ผมได้จังหวะเริ่มเสียที ไม่ค่อยถนัื่อจีนเท่าไร
...ตัวละครองค์ชายรองแห่งวังหลวง หมิงซื่อ
1.เพศชาย
2. 180 ซม. รุปร่างสูงโปร่งผิวขาว มีลักษณะของคุณชายเจ้าสำอางค์ มีสัตว์เทพมังกรทองติดตัวมาตั้งแต่เกิด
3.องค์ชายรองแห่งวังหลวง น้องชายของไทจือองค์ปัจจุบัน บ้านรวยมาก อยากได้อะไรก็ได้ ทำอะไรมีคนตามใจ ทำให้แม้จะเป็นผู้ใหญ่มาแต่ก่อนแต่เนื่องจากถุกตามใจทำให้ติดนิสัยสปอล์ย spoil
4.ช่วงอายุ 0-15 ปี ..ค่อยๆอธิบายทีหลัง
5.มุกเจ็ดสีที่ติดตัวมาตั้งแต่เกิด กลืนไว้ในท้องจะช่วยเดินพลังวัตรรักษาอาการบาดเจ็บได้ดีและฝึกกำลังภายในได้เร็วขึ้น แค่อมเอาไว้เฉยๆก็นับว่าเดินพลังวัตรแล้ว หากอยูี่ในท้องจะเสมือนกับว่าฝึกลมปราณอยุ่ตลอดเวลา ทำให้แต่ละคนแปลกใจที่องค์ชายรอง ไม่ฝึกลมปราณแต่กลบมีลมปราณกล้าแกร่ง
6.กินเหล้ามายาไปวันวันในฐานะเชื่อพระวงศ์และศึกษาวิชาแพทย์กับเล่นแร่แปรธาตุและข้อมูลต่างๆด้านเวทมนตร์ เป็นคนที่อยู่ในโลก Xianxia แต่อยากหาข้อมูลเกี่ยวกับเวทมนตร์และอยากรู้ว่าซีกโลกตะวันตกใน Xianxia นี้มีอะไรบ้าง
7.เส้นทางการฝึกวิชา 15-30ปี
8.คู่ครอง เยอะ มีฮาเร็มในวังหลวง
9.อัพเดท
...
องค์ชายรองเกิดมาคาบช้อนเงินช้อทองมาเกิดจริงเพราะมีมุกเจ้ดสีอยู่ในท้องมาตั้งแต่เกิด
ทำให้องค์ชายรองสามารถรู้สึกถึงพลงวัตรมาได้ตั้งแต่เด็ก
ตั้งแต่ตอนเด้กก็สามารถบังคับมังกรสีทองรูปร่างขนาดเล็กให้บินไปมารอบๆเตียงและพ่นประกายไฟสีทองโชว์ให้แม่นมต่างๆดูได้
ขณะที่ไทจือ รัชทายาทได้รับการดูแลอบรมอย่างเข้มงวดมาตลอด 500 ปีที่เป็นรัชทายาทอยู่ องค์ชายรองกับไม่ต้องลำบากอะไร
ไทจือต้องพยายามอย่างมาก ที่จะได้"คู่ควร" กับยาวิเศษและสมบัติต่างๆที่ฮ่องเต้จะประทานให้ ในขระที่องค์ชายร้องที่นิสัย spoil เพียงแค่ร้องขอก็ได้แล้ว
ขณะที่ไทจือ ดำรงค์ตนเป็นแบบอย่างบริหารและช่วยราชการอย่างดี องค์ชายรองกลับเที่ยวเล่นไปมา ไม่ได้จับงานอะไรเป็นชิ้นเป็นอัน
เชื้อสายมังกรของฮ่องเต้นั้น ทุกคนถุกคาดหวังว่าจะเป็นอัจฉรินยะมาตั้งแต่เด็กทุกคน และได้รับการฝึกมาตั้งแต่ก่อนที่จะพุดได้
มีองค์ชายรองที่ผ่านการฝึกด้านพลังวัตร ทั้งที่ไม่เห็นว่าได้เก็บตัวฝึกวิชาอะไร แต่ที่เห็นบ่อยคือ องค์ชายรองขลุกอยู่กับหนังสือ ศึกษาเกี่ยวกับด้านพลังวัตรในทางทฤษฎีว่าคืออะไร และสอบถามแพทย์หลวงเกี่ยวกัลบเรื่องร่างกายและพลังวัตรร่วมถึงผลกระทบที่มีต่อร่างกาย เพื่อให้เข้าถึงขีดจำกัดที่ซ่อนอยู่ในแต่ละขั้น เพื่อใช้วิกีการทางวิทยาศาสตรืและเวทมนตร์ในการค้นหาว่าทำไมขั้นต่ำกว่าถึงเอาชนะขั้นสูงกว่าได้และวิธีการที่สามารถสะสมพลังให้ได้มากขึ้นในแต่ละขั้น
