate แทนครับ
ผู้กล้าอาณาจักรกุหลาบ https://goshujin.tk/index.php/topic,15078.0.html
ึคุณพ่อผมถูกเอาเงินจ้างฟาดหัว ผมเลยต้องมาเป็นนักมวยไทยที่ต่างแดน https://goshujin.tk/index.php?topic=32172.msg796105#msg796105
 

ออฟไลน์ weapon

  • ผู้สนับสนุนเซนนิคุงY1
  • หัวหน้าฝูงหมีใหญ่
  • *****
  • กระทู้: 1,334
  • ถูกใจแล้ว: 478 ครั้ง
  • ความนิยม: +41/-11
เรียนมาหมดแล้ว และก็ลืมไปเกือบหมดแล้ว
จำได้แค่ Free cash flow ยิ่งเยอะ แสดงว่าบริษัทยิ่งมีสภาพคล่องดี ไม่เจ๊งง่ายๆ แต่สูตรคำนวณลืมไปหมดแล้ว
ตอนเรียนต้องไปลงทุนซื้อหนังสือการเงินภาษาอังกฤษมาเรียนเล่มประมาณพันบาทมั้ง
ปัจจุบัน หนังสือเก็บใส่กล่อง ไม่เคยเอามาเปิดดูอีกเลย  ???
 
เหล่าหมีที่ถูกใจสิ่งนี้: Black7nos, 29Forever

ออนไลน์ Black7nos

  • แม่ทัพหมีอาวุโส
  • ****
  • กระทู้: 4,276
  • ถูกใจแล้ว: 3313 ครั้ง
  • ความนิยม: +211/-280
เรียนมาหมดแล้ว และก็ลืมไปเกือบหมดแล้ว
จำได้แค่ Free cash flow ยิ่งเยอะ แสดงว่าบริษัทยิ่งมีสภาพคล่องดี ไม่เจ๊งง่ายๆ แต่สูตรคำนวณลืมไปหมดแล้ว
ตอนเรียนต้องไปลงทุนซื้อหนังสือการเงินภาษาอังกฤษมาเรียนเล่มประมาณพันบาทมั้ง
ปัจจุบัน หนังสือเก็บใส่กล่อง ไม่เคยเอามาเปิดดูอีกเลย  ???


โปรแกรมบัญชี เช่น SAP ช่วยคุณได้ครับ ผมก็ไม่มานั่งทำเองด้วยมือหรอกครับ(ขี้เกียจ) ให้นักบัญชีสายตรงเก่งๆเขาทำใส่ในระบบ SAP ให้เราดีกว่าครับ


ส่วนผมมีหน้าที่ตรวจและเอามาวิเคราะห์สรุปผลก็พอครับ เราไม่ต้องทำเป็น ขอแค่อ่านให้เป็นและรู้ว่ามันคืออะไรก็พอครับ
ผู้กล้าอาณาจักรกุหลาบ https://goshujin.tk/index.php/topic,15078.0.html
ึคุณพ่อผมถูกเอาเงินจ้างฟาดหัว ผมเลยต้องมาเป็นนักมวยไทยที่ต่างแดน https://goshujin.tk/index.php?topic=32172.msg796105#msg796105
 
เหล่าหมีที่ถูกใจสิ่งนี้: 29Forever

 

Tags:
แหล่งนิยายแปล แหล่งนิยาย นิยายแปล นิยายแต่ง มังงะ การ์ตูน อนิเมะ นายท่าน เว็บไซต์นายท่าน กระทู้สไลม์ สไลม์ยอดรัก