มันต้องโทษการเปลี่ยนผู้กำกับละนะ ที่พอใครมาทำก็อยากทำบทแทงหลังเจ้าชูกัน เลยได้เห็นเจ้าชูโดนแทงหลัง 3 ครั้งซ้อน
แต่ถ้าไม่พูดกันถึงตรงนั้นก็ต้องบอกว่าชูมันจิตใจอ่อนแอ โลเลไปมาไม่มีจุดยืนเป็นของตัวเองมากกว่า เรื่องถึงกลายเป็นแบบนั้นไป
กว่าจะมามีจุดยืนของตัวเองก็ตอนที่เสียไปจนจะหมดทุกอย่างแล้ว(เหลือแค่อิโนริที่ยังไม่เสียในตอนนั้น) แต่ที่น่าตลกที่สุดของเรื่องนี้คือ
ตายไปเลยตอนจบมันยังดูทรมาณน้อยกว่าแท้ๆแต่ดันปล่อยให้มีชีวิต เหมือนจะตอกหน้าชูว่าที่เจอมามันยังไม่พอนั้นแหละ(อีกอย่างคือเอาเวลา
ไปเล่นกับฉากแทงหลังเจ้าชูและความเฟลเจ้าชูตั้งมากมาย ไม่เคยแสดงฉากแสดงความรักกับอิโนริเลย แต่ตอนจบทำให้เห็นว่าชูรักกันกับอิโนริ
มากขนาดไหนซะงั้น)
คือ ผมว่ามันติดกับดักแบบเดียวกับผู้แต่ง game of throne น่ะครับ
ที่หักหลังมากเกินไปจนจบไม่ลง หรือทำลายแนวเรื่องที่สร้างมาตลอด
ที่ท่าน wing ว่าเกี่ยวกับผู้กำกับนั้นน่าสนใจครับ
ผู้กำกับ มักมองว่าตนเองคือ ศิลปิน ชอบทำฉาก "ถวาย" แบบเบอร์เซิร์กมากกว่าการปิดเรื่อง เคลียร์พล็อตและอารมณ์ทั้งหมดได้อย่างประทับใจ
ผลมันก็ลงเอยอย่างนี้ล่ะครับ
ที่ผมคิดไว้คือฝึกใช้พลังตนเอง หลบหนีออกต่างประเทศ ไม่ยุ่งกับไอ้พวกเพื่อนจอมหักหลัง น่าจะเป็นทางที่ทำให้ผมไม่เสียสติได้ดีที่สุด
คือปกติผมไม่ชอบพระเอกแนวมืดมน ไม่เชื่อใจใคร ใครมาขวางฆ่าทิ้งหมดนะ
แต่กับเรื่องนี้ไม่ไหวจริงๆ การแก้ปัญหาคงต้องมีการฆ่าคนให้อยู่ในร่องรอยกันบ้าง