ตั้งแต่เกิดด้วยผลจากมุกเจ้ดสีและการอ้อนขอของวิเศษจากคนในวังทำให้เข้าพัฒนาลมปราณด้วยความรวดเร็ว
ดดยเฉลี่ยปีละ 0.2 ขั้น แม้จะไม่ได้ฝึกวิชาอย่างจริงจัง แต่เขาเน้นการวิเคราะห์ลมปราณคืออะไร
โดยการพอิจารณาอย่างละเอียดทุกขั้นตอนมากกว่าที่จะรีบทะลวงข้ามด่านไปเมื่อครบอายุ 5 ปี
วิทยายุทธประจำตระกูลที่ได้ศึกษา คือ เพลงหมัดจอมราชชันย์ของวังหลวง และได้รับการสอนจากราชองครักษ์และราชครู ซึ่งการฝึกของเขาเมื่อสามารถเพิ่มพลังเองได้ดดยไม่ต้องเดินลมปราณแม้สักครั้งทำให้เขาศึกษาพวกยันต์และอวงจุ้ยต่างๆที่สามารถเพิ่มพลังมุกเจ้ดสีในร่างของเขาได้ไปอีกขั้นหรือการใช้ยาวิเศษต่างๆที่มีประสิทธิภาพในการเพิ่มพลังวัตร
เขาคือผู้ถือคติ Pay to Win ในการฝึกวิชา
หมัดจอมราชันยืนั้นถ้าเปรียบเปรยคือความอหังการและพลังของมังกร หากฝึกถึงขั้นสูงจะสามารถอยู่เหนือได้ทุกกฎ มันคือวิทยายุทธที่เปรียบได้กับการก้ามข้ามกฑเกณฑ์ต่างๆที่ครอบคลุมตัวเราและตนเองเป็นผู้กำหนดกฎเกณฑ์นั้นเมือฝึกสำเร็จ
ซึ่งทำให้โครงการขจองเขาคือ scientific cultivation การวิเคราะห์วิชาอย่างเป็นวิทยาศาสตร์ ว่าวิชาเต๋าต่างๆนั้น จะส่งผลกระทบอย่างไรต่อฟิสิกส์พื้นฐานที่เคยได้รับรู้มา?
หากสามารถคิดวิชาที่สามารถเปลี่ยนไฟฟ้านับแสนล้านโวตืเป็นพลังงานได้ จะทำให้เราผ่านทัณฑ์สวรรค์ได้หรือเปล่า?
ผลจากการเพิ่มพลังได้ 0.2 ขั้นต่อปีทำให้เมื่อเขาอายุ 5 ขวบ ก้ได้บรรลุผ่านขั้นที่หนึ่งได้
...
ช่วงอายุ 0-5 ปี
ขั้นมาตรฐานมุกเจ็ดสี 0.2^5 = 1.0 ขั้น
ทานบัวหิมะ 0.1 ขั้น
ทานโสมพันปี 0.1ขั้น
ทะลวงขีดจำกัดขั้นปรับสภาพร่างกาย ด้านสมอง 0.25
ทะลวงขีดจำกัดการสะสมพลังปราณขั้นแรก 0.5
ความเข้าใจสภาพปราณ 0.05
ซีรั่มกัปตันอเมริกา error ไม่สำเร็จ เทคโนโลยีต่ำไป ขาดห้องแลบ
Jarvis สมองกลที่ใช้วิเคราะห์ error ขาดห้องแลบ
รวมขั้นมาตรฐานที่คนรู้ภายนอกคือขั้น 1.0 พลังจริง 1.0+0.1+0.1+0.25+0.5+0.05=2.0 ขั้นพลังที่แท้จริง
ยังไม่มีกระบวนท่า
..
ช่วงแรกได้พยายามคิดค้นวิธีดกงสารพัดอย่างการสร้างสมองกลที่คำนวณได้อย่าง Xianxia ที่เคยอ่านมา พบว่าแม้จะเป็นลุกรักอะไรที่ไม่มีก็คือไม่มีในยุคสมัยนี้
อีกอย่างคื อซีรั่มของกัปตันอเมริกก็สร้างขี้ยมาไม่ได้ขาดเครื่องมือและแลบพื้นฐาน แต่การศึกษาวิชาแพทย์และกายวิภาคก็ได้หาทางที่จะสร้างซีรั่มขึ้นในอนาคต
พยายามจะทะลองขีดจำกัดขั้นร่างกายให้ได้พร้อมกับความเข้าใจในสภาพปราณทำให้ควบคุมพลังวัตรได้ดีมากขึ้น
...
ช่วงอายุ 5-10 ปี
ขั้นมาตรฐานมุกเจ็ดสี 0.2^5 =1.0
ศึกษาตำราแพทย์จากแพทย์หลวงเรื่องสภาพร่างกาย 0.1
ศึกษายันต์การสร้างของวิเศษและเวทย์จากนักพรต 0.1
โสมพันปี 0.05 มีผลน้อยลงเมื่อขั้นพลังสูงขึ้น
บัวหิมะ 0.05 มีผลน้อยลงเมื่อขั้นพลังสูงขึ้น
อาบน้ำร้อนจากภูเขาไฟและน้ำเย็นจากยอดน้ำแข็ง 0.2
เข้าใจเรื่องสภาพปราณดีขึ้น 0.25 ผลน้อยลงที่ศึกษาปราณได้น้อยลง
ทะลวงขีดจำกัดของขั้นที่สอง 0.25 ขั้นตอนในการเตรียมสภาพร่างกายไม่สามารถได้พลังเยอะเท่าขั้นแรก
คอมพิวเตอร์อย่างง่ายจากแก้ว error ไม่มีผลในการวิเคราะห์พลังปราณ
รวมขั้นพื้นฐาน 1.0 พลังเพิ่มเติม 1.0
ขั้นที่คนรับรู้ 2.0 ขั้นพลังที่แท้จริง 4.0
..
ช่วงเวลานี้อ้อนฮองเฮา ฮ่องเต้และพี่ชายให้พาไปเที่ยวได้ ละน้ำแข็งหิมะพันปีหรือหินภูเขาไฟที่หายากอุ่นระอุก็ส่งมาที่วังหลวงสามารถเพิ่มพูนพลังวัตรได้
การทานบัวหิมะและโสมพันปีกลับไม่ได้ผลมากเท่าที่ต้องการเมื่อพลังสูงขึ้น
การเข้าใจเรื่องพลังวัตรก็ก้าวหน้ายิ่งขึ้นแต่น้อยกว่าในช่วงแรกเพราะทำเรื่องที่เข้าใจได้ง่ายไปหมดแล้ว
การทะลวงขีดจำกัดนั้นได้ความรู้ด้านเวทมนตร์แผ่นยันต์และความรู้ต่างๆที่หาได้มาช่วยเสริมทำให้ทะลวงผ่านขีดจำกัดที่ควรมีของขั้นนี้ได้แต่ก็ไม่สามารถทำให้ได้ดีเท่ากับขั้นแรก
หวังพึ่งการสร้าง Jarvis ด้วยพลังและความมั่นคงขงมือที่มากขึ้นทำให้สร้างคอมพิวเตอร์แบบหลอดแก้วได้ แต่ยังห่างไกลจากความฝีันที่สร้าง Jarviห สมองกลวิเคราะห์ค่าพลังได้แบบเรื่อง Xianxia โกงที่เห็นนัก
..
ช่วง อายุ 10-15 ปี
ไข่มุกเจ็ดสี 0.2^5 =1.0
ศึกษาเวทมนตร์และพลังเหนือธรรมชาติได้มากขึ้นหลังจากบรรลุ 0.5
ใช้พลังเหนือธรรมชาติสแกนร่างกายและองค์ประกอบของอะตอมและพลังปราณ เข้าใจฟิสิกส์ขจองโลกนี้มากขึ้น 0.25
บัวหิมะ 0.1 อัพเกรดด้วยเวทมนตร์ทำให้มีอาณุภาพมากขึ้น
โสมพันปี 0.1 อัพเกรดด้วยเวทมนตร์ทำให้มีอาณุภาพมากขึ้น
เหล้าดองเจ็ดหฤหรรษ์ 0.2 อายุมากขึ้นทานเหล้าได้
Jarvis Accomlished 0.5 สร้างของในระดับนาโนได้ด้วยความแม่นยำและพลังเหนือธรรมชาติ
Lab accomlished 0.2 สร้างlab และเครื่องมือวิทยาศาสตร์ที่อยู่ในห้องช่วยเรื่องการฝึกพลังวัตรได้ แต่ไม่สามารถผลิตจำนวนมาก ของใช้เฉพาะตัว
กัปตันอเมริกาซีรั่ม 0.1 สร้างสำเร็จแต่ผิดหวังที่แทบไม่ได้ผลอะไรเท่าไรนักด้วยพลังระดับปัจจุบัน
วรยุทธมังกรฟ้าหมัดราชันย์ 0.2
ทะลวงขีดจำกัดขั้นที่สาม 0.5 ด้วยความช่วยเหลือของ Javisและห้องlab ทำให้สามารถควบคุมความเป็นจริงได้ดีขึ้น
สภาพที่แท้จริงของสสารและพลังงาน 0.2 ความรู้ทางวิทยาศาสตร์และความรู้ที่ได้มาถึคงขีดจำกัดด้วยความช่วยเหลือของJarvisต่อไปนี้ต้องอาศัยการทดลองในเรื่องที่ไม่รู้
ขั้นพลังพื้นฐาน 1.0 ขั้น พลังเพิ่มเติม 2.85
ขั้นที่เป็นทางการ 3.0 พลังที่แท้จริง 7.85
..
ช่วงนี้เป็นช่วงที่สนุกมาก ที่เริ่มใช้พลังเหนือธรรมชาติทำหลายๆอย่างที่ต้องการได้ เครื่องมือที่ละเอียดที่ไม่สามารถหาได้ในยุคนี้ก็สามารถหามาได้ด้วยการทำขึ้นมาเองด้วยมือ แต่ของทุกอย่างเมื่อสร้างขึ้นด้วยมือก็ต้องใช้เวลาหลายปี ช่วงนี้เนื่องจากเป็นคน spoil แค่จะไปอาบน้ำร้อนภูเขาไฟฟับหิมะน้ำแข้งก็ยังรุ้สึกขี้เกียจเลยไม่ได้ไป
และกินบัวหิมะ โสมพันปีราวกับกินขนมแกล้มเหล้าเจ็ดหฤหรรษ์ เมือ่สามารถสร้างแล็บที่ล้ำยุคมในโลกนิยายจีนได้แล้วก็เริ่มทำการทดลองอย่างที่ตนเองต้องการได้เสียทีหลบังจากที่ใช้เวลาร่วมสิบปี แต่ซีรั่มกัปตันอเมริกาที่คาดหวังของความสมบูรณืแบบเท่าที่ร่างกายของมนุษย์ธรรมดาจะบรรลุได้นั้นกลับไม่ได้ผลอย่างที่คาดหวัง สิ่งที่ได้มาช่างน้อยนิดแต่ก็ดีกว่าไม่ได้อะไรเลย
หลังจากนั้นป้อนข้อมูลและโปรแกรมJarvis ว่าด้วยความรู้พื้นฐานของโลกนี้ที่รวบรวมไว้ในห้องสมุดของวังหลวงและศาสตร์เวทมนตร์และการแพทย์ต่างๆ รวมทั้งความรู้โลกปัจจุบัน ทำให้สามารถเข้าใจและสร้างกราฟแผนภูทมิทีซับซ้อนกว่าในโลกนี้และทะลวงขีดจำกัดขจึ้นไปอีกขั้นของขั้นนี้ที่คนทั่วไปในโลกนี้ไม่คิดว่าสามารถทะลวงได้ด้วยความช่วยเหลือของสมองกลของ Jarvi ความรู้ของสองโลก เสร็จสมบูร์ ณ ที่นี้
แต่นั่นคือขั้นแรกของ Scientific Cultivation ที่กำลังจะเริ่มต้นขึ้น วิทยาศาสร์ไม่ใช่จุดมุ่งหมายแต่คือวิธีการ วิทยาศาสตร์ก็คือเต๋า เต๋าก็คือวิทยาศาสตร์แยกจากกันมิได้ มันคือวิธีเพื่อแสวงหาวิถี
แม้อยู่ในโลก Xianxia แต่เขากลับรู้สึกขอบคุณนักวิทยาศาสตร์ของโลกนี้และความรักของพ่อต่อแม่ในโลกนี้ที่มีให้เขาจนน้ำตาไหล
ทุกอย่างจากโลกก่อนเอามาใช่้หมดแล้ว ต่อไปนี้ที่เหลือคือการทดลองที่ยังไม่มีใครค้นพบ
ด้วยความเก่งกาจดั้งเดิมและ Jarvis ที่อยู่ตรงหน้าอก เหล่าองครักษ์และพี่ชายไทจือรัชทายาทที่สอนวรยุทธให้กลับตกใจที่น้องชายที่เที่ยวเล่นไปวันวันกลับเรียนรู้เพลงยุทธแห่งราชันย์ได้เร็วเช่นนี้
และการประลองก็มาถึง